โลกร้อนเขย่า “ค้างคาว” อ้วนแค่ไหนก็ไม่รอด

ทีมนักวิจัยนานาชาติเปิดเผยผ่านวารสาร Ecology Letters ว่า ค้างคาวทั่วโลกมีพฤติกรรมสะสมไขมันตามฤดูกาลเพื่อเอาชีวิตรอดในช่วงที่อาหารขาดแคลน ไม่ว่าจะเป็นฤดูหนาวในเขตหนาว หรือฤดูแล้งในเขตร้อน โดยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศกำลังส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ

การศึกษารวบรวมข้อมูลจากค้างคาวหลายสายพันธุ์ในพื้นที่ต่าง ๆ พบว่า แม้ในเขตร้อนที่อากาศอบอุ่นตลอดปี ค้างคาวก็ยังมีการ “อ้วน” ล่วงหน้า เพื่อเตรียมรับมือกับฤดูแล้งที่แมลงและดอกไม้ลดจำนวนลงอย่างมาก นักวิจัยชี้ว่า ค้างคาวบางชนิดมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง 50% ซึ่งถือว่าเป็นภาระหนักสำหรับสัตว์ที่ต้องใช้พลังงานสูงในการบิน

นอกจากนี้ ยังพบความแตกต่างระหว่างเพศ โดยเฉพาะในพื้นที่หนาวเย็น ค้างคาวเพศเมียจะใช้ไขมันอย่างประหยัดกว่าตัวผู้ เพื่อรักษาพลังงานสำหรับเลี้ยงลูกในฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่ในพื้นที่อบอุ่น พฤติกรรมระหว่างเพศทั้งสองมีแนวโน้มใกล้เคียงกันมากขึ้นอย่างไรก็ตาม แนวโน้มหนึ่งที่สร้างความกังวลคือ ค้างคาวในเขตร้อนเริ่มสะสมไขมันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สะท้อนว่าฤดูแล้งอาจทวีความรุนแรงและยากจะคาดการณ์มากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยง เช่น การออกหาอาหารนานขึ้น เสี่ยงถูกล่า และเสียชีวิตเพิ่มขึ้น

นักวิจัยเตือนว่า หากพฤติกรรมการสะสมพลังงานของค้างคาวล้มเหลว อาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อระบบนิเวศ เพราะค้างคาวมีบทบาทสำคัญในการควบคุมแมลง ผสมเกสร และกระจายเมล็ดพันธุ์ หากประชากรค้างคาวลดลง ระบบนิเวศทั้งหมดอาจเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

ทีมวิจัยระบุว่า ค้างคาวไม่ใช่แค่เหยื่อของโลกร้อน แต่เป็นผู้ปรับตัวอย่างชาญฉลาดต่อฤดูกาล แต่ขีดจำกัดของการปรับตัวนั้นกำลังถูกท้าทายโดยโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วขึ้นเรื่อย ๆ