trend การทำงานที่เปลี่ยนไป ตามยุค ตามสมัยที่เปลี่ยนแปลงปี 2562 ผ่านไป ปี 2563 ก็เข้ามาแทนที่ หลาย ๆ คนอาจจะเคยอ่านเจอ ข่าวเกี่ยวกับผู้ประกอบการ โรงงานบางแห่งที่ต้องยุติการทำงานโดยการประกาศเลิกจ้าง หรือ การประกาศเรื่องการย้ายฐานการผลิต ตามหน้าหนังสือพิมพ์หรือ หนังสือพิมพ์ออนไลน์กัน สาเหตุหนึ่งอาจเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ เช่น ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น หรือค่าจ้างขั้นต่ำที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการผลิตโดยตรง หรือการปรับตัวของแต่ละโรงงานต่อสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยค่ะ ขอบคุณภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay แล้วในเราในฐานะพนักงาน ที่ยังคงทำงานกันอยู่ในภาคอุตสาหกรรม ล่ะ เป็นอย่างไรในปัจจุบันต้องยอมรับว่าคนรุ่นใหม่ ที่เกิดหลังพ.ศ. 2538 จะมีความคิด มีไอเดียในการทำงานที่ต่างไปจากคนรุ่นก่อนหน้า ที่เน้นเรื่องการทำงานเฉพาะในออฟฟิศ หรือ ในโรงงานเท่านั้น และ แต่ละคนก็จะทำงานเฉพาะอย่า ไปสมัยนี้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะว่า คนรุ่นใหม่มองว่า “งานไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ดังนั้นไม่จำเป็นต้องทุ่มเทเวลาให้กับงานมากจน ไม่มีเวลาให้กับตัวเองและคนรอบข้าง” ซึ่งพวกเขาก็จะหางานที่เหมาะกับตัวเอง และความถนัดซึ่งนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ Trend และ Life style ของการทำงานของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไปคือ1. ไม่ยึดติดกับอาชีพเพียงอาชีพเดียว นอกจากการทำงานในออฟฟิตแล้ว เมื่อเลิกงาน พวกเขาจะรู้สึกว่า พวกเขาสามารถทำอะไรได้อีกหลายอย่าง มีความสามารถมากกว่าอย่างเดียว บางคนชอบการแนะนำ ,ชอบรีวิวสินค้า ก็อาจผันตัวเองไปเป็นแม่ค้า พ่อค้าออนไลน์ เป็นต้น , บางคนชอบการเขียนแบบ ชอบวาดภาพก็อาจมีการเขียนเพจสำหรับรับการเขียนแบบหรือวาดภาพ , บางคนชอบถ่ายรูป ก็อาจผันตัวเองไปเป็นช่างภาพมือสมัครเล่น และพัฒนาจนเป็นช่างภาพมืออาชีพ เป็นต้นค่ะ 2. ใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาตัวเองและช่วยในการทำงานมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง คนรุ่นใหม่จะใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์และสร้างรายได้เพิ่มให้กับตัวเอง พร้อมทั้งสร้างทางเลือกในการทำอาชีพเสริม เช่น การพัฒนาตัวเองในด้านการตัดต่อวีดีโอ , การพัฒนาตัวเองเพื่อเป็น Youtuber , การเขียนบทความ, การเขียนนิยาย, การแนะนำเกมส์ หรือแม้กระทั่งการเล่นเกมส์จนเป็นอาชีพหลัก ซึ่งถือว่าเป็นการใช้เทคโนโลยี/ประยุกต์เทคโนโลยีที่มีอยู่มาปรับใช้ตามความชอบ พร้อมทั้งสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้ด้วยขอบคุณภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabay จินตนาการ สำคัญ3. การไม่ยึดติดกับสถานที่และเวลาในการทำงาน จริงอยู่ที่การทำงานจะต้องมีการลงเวลา มีการเข้างานอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็มีหลาย ๆ ที่ สนับสนุนให้พนักงานสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องลงเวลา และเข้ามาทำงานในที่ทำงาน ยกตัวอย่างเช่น Google ที่เน้นเรื่องผลลัพธ์ของการทำงานมากกว่า เพราะการที่ทำงานในสถานที่จำเจ ๆ , การที่ต้องรู้สึกว่าชีวิตต้องลงชื่อตลอดเวลา แต่การที่ปล่อยให้พนักงานมีอิสระในการทำงาน Relax ไม่เครียด จะดึงความคิดสร้างสรรค์ และ จินตนาการได้ดีกว่า ซึ่งเป็นการทำงานที่ไม่ได้ทำงาน แต่ได้ทำในสิ่งที่ชอบ ซึ่งจะได้งานที่ดีกว่าค่ะขอบคุณภาพโดย FunkyFocus จาก Pixabay ทุกที่คือ ที่ทำงานซึ่งนี่ก็เป็น Trend การทำงานของคนรุ่นใหม่ไม่ใช่เพียงแค่การทำงานในออฟฟิตเท่านั้น แต่ทุกที่ ทุกเวลา สามารถทำงาน และสร้างรายได้เสมอขอบคุณภาพโดย Stefan Keller จาก Pixabay การที่เราตึงเครียดมากเกินไป หรือ การที่เราหย่อนมากเกินไป เปรียบเสมือนธนูที่หย่อนมากเกินไป ก็ไม่สามารถใช้งานได้ หรือการที่ตึงสายธนูให้ตึงตลอดเวลา ก็อาจทำให้คันธนูหัก การผ่อนคันธนูบ้าง ,การตึงคันธนูให้เหมาะสม ย่อมทำให้ใช้ธนูอันนั้นได้นานและมีประสิทธิภาพมากกว่าเปรียบเสมือนคนเราค่ะ ถ้าตึงหรือหย่อนมากเกินไป บางครั้งปล่อย บางครั้งตึง บางครั้งปรับให้พอดี เพื่อทำให้ตัวเราทำงานอย่างมีความสุข พร้อมกันกับบริษัทได้รับผลประโยชน์ และมีกำไรนี่แหละค่ะ คือ Trend ในการทำงานของปี 2563 นี้ ขอบคุณค่ะBy Ikkyryoขอบคุณภาพหน้าปก : ภาพโดย William Iven จาก Pixabay