ภาษี เป็นสิ่งที่ผู้มีรายได้ทุกคนต้องจ่ายเข้ารัฐ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของพลเมืองทุกคนไม่ว่าเราจะเป็นพลเมืองของประเทศไหนบนโลกนี้ ยกเว้นประเทศนั้นจะไม่มีระบบการจัดเก็บภาษี ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องจ่าย สำหรับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างยุโรปตะวันตก หรือ ประเทศกำลังพัฒนาแบบบ้านเรา การจ่ายภาษีก็ยังถือเป็นหน้าที่ของพลเมืองทุกคน สำหรับเรามีโอกาสทำงาน จ่ายภาษีทั้งที่ประเทศไทย และประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างประเทศสวีเดน จึงอยากมาแชร์ข้อมูลเรื่องการจัดเก็บภาษีของประเทศสวีเดนให้อ่านกัน หลังจากนั้นเราจะเล่าให้ฟังเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการทำงานต่างประเทศ 5 เดือนอยู่เมืองไทย 7 เดือนได้จริงมั้ย เรามาดูกันเลยค่ะระบบการจัดเก็บภาษีในประเทศสวีเดน หรับระบบการจัดเก็บภาษีในประเทศสวีเดน ถือว่ามีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง เพราะผู้มีรายได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็น คนที่มีเงินได้จากการทำงาน เงินได้จากการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น เงินช่วยเหลือสำหรับคนตกงาน เงินช่วยเหลือจากการเจ็บป่วย เงินสนับสนุนช่วยเหลือกรณีเลี้ยงดูบุตร เงินเกษียณอายุ เหล่านี้ต้องมีการหักภาษีเข้าภาครัฐทั้งนั้น หรือ แม้แต่คนที่ขายของตามตลาดนัดช่วงฤดูร้อน ก็มีการจัดเก็บภาษีเช่นกัน ซึ่งสำหรับคนสวีเดน จะถือว่า ”การจ่ายภาษีเป็นหน้าที่ของพลเมืองทุกคน” เพราะเค้ามองว่าประเทศชาติจะอยู่ได้ถ้าทุกคนช่วยกัน อย่างกรณีเราเองที่ทำงานจ่ายภาษีให้ประเทศสวีเดน เราก็จะถูกหักภาษีเงินได้ทุกเดือน นอกจากนั้น หากเราเจ็บป่วย เราก็จะได้รับเงินชดเชยจากการเจ็บป่วยจากรัฐแทนจากนายจ้าง และเงินส่วนนี้ก็ต้องถูกหักภาษีเช่นเดียวกับรายได้จากการทำงานค่ะ อัตราภาษีผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศสวีเดน อัตราภาษีผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศสวีเดน ขึ้นอยู่กับรายได้ของบุคคลนั้นเช่นเดียวกับประเทศไทย แต่อัตราภาษีในประเทศสวีเดนเริ่มต้นตั้งแต่ 30% โดยขึ้นกับเขต หรือ เมืองที่เราอยู่อาศัย อย่างเขตที่เราอยู่ไปอยู่ครั้งแรก เราจ่ายภาษีรายได้ที่อัตรา 31% (อัตราภาษีนี้รวมเงินที่หักเข้ากองทุนเกษียณอายุประมาณ 6-7% ) แต่หลังจากที่เราย้ายมาอยู่อีกเมืองหนึ่ง เราก็จ่ายภาษีที่อัตราประมาณ 33% อันนี้คืออัตราภาษีของคนปกติ ที่ไม่ใช่ผู้มีรายได้สูงนะคะ สมมุติเรามีรายได้ต่อเดือน 40,000 SEK และหักภาษี 33% เท่ากับเรามีรายได้หลังหักภาษี 26,800 SEK หรือ ประมาณ 93,800 บาทสิทธิลดหย่อนภาษีที่ประเทศสวีเดน สิทธิในการลดหย่อนภาษีที่ประเทศสวีเดน สำหรับเราถือว่ามีน้อยมาก เนื่องจากประเทศสวีเดนไม่เอื้อให้มีการลดหย่อนภาษีมากนัก ยกเว้นกรณีเป็นเจ้าของกิจการ อันนั้นก็สามารถหาวิธีลดหย่อนภาษีได้ไม่ว่าที่ประเทศไทย หรือประเทศสวีเดน สิ่งที่เราได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีด้านการลงทุนในประเทศสวีเดน ก็มีเพียงการเปิดบัญชี ISK อ่านต่อ สุดปัง! กับวิธีประหยัดภาษีด้วยบัญชีลงทุน ISK ที่นี่สวีเดน | TrueID Creator ซึ่งสามารถประหยัดภาษีได้จากการขายและสับเปลี่ยนกองทุน โดยเป็นการจ่ายภาษีแบบรายปีแทนการจ่ายภาษีเงินได้จากการขายหลักทรัพย์ ซึ่งวิธีถือว่าเป็นหนึ่งในการประหยัดภาษีแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรค่ะ สรุปเราจ่ายภาษีเข้ารัฐเดือนละ 13,200 SEK หรือ ประมาณ 46,200 บาทอย่างที่เรากล่าวตั้งแต่เริ่มต้น ว่าประเทศสวีเดนมีการจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าใครจะมีรายได้จากไหน ก็ต้องมีการจ่าย ภาษีเข้ารัฐ ( ยกเว้นคนที่ทำงานนอกกฎหมายเช่นไปทำงานดำ รับเป็นเงินสดรายวัน หรือ การค้าสิ่งผิดกฎหมาย กรณีนี้อยู่นอกเหนือที่กล่าวมาค่ะ ) ซึ่งจากการจัดเก็บภาษีเงินได้ที่สูง เงินภาษีที่ได้ก็จะกระจายออกมาในรูปสวัสดิการอื่น เช่น สวัสดิการของเด็ก สวัสดิการของผู้สูงอายุ สวัสดิการด้านการศึกษา ซึ่งเรามองว่าการจัดเก็บภาษีแบบประเทศสวีเดนกลุ่มที่น่าจะได้ประโยชน์มากที่สุด ก็คือกลุ่มคนที่มีลูกเพราะลูกสามารถเรียนฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าเทอมจนถึงระดับปริญญา นอกจากนั้นก็จะได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐด้วย แต่ถามว่าเงินที่ได้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมั้ย ก็ไม่พอแน่นอนค่ะ อย่างเราเองเคยลงทะเบียนเรียนระดับมหาวิทยาลัย ก็ได้เงินช่วยเหลือจากรัฐมาเล็กน้อย และถ้าต้องซื้อหนังสือ เงินที่ได้มาก็ไม่พอกับค่าใช้จ่าย เราจึงเลือกไปยืมหนังสือจากห้องสมุดแทน ซึ่งก็ช่วยประหยัดเงินได้เยอะ อีกอย่างเด็กนักเรียน นักศึกษาที่ประเทศสวีเดน เค้านิยมทำงานช่วงเวลาว่างกัน ซึ่งงานสำหรับนักเรียน นักศึกษาก็หาได้ง่ายเมื่อเทียบกับบ้านเรา ต่อไปเรามาดูโอกาสที่จะทำงานต่างประเทศ 5 เดือน อยู่เมืองไทย 7 เดือน ว่าจะเป็นไปได้แค่ไหน อย่างไร ? เจาะโอกาสทำงานต่างประเทศ 5 เดือน อยู่เมืองไทย 7 เดือนต่อไปมาดูโอกาสที่เราจะทำงานต่างประเทศ 5 เดือน อยู่เมืองไทย 7 เดือน ว่าจะทำได้จริงมั้ย ? ถ้าหากเราเอารายได้หลังหักภาษีที่เรากล่าวถึงข้างต้น มาแจกแจงให้คุณดูอย่างละเอียดต่อไปนี้ค่ะรายได้หลังจากหักภาษี 26,800 SEKจ่ายค่าที่พัก 6000 SEK ( จริง ๆ รายจ่ายค่าที่พักมากกว่านี้ แต่เราจ่ายแค่นี้ ที่เหลือแฟนจ่ายค่ะ)จ่ายค่าอาหาร และของใช้ส่วนตัว รวมทั้งค่ารถไปทำงาน 6000 SEK (เฉพาะอาหารและออกไปกินอาหารนอกบ้านเป็นครั้งคราว และรวมบางเดือนที่ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า เฉลี่ยเอานะคะ )แบ่งให้พ่อแม่ที่เมืองไทย 5000 SEK ฝากเข้าพอร์ตลงทุน 5000 SEK ค่าใช้จ่ายทั้งหมดต่อเดือน 22,000 SEK (26,800 SEK -22,000 SEK) = 4800 SEK เท่ากับเราเหลือเงินไว้ไปใช้จ่ายที่เมืองไทย 4800 SEK ต่อเดือน ถ้าเราเก็บเงินจำนวนนี้จนครบ 5 เดือน เรามีเงินทั้งหมด 24,000 SEK หรือ ประมาณ 84,000 บาท ซึ่งเท่ากับว่าเราจะมีเงินใช้ประมาณเดือนละ 12,000 บาท หรือ อาจจะน้อยกว่านี้หากเราเอาเงินตรงนี้จ่ายค่าตั๋วเครื่องบินด้วย แต่ถ้าเราไม่ต้องแบ่งให้พ่อแม่ และไม่ได้ฝากเข้าพอร์ตลงทุน เรามีเงินไว้ไปใช้จ่ายที่เมืองไทยเพิ่มอีก 50,000 SEK สรุปเราเก็บเงินได้ทั้งหมด 74,000 SEK ( ประมาณ 259,000 บาท ) สำหรับการไม่ได้ทำงาน 7 เดือน สรุปเราจะมีเงินใช้จ่ายเดือนละ 37,000 บาท ซึ่งจะสามารถอยู่เมืองไทยได้แบบสบาย ๆ ไม่เดือดร้อน เพราะเราทำงานในประเทศที่ค่าเงินดีกว่าค่าเงินบาท จริงมั้ยค่ะ ? ซึ่งเราเองก็คิดว่าวิธีแบบนี้ก็น่าสนใจเหมือนกัน คือ ทำงานต่างประเทศ 5-6 เดือน แล้วเอาเวลาที่เหลือไปนั่งเขียนบทความที่เมืองไทย ใช้ชีวิต Slow life แบบที่เราต้องการ ใครอยากใช้ชีวิตแนวนี้ก็ลองสมัครงานที่ต่างประเทศดูค่ะ อ่านวิธีสมัครต่างประเทศต่อได้ใน รีวิว สมัครงานต่างประเทศหลังโควิด ยากหรือง่ายในปี 2023 เผื่อจะมีเวลา Slow life แบบที่ใจต้องการ อย่างไรก็ตาม สำหรับเรารายได้หลังหักภาษีในประเทศสวีเดน ก็น่าจะยังคุ้มสำหรับการทำงาน 5 เดือน และนำเงินไปใช้จ่าย 7 เดือนที่ประเทศไทยดังกล่าวข้างต้น วันนี้ขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่นะคะปล.1 เทียบอัตราแลกเปลี่ยนที่ 1 สวีดิชโครน (SEK) = 3.5 บาท ปล. 2 รายได้ที่เราสมมุติ 40,000 SEK ต่อเดือน ถือเป็นรายได้ที่มากกว่ารายได้เฉลี่ยต่อหัวในประเทศสวีเดน ถ้ามีรายได้ต่อเดือนน้อยกว่านี้ เงินได้หลังจากหักภาษีก็จะน้อยกว่านี้ค่ะ บทความอื่นที่น่าสนใจ https://news.trueid.net/detail/PXygloovVm7K4 วิธีลดหย่อนภาษี ง่าย ได้เงินเพิ่ม (trueid.net)รีวิว สมัครงานต่างประเทศหลังโควิด ยากหรือง่ายในปี 2023 (trueid.net)สุดปัง! กับวิธีประหยัดภาษีด้วยบัญชีลงทุน ISK ที่นี่สวีเดน | TrueID Creatorเปรียบเทียบการทำงาน ที่ไทย & ที่ต่างประเทศ | TrueID Creatorประกันการตกงานในประเทศสวีเดน A-kassa & Alfa-kassa | TrueID Creatorขอขอบคุณภาพปก ภาพโดย Peggy und Marco Lachmann-Anke จาก Pixabayภาพที่ 1 ภาพโดย Peggy und Marco Lachmann-Anke จาก Pixabayภาพที่ 2 ภาพโดย Tara Winstead จาก Pexels ภาพที่ 3 ภาพโดย Michal Jarmoluk จาก Pixabay ภาพที่ 4 ภาพโดย luxstorm จาก Pixabay By Nurseonomyอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !