เมื่อวันใกล้ส่งงานมาถึง งานกลุ่มที่บรรจงทำมาตลอดทั้งเทอม ยังไม่ค่อยคืบหน้าไปไหน ข้อมูลในอินเตอร์เน็ตก็เริ่มไม่เพียงพอ อาจารย์ที่ปรึกษาจึงแนะนำให้ติดต่อ สัมภาษณ์ บริษัทเลย แต่การจะต้องไปติดต่อกับผู้ใหญ่ดูเป็นเรื่องไกลตัว สำหรับนักศึกษาอย่างเรา ๆ เรื่องที่ยากที่สุดเลยคือการโทรเข้าไป ลำพังจะโทรเข้าไป Say hi ให้ดูสุภาพก็ว่ายากแล้ว แต่จะทำยังไงให้ได้งานด้วยสิ ขอบคุณภาพจาก https://unsplash.com/photos/5cFwQ-WMcJU วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการและ ขั้นตอนในการโทรไปหานัดหมายบริษัท แบบมืออาชีพ ให้ไม่ขายหน้า และไม่เสียชื่อเสียงมหาลัยฯด้วย 6 ขั้นตอน เหล่านี้จะเพิ่มความมั่นใจให้น้อง ๆ ได้อย่างแน่นอน1. ต้องเริ่มที่ทัศนคติจูนความคิดตัวเองก่อน ว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ใช่เรื่องน่าอาย มันเป็นเรื่องปกติ และบริษัทส่วนใหญ่ ก็มีนโยบายจะให้ข้อมูลแก่มหาลัยฯอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ต้องกลัว แค่ทำตัวเป็นน้อง ๆ นักศึกษาที่น่ารัก พี่ ๆ ที่บริษัทก็พร้อมช่วยอยู่แล้ว2. ศึกษาข้อมูลก่อนลงสนามจริงในการโทรนัดหมายสิ่งสำคัญคือ การรู้พื้นหลัง เบื้องลึกของบริษัทที่จะโทรเข้าไปก่อนว่า เป็นบริษัทแบบไหน ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร เกี่ยวข้องกับงานเรายังไง การรู้ข้อมูลส่วนนี้ จะช่วยให้เราตอบคำถามเวลาโทรคุยได้ราบรื่นมากยิ่งขึ้น และไม่ผิดพลาดกับเรื่องง่าย ๆ เช่น โทรไปสาขาเล็ก แทนที่จะเป็นสาขาใหญ่ หรือโทรไปหาบริษัทที่ปิดกิจการไปแล้ว3. เลือกโทรให้ถูกเวลากฎขั้นพื้นฐานคือ โทรในช่วงเวลาที่บริษัทเปิดทำการเท่านั้น กล่าวคือช่วงประมาณ 10:00 ถึง 16:00 เว้นช่วงพักเที่ยงไว้ด้วย เพราะพนักงานในบริษัทน่าจะออกไปทานข้าวกันหมด ไม่อยู่รับสาย แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดจริงคือ ช่วงเช้า คือช่วง 10:00 – 11:00 เพราะช่วงเช้าของวันแต่ละวัน ชีวิตของพนักงานบริษัทยังราบรื่น อารมณ์ดีอยู่ ถ้าโทรไปช่วงนี้ ก็จะคุยกันง่าย แต่ถ้าลองนึกภาพว่าโทรไปช่วงบ่าย วันนั้นพี่พนักงานที่รับโทรศัพท์อาจจะต้องทำงานค้าง หรือ เพิ่งโดนเจ้านายว่า หรือเพิ่งกลับมาจากประชุมลูกค้าเหนื่อย ๆ ก็พาลให้ เรื่องที่เราขอร้องไป อาจจะโดนลอยแพไปก็ได้4. เมื่อโทรไป ให้กล่าวแนะนำตัวอย่างสุขภาพ และบอกจุดมุ่งหมายอย่างกระชับเช่น “ สวัสดีครับ ผมชื่อ.... มาจากมหาวิทยาลัย.... ต้องการจะมาขอสัมภาษณ์ฝ่ายการตลาด เพื่อประกอบการทำรายงานวิจัยครับ ” ยิ่งกระชับเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้รับการตอบรับมากขึ้นเท่านั้น ให้ลองคิดดูว่า วัน ๆ นึงพี่พนักงานคนนั้นอาจจะต้องรับโทรศัพท์ คนที่มาขายของที่บริษัทแทบทุกวัน การที่เราไม่อ้อมค้อม และพูดชัดถ้อยชัดคำว่ามาจากไหน ทำอะไร จะทำให้เราดูน่าเชื่อถือมากขึ้น5. ตอบคำถามเบื้องต้นเมื่อโทรแนะนำตัว เรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าพี่พนักงานที่รับโทรศัพท์ จะถามเกี่ยวกับตัวรายงานว่าเกี่ยวกับอะไร ต้องการนัดสัมภาษณ์ใคร ยังไง ก็ให้เราตอบไป6. และอย่างสุดท้าย การขอตามตื้ออย่างชาญฉลาดการโทรศัพท์เข้าไป คือการบอกคร่าว ๆ แต่การตัดสินใจในบริษัท จะเกิดขึ้นจริงผ่านอีเมล์ ฉะนั้นในทุก ๆครั้งที่เราโทรไปหาบริษัท เราจะต้องขออีเมล์เพื่อส่งข้อมูลเพิ่มเติมไป(เขียนจ่าหน้าอีเมล์ให้ถูกคนด้วยล่ะ! ) ปกติบางมหาลัยฯ เราสามารถให้ทางมหาลัยฯทำเอกสารให้ได้ เราก็สามารถเอาเอกสารจากทางมหาลัยฯ ส่งไปให้ทางบริษัทประกอบการพิจารณาทริคเล็ก ๆ น้อย ที่ช่วยให้บริษัทไม่ลืมรายงานของเราคือ การบอกว่าเราจะติดต่อมาอีกทีเมื่อไหร่ เช่นจะติดต่อเพื่อมาตามเรื่องในอีก 3 วัน ทริคส่วนนี้จะทำให้เราโทร(ตามตื๊อ) ติดตามได้อย่างไม่น่าเกลียดขอบคุณภาพจาก https://unsplash.com/photos/8K62atzbulQและสุดท้าย ไม่มีวิธีการไหนที่ใช้ได้ผลอย่างดี ถ้าไม่มีเวลามากพอ การติดต่อนัดหมายกับบริษัทค่อนข้างจะใช้เวลา น้อยสุดคือ 15 วัน จนถึงเกือบ ๆ 2 เดือนเลยทีเดียวในกรณีที่เป็นบริษัทใหญ่มาก ๆ ฉะนั้นต้องรีบดำเนินการ และเผื่อเวลาให้มากที่สุด แม้ในครั้งแรก ๆจะมีการผิดพลาด ผิด ๆ ถูก ๆ บ้าง แต่เชื่อเถอะว่า บริษัทส่วนใหญ่ล้วนให้อภัยเด็ก และพร้อมจะช่วยเหลืออยู่แล้วขอบคุณภาพจาก https://unsplash.com/photos/GzumspFznSEฉะนั้นไม่ต้องกลัว และทำให้เต็มที่ : - ) ขอบคุณภาพหน้าปกจาก https://unsplash.com/photos/WEDDt-u3q3o