ลำปางวิกฤตมาก ความร้อนพุ่ง 117 จุด ไฟป่าลาม 200 จุด ยังเข้าไปดับไม่ได้

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ จ.ลำปาง วันนี้ สำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง ได้รายงานข้อมูลตามภาพถ่ายดาวเทียม ที่ทางจิสด้าตรวจพบจุดความร้อน หรือจุดฮอตสปอต ที่เกิดไฟไหม้ป่า และในที่โล่งแจ้งมากถึง 117 จุด กระจายในพื้นที่ 12 อำเภอของ โดยเกิดขึ้นในเขตป่าสงวนแห่งชาติมากที่สุด รองลงมาพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ซึ่งหากแยกเป็นรายอำเภอ พบว่า ขณะนี้เกิดไฟไหม้ป่าในพื้นที่ อ.เถิน จ.ลำปาง หนักที่สุด มีจำนวน 30 จุด และลงมาเป็นพื้นที่ อ.แม่พริก 26 จุด

โดยทั้ง 2 อำเภอข้างต้น เป็นพื้นที่อำเภอทางตอนใต้ของ จ.ลำปาง ซึ่งในช่วงการเฝ้าระวังในปีนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา พบเกิดไฟไหม้ป่าขึ้นกว่า 200 จุด และแต่ละจุดก็เกิดไฟไหม้ป่าลามอย่างหนัก และขยายวงกว้าง โดยเฉพาะบนสันเขา และกลางหุบเขา ที่ยากแก่การเข้าถึง โดยเฉพาะตามแนวเทือกเขาผีปันน้ำ ซึ่งเป็นเขาสูง และยาวที่ตั้งตระง่าเชื่อมต่อกับ จ.แพร่ จ.สุโขทัย จ.ลำปาง และ จ.ตาก

จากสถานการณ์ไฟไหม้ป่าในพื้นที่อำเภอทางตอนใต้ของ จ.ลำปาง จึงทำให้สภาพพื้นที่ อ.เถิน และ อ.แม่พริก จ.ลำปาง ไม่ต่างจากพื้นที่เขตตัวเมืองลำปาง ก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันหนาแน่น มองด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน ซึ่งพื้นที่อำเภอตอนใต้ของ จ.ลำปาง ก็เผชิญกับปัญหาหมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 จากการเผาไหม้มานานกว่า 3 สัปดาห์ แล้วเช่นกัน แต่ในพื้นที่ดังกล่าว ไม่สามารถตรวจวัดค่าได้ เนื่องจากไม่มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัติโนมัติของกรมควบคุมมลพิษตั้งอยู่ในพื้นที่

ด้านพื้นที่ในเขตตัวเมืองลำปาง และ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติของกรมควบคุมมลพิษตั้งอยู่ วันนี้ รายงานค่าอยู่ระหว่าง 68 – 73 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินค่ามาตรฐานทั้ง 4 สถานีตรวจวัด คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยวันนี้ค่าเฉลี่ยในแต่ละสถานีขยับเพิ่มสูงขึ้นมา โดยวัดได้สูงสุดที่ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร , ต.พระบาท อ.เมือง เขตตัวเมืองลำปาง 73 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร , ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ 72 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่ ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ 68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ จากการเกิดไฟไหม้ป่าในวันนี้ ที่ตรวจพบมากถึง 117 จุด กระจายใน 12 อำเภอของ จ.ลำปาง ทำให้เกิดควันไฟลอยสะสมในอากาศ และจะทำให้สถานการณ์หมอกควัน และค่า พีเอ็ม 2.5 ขยับสูงขึ้นมาอีก นับเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ว่า สถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ลำปาง กำลังจะขยับเข้าสู่ภาวะวิกฤต