APM เล็งขายไอพีโอเข้า SET เตรียมส่งลูกค้าเทรด 4 บริษัท

ดร.สมภพ  ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM เปิดเผยว่า บริษัทปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เพื่อรองรับการเติบโต และสร้างองค์กรสู่ความยั่งยืนในอนาคตควบคู่ไปกับการเติบโตของตลาดทุนไทย ด้วยการพัฒนาบุคลากรที่มีความพร้อม มีประสบการณ์ และทำงานอย่างเป็นมืออาชีพ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลาย มีความซับซ้อนในเชิงธุรกิจมากยิ่งขึ้นพร้อมทั้งมีการนำเสนอนวัตกรรมและเครื่องมือทางการเงินแบบใหม่ที่ทันสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับภาพรวมการลงทุนและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เสมือนเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่พร้อมเดินเคียงข้างไปกับลูกค้า เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดของลูกค้าได้

*เล็งเข้า SET อีก 3 ปี

นายสมศักดิ์  ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APM เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ภายใน 3 ปีนับจากนี้ หลังจากที่ได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยปัจจุบันมีงานที่ปรึกษาการเงิน (FA) เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนทั้ง SET และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) รวมกว่า 20 บริษัท คาดจะเข้าซื้อขายในปีนี้ 3-4 บริษัท ล่าสุดได้ยื่นไฟลิ่งเพิ่มไปอีก 1 บริษัท ได้แก่ บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ CH และจะทยอยยื่นไฟลิ่งต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้

สำหรับภาพรวมของธุรกิจในปี 2565 ว่า APM ยังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าในทุกกลุ่ม ทั้ง IPO การปรับโครงสร้างหนี้ การหาแหล่งเงินทุน รวมถึงการควบรวมกิจการและการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ และการประเมินมูลค่าหุ้นหรือกิจการ ตลอดจนได้ศึกษารายละเอียดของธุรกิจและเครื่องมือทางการเงินอื่น เช่น กลุ่ม Digital Asset เพื่อให้คำแนะนำกับลูกค้า เพื่อก่อให้เกิดโอกาสทางธุรกิจที่มีประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุดให้กับลูกค้า

ทั้งนี้บริษัทมีความพร้อมในการเป็นที่ปรึกษาให้กับกลุ่มลูกค้าประเภทสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ต้องรอความชัดเจนจากหน่วยงานที่กำกับดูแลเกี่ยวกับกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆ ทั้งนี้ปัจจุบันมีลูกค้าที่มีความต้องการที่จะออกและเสนอขาย Utility Token ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำดีล 1 โครงการ ซึ่งลูกค้าเป็นกลุ่มธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ และคาดว่าจะมีเข้ามาเพิ่มอีก 1-2 ดีลในปีนี้

*บุก CLMV อัพฐาน

ส่วนงานในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งหลังจากที่ได้มีการจัดตั้งสำนักงาน "APM ลาว" และ "APM กัมพูชา" จึงมีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการนำบริษัทจากต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งในรูปแบบ Dual-listed และ Primary Listing

นอกจากนี้บริษัทได้มีส่วนร่วมให้กลุ่ม Start Ups และ SMEe เพื่อเข้าถึงการระดมทุนในกระดาน 3 หรือ Live Exchang ซึ่งถือเป็นโอกาสทางธุรกิจของกลุ่มดังกล่าว และถือเป็นโอกาสในการรองรับกลุ่มลูกค้าประเภท Private Equity ที่บริษัทจะมุ่งเน้นในปีนี้อีกด้วย