นี่ๆๆๆๆๆๆ สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกๆ คน วันนี้ The KING เดอะคิงส์ ขออาสาพาเพื่อนๆ ไปดูวิธีขับรถลุยน้ำท่วม ขับแบบไหนให้รถปลอดภัย วิธีขับอย่างไร ไม่ให้รถพัง และปลอดภัย ข้อควรระวัง เตรียมพร้อมรับฤดูฝนที่กำลังตกแทบทุกวันเลย การขับรถลุยน้ำท่วมต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อป้องกันความเสียหายและรักษาความปลอดภัย นี่คือวิธีการและข้อควรระวัง ประเมินระดับน้ำ: น้ำไม่ควรสูงเกินครึ่งล้อ (ประมาณ 30 เซนติเมตร) หากน้ำสูงเกินนี้ควรหลีกเลี่ยง ใช้เกียร์ต่ำ: สำหรับเกียร์ธรรมดาใช้เกียร์ 1 หรือ 2 ส่วนเกียร์ออโต้ใช้เกียร์ L หรือ 1 ลดความเร็ว: ขับช้าๆ และรักษารอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในช่วง 1,500-2,000 รอบต่อนาที ปิดแอร์: เมื่อระดับน้ำสูงเกิน 10 เซนติเมตรควรปิดแอร์ทันทีเพื่อป้องกันน้ำเข้าสู่ห้องเครื่อง เว้นระยะห่างจากคันหน้า: เพิ่มระยะห่างจากคันหน้าเป็นประมาณ 50 เมตรเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและรักษาทัศนวิสัย ห้ามเร่งเครื่องแรง: การเร่งเครื่องจะเพิ่มแรงดูดน้ำเข้าสู่เครื่องยนต์ ทำให้เสี่ยงเครื่องยนต์ดับ ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์ซ้ำ: หากเครื่องยนต์ดับกลางน้ำ ห้ามสตาร์ทซ้ำเด็ดขาด ควรขอความช่วยเหลือ ตรวจสอบระบบเบรก: หลังผ่านน้ำควรเหยียบเบรกเบาๆ เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรก จอดรถให้ไอเสียแห้ง: หลังลุยน้ำควรจอดรถทิ้งไว้สักพักเพื่อให้ไอเสียและความชื้นในท่อไอเสียระเหยออก ตรวจสอบระบบต่างๆ: ตรวจสอบเครื่องยนต์ ระบบเบรก และระบบไฟฟ้าเพื่อป้องกันความเสียหายระยะยาว เคล็ดลับเพิ่มเติมในการขับรถลุยน้ำท่วม ชะลอความเร็วก่อนถึงจุดน้ำท่วม: การลดความเร็วจะช่วยให้คุณควบคุมรถได้ดีขึ้นและลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ ขับตามรถคันใหญ่ที่ล้อยกสูงกว่า: การขับตามรถคันใหญ่จะช่วยให้กระแสน้ำถูกพัดออกจากห้องเครื่องของคุณ ทำให้เส้นทางปลอดภัยมากขึ้น ย้ำเบรกหรือคลัตช์: การย้ำเบรกหรือคลัตช์จะช่วยไล่น้ำออกจากระบบเบรกและป้องกันไม่ให้คลัตช์ลื่น ตรวจสอบห้องโดยสารและพรม: หลังจากลุยน้ำ ควรตรวจสอบห้องโดยสารและพรมให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันกลิ่นอับและเชื้อรา เช็กกล่องฟิวส์: ตรวจสอบกล่องฟิวส์และเช็ดให้แห้งทันที หากมีน้ำเข้า เพื่อป้องกันการลัดวงจร ตรวจสอบระบบไฟฟ้า: ตรวจสอบระบบไฟฟ้าทั้งหมดว่าทำงานปกติ ไม่มีไฟกระพริบหรือดับ เหยียบเบรกย้ำ ๆ หลังลุยน้ำ: เพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรกและช่วยให้เบรกกลับมาทำงานได้ดี จอดรถให้ไอเสียแห้งก่อนดับเครื่อง: ควรจอดรถทิ้งไว้สักพักเพื่อให้ไอเสียและความชื้นในท่อไอเสียระเหยออกก่อนดับเครื่อง หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณขับรถลุยน้ำท่วมได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นนะ คำแนะนำในการดูแลรถหลังน้ำท่วม ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์ทันที: การสตาร์ทรถหลังน้ำท่วมทันทีอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายมากขึ้น ควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบก่อน ตรวจสอบของเหลวและน้ำมันเครื่อง: ตรวจเช็คของเหลวต่าง ๆ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำหล่อเย็น และน้ำมันเกียร์ หากมีน้ำปนเปื้อนควรเปลี่ยนของเหลวทั้งหมด เช็คระบบไฟฟ้าและแบตเตอรี่: ตรวจสอบสายไฟ แบตเตอรี่ และฟิวส์ เพื่อดูว่ามีความเสียหายหรือไม่ ควรเช็ดให้แห้งก่อนทดลองเปิดไฟหรือระบบต่าง ๆ ตรวจสอบระบบเบรกและช่วงล่าง: น้ำท่วมอาจส่งผลกระทบต่อระบบเบรกและช่วงล่างของรถ ควรตรวจสอบผ้าเบรก ดรัมเบรก และระบบกันสะเทือนต่าง ๆ ทำความสะอาดภายในรถ: ภายในรถที่โดนน้ำท่วมอาจมีความชื้นสะสม ควรทำความสะอาดภายในรถทันทีโดยเปิดประตูและหน้าต่างทิ้งไว้เพื่อระบายอากาศ ตรวจเช็คล้อยาง: ตรวจสอบยางรถยนต์ว่ามีสิ่งสกปรกหรือเศษวัตถุติดอยู่ในยางหรือไม่ หากพบว่ายางลื่นหรือเสื่อมสภาพควรเปลี่ยนทันที นำรถไปตรวจเช็คที่ศูนย์บริการ: ควรนำรถยนต์ไปตรวจเช็คอย่างละเอียดที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมที่เชื่อถือได้ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบทุกระบบของรถอย่างละเอียด หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณดูแลรถหลังน้ำท่วมได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยนะครับ บทความและรูปภาพทั้งหมดมาจากเพจ The KING เดอะคิงส์ ให้การเดินทางของเราเป็นจุดเริ่มต้นเดินทางของคุณ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !