เศร้า! สาวอ.จอมทอง เสียชีวิตอีกราย หลังช่วยจนท.ปฏิบัติภารกิจดับไฟป่า เชียงใหม่

เมื่อวันที่ 3 เมษายน ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดเชียงใหม่ รายงานจุดความร้อน หรือ Hotspot ด้วยระบบดาวเทียมพบจำนวน 571 จุด อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 258 จุด ป่าอนุรักษ์ 294 จุด เขต สปก. 15 จุด ชุมชนและอื่นๆ 3 จุด พื้นที่ริมทาง 1 จุด

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมศูนย์บัญชาการป้องกันฯ ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VDO Conference) โดยมีนายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผู้แทนจาก มทบ.33 กองบิน 41 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยให้อำเภอที่เกิดจุดความร้อนมากที่สุด 5 อำเภอ คือ อำเภอแม่แจ่ม อมก๋อย แม่แตง เชียงดาว และจอมทอง รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับสถานการณ์หมอกควันไฟป่าเช้าวันนี้ ได้รับการสนับสนุนอากาศยานจำนวน 5 ลำ จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ 2 ลำ ปภ. 1 ลำ กองทัพอากาศ 1 ลำ หน่วยบินกรมฝนหลวง 1 ลำ และอากาศยานไร้คนขับ UAV จากกองทัพอากาศ ปฏิบัติการขึ้นบินด้วย

นายเจริญฤทธิ์ กล่าวว่า ขอย้ำให้ทุกอำเภอบูรณาการกับหน่วยหลัก เข้าไปสร้างความเข้าใจและการรับรู้ พร้อมทั้งขอความร่วมมือชาวบ้านในพื้นที่ โดยเฉพาะหมู่บ้านชาติพันธุ์ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตป่าอนุรักษ์ และเขตป่าสงวน ให้อยู่ภายใต้การดำเนินการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ที่ห้ามเผาตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม – 30 เมษายน รวมทั้งให้ใช้มาตรการทางกฎหมายควบคู่กันไป และเร่งรัดทุกอำเภอในการแจ้งความดำเนินคดี รวบรวมพยานหลักฐานในแต่ละพื้นที่ กรณีเขตป่าสงวนที่เป็นพื้นที่ป่าทำกิน ให้แจ้งชื่อเจ้าของพื้นที่ให้กับตำรวจ และรายงานศูนย์บัญชาการฯ จังหวัดเชียงใหม่ โดยเร็ว และขอให้ปฏิบัติตามแนวทางที่จังหวัดได้สั่งการอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่สั่งการเด็ดขาดโดยให้ 17 จังหวัดภาคเหนือ จุดความร้อนต้องเป็นศูนย์ภายในสัปดาห์นี้

ด้านนายคมสัน กล่าวว่า ขอให้ทุกอำเภอใช้ชุดลาดตระเวนประจำหมู่บ้าน เป็นกลไกในการสร้างการมีส่วนร่วมประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจ สร้างการตระหนักรู้กับพี่น้องประชาชน และเมื่อหลังจากประกาศจังหวัดเชียงใหม่สิ้นสุดลงในวันที่ 30 เมษายนแล้ว จะได้มีการดำเนินการบริหารจัดการเชื้อเพลิงโดยใช้หลักวิชาการ ซึ่งทางจังหวัดได้เตรียมแผนรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังแสดงความห่วงใยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทุกฝ่ายในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้ชีวิตอยู่ในป่า ทั้งเรื่องการอาศัย และอาหารที่รับประทาน เนื่องจากในช่วงนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนคำนึงถึงสุขลักษณะในการรับประทานอาหาร อีกทั้งการประจำการอยู่ในพื้นที่ป่าด้วย

อย่างไรก็ตามในพื้นที่อำเภอจอมทอง รายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 เมษายน มีราษฎรผู้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการดับไฟป่าในพื้นที่เสียชีวิต 1 ราย เนื่องจากเกิดไฟไหม้ป่าเป็นบริเวณกว้างบริเวณบ้านบนนา หมู่ที่ 14 (หย่อมบ้านขยัน ท้ายหมู่บ้านซึ่งเป็นภูเขาสูง) ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ผู้นำหมู่บ้านได้ขอความร่วมมือราษฎรในหมู่บ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่ไฟป่าจอมทอง หน่วยป้องกันรักษาป่าห้วยโจ้ อุทยานแห่งชาติออบหลวง และฝ่ายปกครอง เข้าร่วมดับไฟป่าที่ลุกลามเข้ามาใกล้หมู่บ้าน จนถึงช่วงมืดค่ำแต่ผู้ตายก็ยังไม่ได้กลับมายังหมู่บ้าน ผู้นำหมู่บ้านจึงขอให้ช่วยกันออกติดตามค้นหา จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. ได้พบศพของนางต๊ะนี กิจเจริญพัฒน์ อายุ 41 ปี ชาวอ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ สภาพศพถูกไฟคลอกทั้งตัว และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จึงแจ้งพนักงานสอบสวน สภ.จอมทอง และนำศพมาเก็บไว้ที่ รพ.จอมทอง เพื่อทำการชันสูตรพลิกศพตามกฎหมายเมื่อเวลา 05.00 น.​วันนี้ ถือเป็นรายที่ 2 ในรอบฤดูไฟในปีนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้พ่อหลวงแดง หรือ นายนิพนธ์ จาระธรรม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะเข้าดับไฟป่าในพื้นที่เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ได้เสียชีวิตลงเมื่อวานนี้เช่นกัน