"กรุงเทพฯ" ติดอันดับ 11 เมืองค่าครองชีพแพงสุดสำหรับคนรวย
วันนี้ (13 เม.ย.64) รายงานไลฟ์สไตล์และความมั่งคั่งทั่วโลกประจำปี 2564 ที่จัดทำโดยธนาคารจูเลียส เบเออร์ ระบุว่า เมืองในเอเชียยังครองตำแหน่งสถานที่ค่าครองชีพแพงสุดสำหรับกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง (High net worth individuals-HNWIs) ที่มีสินทรัพย์สภาพคล่องสูงไม่ต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากความสามารถในการตอบสนองต่อวิกฤตโควิด-19 และค่าเงินที่มีเสถียรภาพ ทำให้ราคาสินค้าหรูยังอยู่ในระดับสูง
รายงานเผยว่า เมืองในเอเชีย 5 แห่งมีชื่อติดในท็อป 10 ของตารางปีล่าสุด นำโดยนคร “เซี่ยงไฮ้” ของจีน ที่อยู่ในอันดับ 1 ขยับขึ้นจากปีที่แล้วที่อยู่ในอันดับ 2 ตามด้วยกรุง “โตเกียว” ของญี่ปุ่น และอันดับ 3 ได้แก่ “ฮ่องกง” แชมป์เก่าในปีที่แล้ว
สำหรับอันดับ 4-10 ได้แก่ ราชรัฐโมนาโก กรุงไทเปของไต้หวัน นครซูริกของสวิตเซอร์แลนด์ กรุงปารีสของฝรั่งเศส กรุงลอนดอนของอังกฤษ สิงคโปร์ และนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ส่วน "กรุงเทพฯ" มีรายชื่อติดอันดับ 11
นายราเจช มานวานี หัวหน้าฝ่ายตลาดและบริหารความมั่งคั่งประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ของธนาคารจูเลียส เบเออร์ กล่าวว่า โควิด-19 ไม่ได้ระบาดรุนแรงในเอเชียเหมือนที่เกิดกับประเทศในภูมิภาคอื่นๆ
ภูมิภาคที่มีค่าครองชีพแพงมากสุดรองลงมา คือ ยุโรปและตะวันออกกลาง ซึ่งเมืองหลักๆ ได้แรงหนุนจากค่าเงินยูโรและฟรังก์สวิสที่แข็งค่าขึ้น
ส่วนภูมิภาคอเมริกา ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 รุนแรง มีค่าครองชีพต่ำสุดสำหรับเหล่าคนรวย เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ของทั้งสหรัฐฯ และแคนาดา อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ
รายงานระบุด้วยว่า สินค้าหรูที่คนรวยต้องมีในปีนี้มีความเปลี่ยนแปลงจากเดิม เนื่องจากการระบาดของไวรัสส่งผลให้พฤติกรรมการใช้จ่ายเปลี่ยนไป โดยเทรนเนอร์ส่วนบุคคล งานเลี้ยงพิธีสมรส โบท็อกซ์ และเปียโน ลดความสำคัญลงไป และถูกแทนที่ด้วยจักรยาน ลู่วิ่งออกกำลังกาย ประกันสุขภาพ และอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ เช่น แล็ปท็อป และสมาร์ทโฟน