รีเซต

ผู้เลี้ยงหอย 'อ่าวบ้านดอน' วอนรัฐผ่อนผันรื้อถอนขนำ โอดเขตอนุญาตโดนด้วย 700หลัง

ผู้เลี้ยงหอย 'อ่าวบ้านดอน' วอนรัฐผ่อนผันรื้อถอนขนำ โอดเขตอนุญาตโดนด้วย 700หลัง
มติชน
24 กรกฎาคม 2563 ( 17:48 )
126
ผู้เลี้ยงหอย 'อ่าวบ้านดอน' วอนรัฐผ่อนผันรื้อถอนขนำ โอดเขตอนุญาตโดนด้วย 700หลัง

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงหอยทะเลในอ่าวบ้านดอน จากพื้นที่ อ.เมือง , พุนพิน ,ไชยา , ท่าฉาง , กาญจนดิษฐ์ และ อ.ดอนสัก กว่า 500 คน รวมตัวกันยื่นหนังสือต่อนายธีระ อนันตเสรีวิทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นาวาเอกวศากร สุนทรนันท์ รอง ผอ.ศรชล.จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสุเชาว์ ทูโมสิก ป้องกันจังหวัด และนายเกียรติศักดิ์ เกษมพันธ์กุล ประมงจังหวัด เพื่อขอผ่อนผันการรื้อถอนขนำหรือสิ่งปลูกสร้างในอ่าวบ้านดอน ตามคำสั่งจังหวัดวันที่ 12 มิถุนายน 2563

นายจิโรจน์ เผือกเกลี้ยง ประธานชมรมประมงพื้นบ้าน อ.ท่าฉาง กล่าวว่า การแก้ปัญหาในอ่าวบ้านดอน ซึ่งมีคำสั่งให้รื้อถอนขนำเฝ้าคอกหอย โดยไม่มีข้อยกเว้นว่าอยู่พื้นที่อนุญาตหรือนอกเขตอนุญาต ทำให้ผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงหอยทะเลที่ได้รับอนุญาตในพื้นที่ อ.ท่าฉาง , กาญจนดิษฐ์ และ อ.ดอนสัก กว่า 700 รายได้รับผลกระทบ ซึ่งในความเป็นจริงการเพาะเลี้ยงหอยในทะเลมีความจำเป็นต้องมีขนำเฝ้าทรัพย์สินและหลบแดดฝนพายุ ซึ่งหากไม่มีขนำจะเกิดปัญหาลักขโมยและกระทบสิทธิ์ชาวประมงพื้นบ้านและผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงหอยทะเลอันเป็นสัญลักษณ์ของ จ.สุราษฎร์ธานี

นายประภาส รักเดช เกษตรกรผู้เลี้ยงหอยนอกเขตอนุญาตในพื้นที่ อ.เมืองและ อ.พุนพิน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการนอกเขตอนุญาตได้ซื้อลูกหอยมาเพาะชำ ล่าสุดมีอายุ 6-7 เดือน และจะสามารถจับหอยได้ภายใน 1 ปี จึงขอความเมตตาให้ภาครัฐผ่อนผันการรื้อขนำและสิ่งปลูกสร้างโดยขอให้แก้ไขปัญหาบนพื้นฐานเศรษฐกิจและอาชีพดั้งเดิมของชาวบ้าน

นายธีระ กล่าวว่า การสร้างขนำในทะเลยังเป็นปัญหาด้านกฎหมายที่เกษตรกรผู้ได้รับอนุญาตกำลังประสบอยู่ ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือว่าจะช่วยเหลือเยียวยาอย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะมอบหมายให้คณะอนุกรรมการศึกษาแก้ไขปัญหาการเพาะเลี้ยงหอยทะเลของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปศึกษาเพื่อให้การแก้ปัญหายั่งยืนและถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย แต่ขณะนี้เมื่อมีประกาศจังหวัดให้รื้อถอนแล้วต้อดำเนินการไปตามกฎหมาย

“สิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในทะเล ถือว่าผิดกฎหมายทั้งหมด แต่จะยืดหยุ่นอย่างไร ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอาจต้องใช้ช่องการอุทรณ์ให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเราจะนำไปพิจารณาดูแลให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทราบดีว่าผู้เลี้ยงหอยจำเป็นต้องมีขนำเพื่อดูแลและป้องกันทรัพย์สิน ขณะเดียวบ้านเมืองมีหลักกฎหมาย ที่ผ่านมาอาจมีการอะลุ่มอล่วยกัน แต่ถึงยุคนี้ประชาชนต่างฝ่ายมีความต้องการใช้พื้นที่ในทะเล จึงจำเป็นต้องพิจารณาความเหมาะความสมหลากหลายเพื่อความยั่งยืนต่อไป” นายธีระ กล่าว


รายข่าวแจ้งว่า ล่าสุด มีผู้ประกอบการยอมรื้อถอนขนำเองแล้ว 42 หลัง อยู่ใน อ.เมือง 13 หลัง อ.พุนพิน 21 หลัง อ.กาญจนดิษฐ์ 7 หลัง และ อ.ท่าฉาง 1 หลัง โดยคณะทำงานของกรมประมงและกรมเจ้าท่า ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีสิ่งปลูกสร้างขนำในทะเลอ่าวบ้านดอน 176 คดี ประกอบด้วย อ.เมือง 93 หลัง อ.พุนพิน 83 หลัง