เอเวอร์แกรนด์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์จีน ผิดนัดชำระหนี้อีก มูลค่า 1.6 พันล้านบาท

เอเวอร์แกรนด์ - วันที่ 1 ต.ค. บีบีซี รายงานว่า ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ บริษัทอสังหาริมาทรัพย์ของจีน ผิดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ยแก่นักลงทุนต่างประเทศผู้ถือพันธบัตร มูลค่า 47.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,600 ล้านบาท ตามเส้นตายวันพุธที่ 29 ก.ย.

หลังเพิ่งผิดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ยแก่นักลงทุนผู้ถือพันธบัตรต่างประเทศอีกอัน มูลค่า 83.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,800 ล้านบาท เมื่อวันศุกร์ที่ 24 ก.ย. แต่ทำข้อตกลงกับนักลงทุนภายในประเทศในการชำระหนี้ 35.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,213 ล้านบาท ซึ่งถึงกำหนดแล้วเช่นกัน

ผู้ถือพันธบัตรให้สัมภาษณ์บลูมเบิร์กและรอยเตอร์ว่า ยังไม่ได้รับเงินหรือการติดต่อใดๆ จากเอเวอร์แกรนด์ หลังผ่านเส้นตายเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ขณะที่ภายใต้ข้อตกลงกับนักลงทุน เอเวอร์แลนด์มีระยะผ่อนผันการชำระหนี้เป็นเวลา 30 วัน ก่อนจะผิดนัดชำระอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม เอเวอร์แกรนด์ชำระเงินแก่ผู้ถือตราสารหนี้ในชื่อผลิตภัณฑ์บริหารความมั่งคั่ง (WMPs) เพียง 10% ตามเส้นตายวันพฤหัสบดีที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เอเวอร์แลนด์เป็นหนี้สิ้นก้อนโตมากกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 10 ล้านล้านบาท มากที่สุดในโลก จากเงินกู้ยืมเพื่อขยับขยายธุรกิจก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุดของจีน แต่หลังรัฐบาลจีนใช้กฎใหม่เพื่อควบคุมยอดค้างชำระของบรรดาบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่

เอเวอร์แกรนด์จึงเริ่มเสนอขายอสังหาริมทรัพย์ในราคาส่วนลดเป็นหลัก เพื่อแน่ใจว่า เงินจะไหลเข้ามาเพื่อให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ ทำให้ตอนนี้เอเวอร์แกรนด์พยายามดำเนินการเป็นไปตามการชำระดอกเบี้ยของหนี้สิน

วิกฤตดังกล่าวของเอเวอร์แกรนด์ส่งผลกระทบต่อตลาดโลกในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา เอเวอร์แลนด์ประกาศขายหุ้นขายหุ้น 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 20% ของหุ้นทั้งหมดที่บริษัทเป็นเจ้าของ ในธนาคารเชิ้งจิง ธนาคารพาณิชย์ที่เป็นของรัฐบาลจีน เพื่อระดมเงินมาชำระหนี้ของบริษัท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

เอเวอร์แกรนด์ เล็งขายหุ้น "แบงก์จีน" ระดมทุนชำระหนี้ 1.6 พันล้านบ. เส้นตายวันนี้