เรามาดูช่องทางโดยทั่วไปที่เชื้อโควิด-19 จะเข้าสู่ร่างกายเราอย่างไร ช่องทางไหนบ้าง มีทางป้องกันอย่างไร มาดูกัน ช่องทางการได้รับเชื้อ มี 3 ช่องทาง หลัก ๆ คือ เยื่อบุตา จากการขยี้ตา หรือตารับละอองเชื้อเป็นละอองฝอยน้ำลายเมื่อเราได้พูดคุยโดยไม่ได้สวมใส่หน้ากากปลิวเข้าตา จมูก จากการหายใจเอาละอองเชื้อเป็นละอองฝอยน้ำลายเมื่อเราได้พูดคุยโดยไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัย เชื้อจะเกาะที่โพรงจมูกทำให้ติดโรค ปาก จากการเอามือจับอาหารเข้าปาก หลังจากสัมผัสจุดเสี่ยงที่มีโอกาสได้รับเชื้อ เช่น เงิน ประตู ราวบันได ลิฟท์ ตะกร้าใส่ของ เป็นต้น หรือรับประทานอาหารร่วมชามเดียวกับผู้ติดเชื้อก็สามารถเกิดโรคได้ ดังนั้น กรมควบคุมโรค จึงออกมาให้คำแนะนำในการป้องกันการติดเชื้อโควิด ลดการแพร่กระจายเชื้อโรค เป็นการใช้ชีวิตประจำวันวิถีใหม่ หรือ ตามวิถี New Normal คือ กินร้อน กินอาหารสุก ช้อนตัวเอง รับประทานอาหารแยกจานชาม หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือสบู่ฆ่าเชื้อก่อนหยิบอาหารเข้าปาก สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ไม่ไปในที่ชุมชนแออัด อากาศไม่ถ่ายเท รักษาระยะห่างทางสังคม แต่ถึงแม้ว่า เราปฏิบัติตามคำแนะนำแล้ว ยังเข้าไปอยู่ในไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ หรืออยู่ใกล้ชิดผู้ที่ทำงานร่วมกับผู้ติดเชื้อ แล้วต้องทำอย่างไรต่อ มาดูกัน ให้ประเมินว่าตนเอง ว่ามีความเสี่ยงขั้นไหน ดังต่อไปนี้ ความเสี่ยงสัมผัสเชื้อโควิด มี 3 ระดับ คือ กลุ่มที่ 1 ความเสี่ยงสูง คือ ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโดยตรง หรือไปสถานที่ผู้ติดเชื้อไปตามไทม์ไลน์ แนะนำรีบไปตรวจดูว่าตนเองติดเชื้อหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ ทางรัฐตรวจให้ฟรี ไม่ไม่มีค่าใช้จ่าย ระหว่างรอผลควรกักตัว 14 วัน และควรมีการตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้ง หากผลเป็นไม่พบเชื้อในครั้งแรก กลุ่มที่ 2 ความเสี่ยงต่ำ คือ ผู้ใกล้ชิดผู้สัมผัสเสี่ยงสูง( คนกลุ่มที่ 1 ) แนะนำกักตนเองอยู่ที่บ้าน อย่างน้อย 14 วัน หรือรอผลจากคนกลุ่มแรกว่าติดเชื้อหรือไม่ กลุ่มที่ 3 ไม่มีความเสี่ยง คือ ผู้ใกล้ชิดผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ( คนกลุ่มที่ 2 ) สามารถใช้ชีวิตปกติตามวิถี New normal ดังนั้น การแจ้งไทม์ไลน์ที่เป็นความจริง จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้เรารู้ว่า เราอยู่ในกลุ่มเสี่ยงระดับไหน เห็นข่าวมากมาย ที่บุคลากรทางการแพทย์ อยู่กลุ่มเสี่ยงสูง แล้วต้องกักตัว 14 วัน เนื่องจากคนไข้ปกปิดไทม์ไลน์ ทำให้โรงพยาบาลขาดแคลนคนทำงาน เกิดผลกระทบขึ้นอย่างมหาศาล เมื่อเราต้องอยู่กับโควิด เราก็ควรรู้เรื่องโควิดให้ถ่องแท้ เหมือนเราคบแฟนก็ต้องรู้นิสัยแฟน จึงมีการพัฒนาแอปพลิเคชันที่จำเป็น และเป็นตัวช่วยอย่างแอปพลิเคชัน ไทยชนะ และ หมอชนะ ไว้ติดตามว่าเราเสี่ยงสัมผัสเชื้อ มากน้อยเพียงใด จะทำให้เราไม่พลาดข้อมูลว่าเราอยู่กลุ่มเสี่ยงไหม และยิ่งไปกว่านั้น คือ มีกฎหมายว่า ถ้าติดเชื้อโควิดแล้วไม่มีแอปพลิเคชันนี้ มีผลดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งกฎหมายและข้อบังคับต่าง ๆ มีการอัปเดตทุกวัน ส่วนข่าวสาร แนะนำติดตามได้จากเพจ Facebook ไทยสู้โควิด หรือเว็บไซต์ กรมควบคุมโรค จะมีการอัปเดตสถานการณ์โควิดในทุกวันในสถานะการณ์ทั้งประเทศ อาจจะเหนื่อยหน่อย อาจจะท้อกันหน่อย ในช่วงนี้ เรื่องนี้จะจบได้ เราต้องร่วมมือกัน มีความรับผิดชอบต่อสังคม ยังไงเราก็จะผ่านมันไปให้ได้ เพื่อให้เราอยู่กับคนที่เรารักให้นานที่สุด. เครดิตภาพ : ภาพประกอบทั้งหมดจาก Pexels โดย 1 Edward Jenner / 2 Monstera / 3 Monstera / 4 Cedric Fauntleroy / 5 Jonathan Borba / 6 Tracy Le Blanc เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !