ยุคสมัยแห่งการแข่งขันในปัจจุบัน ซึ่งนอกเหนือจากในเรื่องของการดำเนินธุรกิจและการลงทุนต่าง ๆ รวมไปถึงการแข่งขันทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมแล้ว การดำรงชีวิตของผู้คนก็ล้วนเต็มไปด้วยการแข่งขันแย่งชิงไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสอบ การเรียน การทำงาน หรือแม้แต่เรื่องความรัก การมีคุณสมบัติอันโดดเด่น ตลอดจนการเตรียมตัวหรือเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดียิ่งจึงถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญที่อาจนำพาไปสู่ชัยชนะได้ นอกจากนี้การมีความเชื่อมั่นหรือในเรื่องของจิตใจเป็นพื้นฐานก็ถือเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยหลายคนที่อยู่ในช่วงสอบ หรือในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออย่างการเตรียมตัวเพื่อสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนก็ย่อมมีความปรารถนาที่อยากจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่ตนเองใฝ่ฝัน ดังนั้นนอกจากความตั้งใจ และความพยายาม ทุ่มเทในการเรียน การอ่านหนังสือ และการทบทวนฝึกทำข้อสอบอย่างขยันขันแข็งและต่อเนื่องแล้ว เมื่อขึ้นชื่อว่าการสอบหรือการแข่งขัน ย่อมโน้มนำความรู้สึกไปในทางวิตกกำลังและเคร่งเครียดไม่น้อยถึงจุดหมายปลายทางว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แม้บางครั้งเราจะเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ในใจยังคงว้าวุ่น ไม่สบายใจ ดังนั้นการหาที่พึ่งทางใจจึงกลายเป็นทางออกของใครหลายคน ซึ่งแน่นอนไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหน หนึ่งในการหาทางออกในเรื่องดังกล่าว ก็คือการพึ่งพาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้ประสบกับความสำเร็จดังสิ่งที่ปรารถนาไว้คำถามคือ ถ้าเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว แต่อยากบนบานศาลกล่าว เพื่อให้เกิดความสบายใจ และความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าในทางจิตวิทยาก็อาจส่งผลให้เราสามารถทำข้อสอบ หรือแม้แต่การดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น วันนี้ผมจึงขอแนะนำ 7 สถานที่ยอดนิยม สำหรับการไหว้ข้อพร หรือการสักการะเพื่อบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อการขอพรให้สมหวังเรื่องของการสอบติด เรื่องเรียน หรือแม้แต่เรื่องการงาน การใช้ชีวิต และความรัก ซึ่งก็ต้องขอย้ำเตือนก่อนว่าทั้งหมดถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล 1. ท้าวมหาพรหม ที่มาภาพประกอบ https://pixabay.com/photos/bangkok-thailand-buddha-city-2742071/ศาลท้าวมหาพรหม หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ หน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เป็นสถานที่ยอดนิยมอันดับต้น ๆ ที่มีคนไปบนเพื่อให้สอบติดกันเยอะมาก โดยมีความเชื่อว่า ท้าวมหาพรหม คือมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ในศาสนาพราหมณ์ที่คอยดลบันดาลให้พรแก่ผู้ที่ทำความดี โดยส่วนใหญ่แล้วนอกเหนือจากการขอเรื่องการสอบ การเรียนแล้ว มีผู้ไปขอในเรื่องการงาน รวมถึงเรื่องความสำเร็จต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ไม่เพียงเฉพาะชาวไทยเท่านั้นที่มาไหว้ขอพระ แต่รวมไปถึงชาวต่างชาติจากทั่วโลกที่หลั่งไหลเข้ามาขอพรอย่างแน่นขนัดไม่เว้นแต่ละวันเครื่องสักการะ: ธูป 12 ดอก, เทียน 1 เล่ม, พวงมาลัยเอกดาวเรือง 4 พวง โดยให้ไหว้ทั้ง 4 ด้านเนื่องจากพระพรหมมี 4 หน้า และอาจมีผลไม้ นม น้ำหวานหรือน้ำเปล่า ทั้งนี้เครื่องสักการะดังกล่าวจะมีบริการขายให้เราบริเวณรอบ ๆ ศาล ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องเตรียมไปก็ได้ช่วงเวลาสักการะ: 06.00 – 22.30 น. ของทุกวัน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือ วันอังคารหรือวันพฤหัสบดีการบนและวิธีการแก้บน: ส่วนใหญ่จะบนด้วยการถวายนางรำ หรือการรำแก้บน โดยใช้นางรำเป็นเลขคู่คือ จำนวน 2 4 6 และ 8 คน ซึ่งจะมีคณะนางรำพร้อมรำตลอดบริเวณศาล หรือจะถวายเป็นช้างไม้ ก็ได้ เนื่องจากช้างเอราวัณเป็นของท่าวท้าวมหาพรหมพิกัด: บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โดยอยู่บริเวณด้านหน้าของโรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ ตรงข้ามกับโรงพยาบาลตำรวจ และอยู่ใกล้กับห้างเซ็นทรัลเวิลด์ และห้างเกษรพลาซ่า หรือเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีชิดลม 2. พระพิฆเนศภาพประกอบโดยผู้เขียนพระพิฆเนศถือเป็นสถานที่ไหว้ข้อพรยอดนิยมในเรื่องการสอบติดเช่นกัน เนื่องจากมีความเชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ และเทพเจ้าแห่งศิลปะวิทยาการ และสติปัญญา ใครที่อยากเข้าเรียนในคณะที่เกี่ยวกับศิลปะและการบันเทิง หรือแม้แต่สาขาอื่น ๆ รวมทั้งอยากประสบความสำเร็จในเรื่องการเรียนหรือหน้าที่การงานก็สามารถขอพรหรือบนบานได้เช่นกันเครื่องสักการะ: ธูป 5 ดอก, เทียน 1 เล่ม, พวงมาลัยดอกไม้สีเหลือง, ผลไม้, นม, น้ำหวาน หรือน้ำเปล่า ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้วจะมีการจำหน่ายเครื่องสักการะดังกล่าว บริเวณรอบ ๆ ศาลอยู่แล้ว โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเตรียมไปก็ได้ช่วงเวลาสักการะ: สามารถสักการะได้ตลอด 24 ชั่วโมงการบนและวิธีการแก้บน: ส่วนใหญ่จะเป็นกากรขอพรจากท่าน โดยเคล็ดว่า หลังจากที่จุดธูป เทียน เรียบร้อยแล้ว ให้ตั้งสวดนะโม 3 จบ ตามด้วยการสวดคาถาบูชาพระพิฆเนศตามซึ่งจะมีติดไว้บริเวณด้านหน้าฐานองค์พระพิฆเนศ หลังจากนั้นให้ตั้งจิตอธิษฐานและขอพร โดยควรขอพรเพียง 1 ข้อเท่านั้น หลังจากนั้นนำพวงมาลัยมาวางที่เท้าพระพิฆเนศ และลูบเท้าหน้าพระพิฆเนศ 3 ครั้ง แล้วตั้งจิตอธิษฐานขอพรที่ขอไปในครั้งแรกอีกครั้ง เมื่อเสร็จจากตรงนี้แล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการกระซิบบอกที่ตัวหนู ซึ่งอยู่ด้านขวาขององค์พระพิฆเนศ โดยจะต้องลูบที่ตัวหนู 3 ครั้งจากนั้นปิดหูหนูข้างหนึ่งก่อน จึงกระซิบไปที่หูอีกข้าง โดยการกระซิบนี้จะเป็นการพูดย้ำพรที่เราขอไปอีกครั้งพิกัด: บริเวณสี่แยกห้วยขวาง ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพ ห้วยขวาง กรุงเทพฯ โดยการเดินทางที่สะดวกที่สุดคือการนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT แล้วขึ้นทีสถานีห้วงขวาง ทางออกที่ 4 แล้วเดินย้อนกลับขึ้นมาบริเวณสี่แยกห้วงขวาง 3. พระตรีมูรติภาพประกอบโดยผู้เขียนส่วนใหญ่แล้วเราจะรู้จักพระตรีมูรติกันในฐานะเทพเจ้าของความรัก หลายคนจึงมักจะมาขอในเรื่องของความรักกันที่นี่ พระตรีมูรติถือเป็นสัญลักษณ์ของการรวมพลังของเทพเจ้าทั้ง 3 องค์ได้แก่ พระพรหม พระอิศวร (ศิวะ) และพระวิษณุ (นารายณ์) ซึ่งมีความหมายในการสร้างพลังทั้ง 3 คือ การสร้าง รักษา และทำลายโลก จึงเท่ากับการแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้าในสรรพสิ่งและเป็นผู้ปรารถนาความสำเร็จในทุกประการ แม้ส่วนใหญ่จะขอเรื่องความรัก แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การสอบ การงาน ครอบครัว เงินทอง หรือแม้กระทั่งสุขภาพก็สามารถขอได้ให้ท่านดลบาลได้เครื่องสักการะ: ธูป 9 ดอก, เทียนแดง 1 เล่ม, ดอกกุหลาบแดง 9 ดอก, ผลไม้สีแดง, น้ำอ้อย และนมสดช่วงเวลาสักการะ: 09.00 – 22.00 น. ของทุกวัน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือวันพฤหัสบดี เวลา 21.30 – 22.00 น.การบนและวิธีการแก้บน: ผลไม้ที่มีสีแดง กุหลาบแดง พวงมาลัยกุหลาบแดง หรือช้างไม้ สุนัขและโคไม้พิกัด: บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชประสงค์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ หรือเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีชิดลม 4. ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครภาพประกอบโดยผู้เขียนศาลหลักเมืองถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ซึ่งตามประเพณีตั้งแต่โบราณ เมื่อมีการสร้างเมืองใหม่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็จะต้องมีการสร้างเสาหลักเมืองเพื่อเป็นสิริมงคลและความวัฒนาผาสุกแก่เมือง โดยศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ นั้น ส่วนใหญ่จะไหว้ขอพรกันในเรื่องความสำเร็จ หน้าที่การงาน แน่นนอนว่ารวมไปถึงเรื่องการสอบ และการเรียนด้วนเครื่องสักการะ: ธูป 3 ดอก, เทียน 1 เล่ม, ผ้าแพร 3 สี, ทองคำเปลว, พวงมาลัย 2 พวง, ดอกบัว 2 ดอก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจำหน่ายเครื่องสักการะดังกล่าวอยู่แล้ว บริเวณรอบ ๆ ศาลช่วงเวลาสักการะ: 05.30 – 19.30 น. ของทุกวันการบนและวิธีการแก้บน: การถวายผ้าแพร 7 สีพิกัด: ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บริเวณมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของท้องสนามหลวง ตรงข้ามพระบรมมหาราชวังหรือวัดพระแก้ว ถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ หรือสามารถเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะที่ไปสนามหลวง ซึ่งมีหลายสาย เช่น สาย 2, 3, 32, 33, 59, 60, 70, 512, 203 เป็นต้น 5. พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชภาพประกอบโดยผู้เขียนสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี นับเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรธนบุรี ผู้มีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นต่อประเทศไทย โดยส่วนใหญ่แล้วผู้คนมักจะมาไหว้ขอพรและบนบานเกี่ยวกับเรื่องการค้าขาย การงาน และการปลดเปลื้องหนี้สิ้น รวมไปถึงเรื่องการเรียน การสอบ ก็ได้เช่นกันเครื่องสักการะ: บนใช้ธูป 16 ดอก หรือหากขอพรใช้ธูปใช้ธูป 9 ดอก, พวงมาลัยดอกดาวเรือง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีการจำหน่ายเครื่องสักการะดังกล่าวอยู่แล้ว บริเวณรอบ ๆช่วงเวลาสักการะ: ตลอด 24 ชั่วโมงการบนและวิธีการแก้บน: ดาบไทย, ปืนใหญ่จำลอง หรือเครื่องเซ่นไหว้แบบจีนเต็มชุดพิกัด: ศาลหลักเมืองบริเวณวงเวียนใหญ่ ถนนประชาธิปก แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ หรือเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีวงเวียนใหญ่ 6. พระบรมราชานุสาวรีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หรือพระบรมรูปทรงม้าภาพประกอบโดยผู้เขียนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพัฒนาประเทศไทยให้เจริญรุดหน้าในทุกด้าน ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักและเทิดทูนยิ่งของคนไทย จนได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า “ปิยะมหาราช”โดยเชื่อกันว่า การสักการะ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นการขอพรให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน และเป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป รวมไปถึงเรื่องการเรียน และการสอบด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของประเทศ อย่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเครื่องสักการะ: ธูป 9 ดอก, ดอกกุหลาบสีชมพู, น้ำมะพร้าว, กล้วยน้ำว้า, ซึ่งส่วนใหญ่แล้วควรเตรียมมาเอง เนื่งจากจะไม่มีการจำหน่ายเครื่องสักการะ บริเวณโดยรอบ ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณที่ตั้งของพระราชานุสาวรีย์อยู่ในเขตพระราชฐาน จึงต้องระมัดระวังเรื่องการแต่งกาย และอาจมีการปิดพื้นที่กรณีมีการจัดงานหรือพระราชพิธีสำคัญช่วงเวลาสักการะ: ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือ เวลา 22.00 น. ของวันอังคารการบนและวิธีการแก้บน: ส่วนใหญ่จะเป็นการไหว้ขอพรโดยใช้ดอกกุหลาบสีชมพู หรือบนตามที่เหมาะสมเนื่องจากบริเวณที่ตั้งของพระราชานุสาวรีย์อยู่ในเขตพระราชฐานพิกัด: บริเวณด้านหน้าของพระที่นั่งอนันตสมาคม เขตดุสิต กรุงเทพฯ โดยมีรถประจำทางหลายสายที่ผ่าน เช่น สาย 16, 23, 70, 505, 509 เป็นต้น 7. อนุสาวรีย์หลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือศาลเสด็จเตี่ยภาพประกอบโดยผู้เขียนกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือศาลเสด็จเตี่ย มีพระนามเต็มคือ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้ทรงเป็นต้นราชสกุล "อาภากร" และเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 31 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้ทรงสร้างคุโณปการมากมายต่อประเทศไทย โดยส่วนมากผู้คนนิยมมาขอพรเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา เรื่องสอบ เรื่องเรียนเครื่องสักการะ: ธูป 9 ดอก หรือ 19 ดอก, เทียน 1 คู่, ดอกกุหลาบแดง หรือพวงมาลัยดอกมะลิ เป็นต้น โดยใหญ่แล้วที่ศาลจะมีธูป เทียน ไว้ให้ และบริจาคตามศรัทธา หรืออาจเตรียมของมาเองก็ได้ เนื่องจากไม่ค่อยมีผู้จำหน่ายเครื่องสักการะเท่าที่ควรช่วงเวลาสักการะ: ตลอด 24 ชั่วโมงการบนและวิธีการแก้บน: อาจเป็นประทัด หมากพลู บุหรี่ เหล้าโรง 28 ดีกรี ขนมทองหยอด กาแฟดำ ปลาช่อนแป๊ะซะ ซึ่งสำคัญคือห้ามถวายพะแนงเนื้อเด็ดขาดพิกัด: บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ศูนย์พณิชยการพระ นครถนนพิษณุโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับทำเนียบรัฐบาล ฝั่งเชิงสะพานชมัยมรุเชฐทั้งหมดนี้ไม่ได้มีเจตนาให้งมงาย แม้เรามัวแต่อ้อนวอนขอพึ่งพาสักการะแต่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยปราศจากซึ่งการเตรียมตัว เตรียมพร้อมโดยเฉพาะสติปัญญา การทบทวนความรู้ และการเตรียมพร้อมของข้อมูลทางวิชาการที่จำเป็นที่ต้องใช้ในการสอบ ก็มิอาจมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลหรือนำพาให้เราไปสู่ความสำเร็จได้โดยง่าย ที่มาภาพหน้าปก https://pixabay.com/photos/smoke-blow-incense-sticks-1943398/