นอร์เวย์-เดนมาร์ก พบโดรนไม่ทราบที่มาบินเข้าใกล้น่านฟ้า จนต้องสั่งปิดสนามบิน

ท่าอากาศยานหลักในกรุงออสโลของนอร์เวย์ และ กรุงโคเปนเฮเกนของเดนมาร์ก ประกาศปิดให้บริการกะทันหันเป็นเวลาหลายชั่วโมง หลังจากสามารถสังเกตุเห็น “โดรนไม่ทราบที่มา” จำนวนหลายลำบริเวณน่านฟ้าใกล้กับสนามบินของทั้ง 2 แห่ง เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ต่อเนื่องช่วงเช้าวันนี้ (23 กันยายน) ตามเวลาท้องถิ่น

โฆษกประจำสนามบินโคเปนเฮเกนกล่าวว่าได้สั่งปิดน่านฟ้าเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. และสั่งห้ามเครื่องบินทำการเทคออฟ หรือ แลนด์ดิง หลังจากพบโดรน 3 ลำ บินเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งจากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นโดรนที่พบถูกอธิบายว่ามีลักษณะ “ใหญ่” และสามารถพบเห็นโดรนรอบสนามบินได้ไปจนถึงเวลา 23.17 น. ถึงได้มีการประกาศเปิดให้บริการสนามบินอีกครั้ง แต่ผลกระทบทำให้เที่ยวบินบางเที่ยวถูกยกเลิกและล่าช้าไป แม้จะยังไม่มีการจับกุมเกิดขึ้น แต่เดนมาร์กกำลังดำเนินการสอบสวนเหตุทั้งหมด รวมถึงจะมีตรวจสอบเพื่อระบุชนิดของโดรนที่พบด้วย

ขณะที่สถานการณ์ในกรุงออสโล ของนอร์เวย์ น่านฟ้าบริเวณสนามบินถูกปิดจนถึงในช่วงเช้าวันนี้ หลังสามารถสังเกตโดรนอีกชุดหนึ่งในบริเวณโดยรอบ ทำให้เที่ยวบินต่าง ๆ ต้องถูกย้ายไปลงจอดที่สนามบินใกล้เคียงในนอร์เวย์แทน

อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่าเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันที่นอร์เวย์และเดนมาร์กมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ แต่สื่อท้องถิ่นนอร์เวย์รายงานว่าโดรนได้บินผ่านป้อมปราการอาเคอร์ชูส ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ยุคกลางและถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานต่าง ๆ ของรัฐบาลในปัจจุบัน โดยก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่าตำรวจในกรุงออสโลเพิ่งจับกุมตัวชาวต่างชาติ 2 คน ที่พยายามบินโดรนเข้ามาในเขตหวงห้าม

ทั้งนี้ ยุโรปตกอยู่ภายใต้การเตือนภัยเกี่ยวกับโดรนรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้า หลังเกิดเหตุเช่นนี้ที่น่านฟ้าของโปแลนด์ โรมาเนีย และล่าสุดคือที่เอสโตเนีย ภายในระยะเวลาไม่กี่วัน ทำให้นาโตตัดสินใจเปิดปฏิบัติการเสริมความแข็งแกร่งให้พันธมิตรปีกทางตะวันออกของทวีปยุโรป ซึ่งจากเหตุที่เกิดขึ้นล่าสุดที่นอร์เวย์และเดนมาร์กก็ยังไม่ทราบชัดเจนว่ามีความเกี่ยวข้องกับโดรนของรัสเซียหรือไม่