รีเซต

สหรัฐชี้สวมหน้ากาก2ชั้น ผูกหน้ากากแน่น (สาธิตในข่าว) กันโควิดร้อยละ95

สหรัฐชี้สวมหน้ากาก2ชั้น ผูกหน้ากากแน่น (สาธิตในข่าว) กันโควิดร้อยละ95
ข่าวสด
11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:32 )
267
สหรัฐชี้สวมหน้ากาก2ชั้น ผูกหน้ากากแน่น (สาธิตในข่าว) กันโควิดร้อยละ95

สหรัฐชี้สวมหน้ากาก2ชั้น - วันที่ 11 ก.พ. นิวยอร์ก ไทมส์รายงานว่า ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อของสหรัฐอเมริกา หรือซีดีซี แนะนำให้ชาวอเมริกันสวมหน้ากากอนามัยให้แน่นหนา หรือหากเป็นไปได้ให้สวม 2 ชั้น หลังผลวิจัยใหม่บ่งชี้ว่าสามารถลดการติดต่อของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ซาร์ส 2 (SARS-CoV-2) ลงได้ถึงร้อยละ 96.5

 

https://www.youtube.com/watch?v=iK15O7ivuUA

 

คำแนะนำใหม่จากซีดีซีเกิดขึ้นหลังการทดสอบหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่แน่นหนา และการสวมหน้ากากผ้าปิดทับหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ช่วยลดการติดต่อของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 ได้มากถึงร้อยละ 96.5

 

แพทย์หญิงเรเชล พี.วาเลนสกี ผู้อำนวยการซีดีซี กล่าวเรียกร้องให้ชาวอเมริกันดูแลการสวมหน้ากากป้องกันให้แน่นหนา ท่ามกลางแนวโน้มการระบาดที่ยังมีสูง พร้อมยืนยันว่ายังไม่ใช่เวลาการผ่อนปรนมาตรการสวมหน้ากาก

 

 

"การศึกษานี้บอกอะไร โดยสรุปก็คือการสวมใส่หน้ากากป้องกันนั้นได้ผลแน่นอน และจะได้ผลดีที่สุดหากสวมใส่อย่างถูกต้องแน่นหนา" พญ.วาเลนสกี ระบุ

รายงานระบุว่า แม้การสวมใส่หน้ากากป้องกันจะได้ผลดีกว่าการไม่สวมใส่หน้ากากใดๆ ในการป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจ ทว่า อากาศที่รั่วซึมผ่านเข้าออกได้ที่ด้านข้างของหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ประสิทธิภาพการป้องกันลดลง

 

 

การศึกษาดังกล่าวพบว่า การแก้ไขสำหรับผู้สวมใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์สามารถทำได้ด้วยเทคนิคการผูกปมที่บริเวณยางรัดใบหู ดังคลิปสาธิตด้านล่าง เรียกว่า “knotting and tucking” ส่วนอีกวิธีหนึ่งเป็นการสวมหน้ากาก 2 ชั้น เป็นหน้ากากผ้าทับหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ อย่างไรก็ดี การศึกษาของซีดีซียังไม่ได้ทดสอบการสวมหน้ากากป้องกัน 2 ชั้นแบบอื่นๆ

 

https://www.youtube.com/watch?v=2TTg53aAP8Q

 

ซีดีซี ยังระบุด้วยว่า แม้แนวโน้มการระบาดของไวรัสก่อโรคโควิด-19 เริ่มลดลงแล้วในบางมลรัฐ แต่การมาถึงของไวรัสก่อโรคโควิด-19 ชนิดใหม่ๆ ที่เกิดจากการกลายพันธุ์อาจทำให้การระบาดกลับมาพุ่งสูงขึ้นใหม่ได้ทุกเมื่อ ประชาชนทั่วไปจึงไม่ควรประมาท และต้องป้องกันตัวอยู่เสมอ

 

นพ.วิลเลียม ชาฟเนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลต์ กล่าวว่า การสวมหน้ากากป้องกันจะต้องมีอยู่ต่อไปอย่างน้อยจนกว่าประชากรวัยกลางคนส่วนใหญ่จะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันการหวนกลับไปสู่ปากเหวแห่งหายนะทางการแพทย์

 

"ยิ่งโอกาสการติดต่อน้อยลงเท่าไหร่ ก็เป็นการลดโอกาสที่ไวรัสชนิดนี้จะกลายพันธุ์ด้วย และเป็นการลดความเสี่ยงของการระบาดรอบใหม่ที่จะมาจากไวรัสชนิดใหม่" นพ.ชาฟเนอร์ ระบุ

 

ด้านพญ.ลินด์ซีย์ มาร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคทางเดินหายใจจากสถาบันโพลีเทคนิคและมหาวิทยาลัยรัฐเวอร์จิเนีย หรือเวอร์จิเนียเทค ระบุว่า "ดิฉันรู้ว่าเดี๋ยวคงต้องถูกแซวว่าอะไรอีกหล่ะ ให้ใส่ 3 ชั้นเลยดีมั้ยอย่างงั้น หรือ 4 ชั้นมั้ย แต่ก็ต้องเข้าใจว่าก็มีคนอีกกลุ่มที่เค้าก็อยากรู้ว่าหน้ากากเค้ากันได้หรือไม่ กันได้แค่ไหน และทำยังไงถึงจะกันได้ดีขึ้นน่ะค่ะ เพราะใครๆ ก็คงอยากได้สิ่งดีที่สุดทั้งนั้น"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง