สธ.เผยผลตรวจ RT-PCR พนง.เสิร์ฟไม่ติดโควิด ชี้โอไมครอนในไทยพบแค่ 1 ราย

วันนี้ (7 ธ.ค.64) นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุถึ ความคืบหน้ากรณีชาวอเมริกัน ผู้ติดเชื้อโควิด สายพันธุ์โอไมครอน 

จากการสอบสวนโรค พบ มีผู้สัมผัสเสี่ยง แบ่งเป็น จากโรงแรมที่ชายชาวอเมริกันพัก 17 คน ผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ 16 คน ส่วนอีก 1 คน เป็นพนักงานเสิร์ฟอาหาร มีประวัติเดินทางไป จ.อุบลราชธานี จึงได้ให้พื้นที่ทำการตรวจเชื้อโควิด ส่วนกลุ่มผู้สัมผัสในสนามบินได้ตรวจเชื้อพนักงานในสนามบิน 2 คน ผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ 2 คน 

สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่เป็นพนักงานเสิร์ฟ พบว่า เป็นชายไทยอายุ 44 ปีสัญชาติไทย ไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีอาการป่วยได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ครบ 2 เข็ม โดยช่วงวันที่ 29-30 พ.ย.หยุดอยู่บ้าน และได้ไปตลาดปากซอยหมู่บ้านที่กรุงเทพฯ 

วันที่ 1 ธันวาคม เวลา 12.00 น. เดินทางไปทำงานที่โรงแรม เวลา 21.30 น. เสิร์ฟอาหารให้กับผู้เดินทางชาวอเมริกันและให้เซ็นเอกสาร โดยใส่หน้ากากอนามัยทั้งคู่ หลังออกจากห้องกักได้ทำความสะอาดอุปกรณ์

วันที่ 2 ธันวาคมเวลา 18.00 น ถึง 20:00 น ปฏิบัติงานด้านเอกสารที่โรงแรม  

วันที่ 3 ธันวาคม เดินทางกลับบ้าน จ.อุบลราชธานี พร้อมครอบครัว 4 คนด้วยรถยนต์ส่วนตัว และรับญาติที่ จ.นครราชสีมา 1 คน มีแวะตลาดแถวบ้านใส่หน้ากากตลอดเวลา 

วันที่ 4 ธันวาคม พักอาศัยอยู่บ้านตลอด และได้รับแจ้งว่าเป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 เชื้อโอไมครอน 

วันที่ 5 ธันวาคม ถูกเก็บตัวอย่างเชื้อ และเลือด ที่โรงพยาบาลพิบูลมังสาหาร และส่งตรวจเชื้อที่สถาบันบําราศนราดูร และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 

วันที่ 6 ธันวาคม เดินทางกลับกรุงเทพฯ ทราบข่าวว่าผลตรวจหาเชื้อเบื้องต้นสงสัยเป็นบวก เข้ารับการรักษาที่สถาบันบําราศนราดูร และเข้ารับการตรวจด้วย RT-PCR 

วันที่ 7 ธันวาคม เมื่อ 12.00 น. ที่ผ่านมา ผลตรวจ RT-PCR ที่สถาบันบําราศนราดูร ยืนยันรอบ 2 ผลเป็นลบและอยู่ระหว่างการกักตัว 

สรุป ยังไม่พบผู้สัมผัสใกล้ชิดชาวอเมริกันที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ทำให้ประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อโควิคสายพันธุ์โอไมครอน 1 ราย โดยผู้สัมผัสทั้งหมดจะถูกตรวจหาเชื้ออีกครั้งในวันที่ 13-14 ธันวาคมนี้ 

ขณะที่ สถานการณ์ติดเชื้อโควิด-19 ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาอยู่ในแนวโน้มที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จะเห็นว่าผู้ป่วยที่มีภาวะปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจลดลงด้วยเช่นเดียวกัน 

สำหรับผู้โดยทางเข้าไทยตั้งแต่ 1 ถึง 6 ธันวาคม เข้ามาในระบบ Test And Go จำนวน 110,079 มีรวมติดเชื้อ 18 คนอัตราการติดเชื้ออยู่ที่ร้อยละ 0.2 เดินทาง ระบบ Sandbox สะสมรวม 4,998 คนติดเชื้อ 1 คนอัตราการติดเชื้อ 0.02 

ส่วนสถานการณ์ระบาดโควิด สายพันธุ์ใหม่โอไมครอนทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อ 54 ประเทศ ในจำนวนนี้ติดเชื้อในประเทศ 19 ประเทศ พบในผู้เดินทางเท่านั้น 35 ประเทศ และยังไม่มีการรายงานผู้เสียชีวิตจากโอไมครอน รวมถึงยังไม่พบผู้ป่วยอาการหนัก

ส่วนแนวโน้มโควิด-19 จะเปลี่ยนเป็นโรคประจำถิ่นหรือไม่ นพ.จักรรัฐ ระบุว่า โอไมครอนจะเป็นสัญญาณหนึ่งที่ดีว่า การติดเชื้ออาการจะไม่รุนแรง และจะคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ ซึ่งอาจจะเป็นสถานการณ์ที่เข้าไปสู่การเป็นโรคประจำถิ่นมากขึ้น

ส่วนการป้องกัน การฉีดวัคซีนโควิด ยังคงสำคัญที่จะต้องเร่งฉีดให้ครอบคลุม การใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง และมาตรการสาธารณสุขต่างๆที่ยังคงต้องปฏิบัติไปก่อนจนกว่าสถานการณ์โรคจะเปลี่ยนไป.

ภาพจาก แถลงข่าวกรมควบคุมโรค