9 จุดที่ไม่ควรมีถังขยะ ภายในบ้าน ลดกลิ่นเหม็น เพื่อสุขอนามัย มารู้กันเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล บ้านที่สะอาดและมีกลิ่นหอมสดชื่นเป็นสิ่งที่เราทุกคนใฝ่ฝัน เพราะบ้านที่น่าอยู่ไม่เพียงแต่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเมื่อกลับมาหลังจากวันทำงานที่เหนื่อยล้า แต่ยังส่งผลต่อร่างกายและจิตใจโดยตรง หลายครั้งที่เราพยายามทำความสะอาดบ้านอย่างเต็มที่ แต่กลับลืมพิจารณาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างตำแหน่งของถังขยะในบ้าน ซึ่งมีผลต่อทั้งสุขอนามัยและบรรยากาศในบ้านมากกว่าที่เราคิด เพราะถังขยะที่วางผิดที่มักกลายเป็นแหล่งเพาะกลิ่นหมักหมม ดึงดูดแมลงวัน มด หรือแมลงสาบ และยังทำให้สิ่งสกปรกแพร่กระจายไปในอากาศได้โดยไม่รู้ตัว ทำให้พื้นที่ที่ควรใช้พักผ่อนกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่สะอาดโดยที่เราไม่ทันสังเกต เพราะฉะนั้นการจัดวางถังขยะอย่างเหมาะสม จึงไม่ใช่เพียงเรื่องความสวยงามของบ้านค่ะ แต่เป็นเรื่องสุขอนามัยของคนในครอบครัวด้วย ซึ่งการรู้ว่าจุดไหนควรมีหรือไม่ควรมีถังขยะ จะช่วยให้เราควบคุมกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ลดโอกาสการเข้ามาของแมลงพาหะ และทำให้บ้านดูเป็นระเบียบ สะดวกต่อการทำความสะอาดมากขึ้นด้วยค่ะ ยังไงนั้นลองใช้เวลาเล็กน้อยสังเกตบ้านของเรา ว่าเราได้เผลอวางถังขยะไว้รองรับขยะหรือไม่ และต่อไปนี้คือ 9 จุดที่ไม่ควรมีถังขยะ เพื่อให้บ้านของเรากลายเป็นพื้นที่ที่ทั้งสะอาด สดชื่น และน่าอยู่สำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริงค่ะ 1. ห้องเก็บเสื้อผ้า รู้ไหมคะว่า ห้องเก็บเสื้อผ้าหรือโซนแต่งตัวเป็นพื้นที่ที่เรามักใช้เปลี่ยนเสื้อผ้า และเก็บของที่สัมผัสร่างกายโดยตรง การวางถังขยะในพื้นที่นี้อาจทำให้เสื้อผ้าดูดซับกลิ่นอับ กลิ่นเหงื่อ หรือแม้แต่กลิ่นขยะโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะถ้าเราทิ้งซองเครื่องสำอางที่มีคราบครีม สำลีเช็ดหน้า หรือทิชชูเปื้อนเหงื่อไว้ในถังโดยไม่ได้เทออกทุกวัน กลิ่นเหล่านี้จะสะสมและทำให้เสื้อผ้าที่อยู่รอบๆ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ และยังเพิ่มความชื้นในพื้นที่ปิดซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อรา นอกจากนี้ถังขยะที่ไม่มีฝาปิดมิดชิดอาจดึงดูดแมลงหรือมดเข้ามา ที่จะทำให้การรักษาความสะอาดในห้องแต่งตัวทำได้ยากขึ้น ดังนั้นเราควรจัดห้องเก็บเสื้อผ้าให้โปร่งและสะอาดเสมอ โดยเน้นการระบายอากาศเป็นประจำ เปิดหน้าต่างหรือใช้เครื่องฟอกอากาศ เพื่อให้พื้นที่แห้งและไม่อับชื้น หากจำเป็นต้องมีถังขยะจริงๆ ควรเลือกถังขนาดเล็กที่มีฝาปิดสนิท ใช้สำหรับขยะเฉพาะที่ไม่มีกลิ่นแรง เช่น กระดาษแห้งหรือป้ายเสื้อผ้าเท่านั้น และต้องนำไปเททุกวันเพื่อป้องกันกลิ่นหมักหมม การแยกขยะที่มีกลิ่น เช่น ซองโลชั่นหรือสำลีเช็ดเครื่องสำอางไปทิ้งในถังขยะด้านนอก จะช่วยให้ห้องแต่งตัวของเรายังคงสะอาด และเหมาะสมกับการใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องการความสดชื่นและปลอดภัยจากสิ่งปนเปื้อนค่ะ 2. ใต้เตียง ใต้เตียงเป็นพื้นที่ที่หลายบ้านมักใช้ซ่อนสิ่งของหรือแม้แต่ถังขยะเล็กๆ เพื่อความสะดวก แต่พื้นที่นี้มีปัญหาสำคัญที่ต้องนำมาคิด คือ การระบายอากาศไม่ดีค่ะ ที่จะทำให้กลิ่นจากขยะสะสมอยู่ได้นานและยากจะสังเกตเห็นทันที ถังขยะที่ซ่อนอยู่ใต้เตียงยังเป็นจุดที่เราอาจลืมเทขยะบ่อยครั้ง ทำให้เกิดการหมักหมมของเศษอาหารหรือกระดาษทิชชูที่เปื้อนสิ่งสกปรก กลายเป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็น อีกทั้งใต้เตียงมักเป็นที่สะสมฝุ่น ไรฝุ่น และเส้นผม เมื่อรวมกับกลิ่นจากขยะ จะทำให้คุณภาพอากาศในห้องนอนลดลง และอาจกระตุ้นอาการภูมิแพ้หรือปัญหาทางเดินหายใจนะคะ ซึ่งการหลีกเลี่ยงการวางถังขยะใต้เตียง จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยให้ห้องนอนสะอาดและปลอดภัยมากขึ้น โดยเราควรจัดพื้นที่ใต้เตียงให้โล่งและทำความสะอาดสม่ำเสมอเพื่อป้องกันฝุ่นสะสม หากจำเป็นต้องมีถังขยะในห้องนอน ควรเลือกวางในมุมที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก มองเห็นได้ชัดเจน และมีฝาปิดสนิทเพื่อควบคุมกลิ่น และต้องนำขยะออกไปทิ้งทุกวัน การรักษาพื้นที่ใต้เตียงให้สะอาดโล่ง จะช่วยให้ห้องนอนเป็นพื้นที่พักผ่อนที่แท้จริง ปราศจากสิ่งรบกวนทั้งกลิ่นและฝุ่นที่เป็นอันตรายต่อสุขอนามัยค่ะ 3. ห้องนั่งเล่นหรือโซฟากลางบ้าน ห้องนั่งเล่นหรือโซฟากลางบ้านเป็นพื้นที่ที่ครอบครัวใช้ร่วมกันบ่อยที่สุด การวางถังขยะไว้กลางพื้นที่นี้แม้จะดูสะดวก เพราะสามารถทิ้งขยะได้ทันที แต่จะกลายเป็นจุดกระจายกลิ่นไม่พึงประสงค์ทั่วบ้านได้ค่ะ โดยเฉพาะหากมีเศษอาหารหรือขยะอินทรีย์ที่ไม่ได้เทออกทุกวัน กลิ่นหมักหมมจะทำให้บรรยากาศไม่น่านั่งพักผ่อน อีกทั้งยังดึงดูดแมลงวัน มด หรือแมลงสาบเข้ามาในบ้านได้ง่าย ขยะที่อยู่กลางห้องยังมักเป็นจุดที่สัตว์เลี้ยงหรือเด็กเล็กคุ้ยเล่น ทำให้เสี่ยงต่อการเลอะเทอะและการแพร่กระจายของสิ่งสกปรกโดยไม่ตั้งใจ เราจึงควรแยกพื้นที่สำหรับถังขยะให้ชัดเจน โดยย้ายไปไว้ในครัวหรือหลังบ้านที่สามารถควบคุมการระบายกลิ่นได้ดีกว่า หรือหากต้องการถังขยะในห้องนั่งเล่นจริงๆ ควรเลือกถังที่มีฝาปิดสนิทและทำความสะอาดบ่อยๆ การฝึกให้สมาชิกในบ้านแยกขยะและนำไปทิ้งในพื้นที่ส่วนกลาง จะช่วยให้บ้านสะอาดเป็นระเบียบมากขึ้นได้นะคะ และคงบรรยากาศห้องนั่งเล่นให้เป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อน พูดคุย และทำกิจกรรมร่วมกันโดยไม่ถูกรบกวนด้วยกลิ่นหรือความสกปรกค่ะ 4. ห้องพระหรือมุมสงบ คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า ห้องพระหรือมุมสงบในบ้านเป็นพื้นที่ที่เราใช้ทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสมาธิ ความสงบ และการสงบจิตใจ หากวางถังขยะในพื้นที่นี้แม้จะเพื่อความสะดวก แต่กลับสร้างบรรยากาศที่ขัดกับจุดประสงค์ของพื้นที่ เพราะกลิ่นขยะสามารถทำให้เรารู้สึกไม่ผ่อนคลายและเสียสมาธิได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าขยะที่ทิ้งมีเศษอาหาร ดอกไม้บูชาที่เหี่ยว หรือกระดาษเปื้อนคราบน้ำมันจากธูปเทียน กลิ่นเหล่านี้จะค้างอยู่ในห้อง ทำให้ห้องพระที่ควรหอมสะอาดกลับอับชื้นและไม่น่าเข้าไปสวดมนต์ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการวางถังขยะในห้องพระโดยเด็ดขาด หากจำเป็นต้องทิ้งดอกไม้ ธูป หรือขยะที่เกี่ยวข้องกับการไหว้ ควรใช้ภาชนะเฉพาะที่มีฝาปิดชั่วคราวและรีบนำออกไปทิ้งภายนอกบ้านทุกวัน เพื่อป้องกันการสะสมของกลิ่นและสิ่งสกปรก นอกจากนี้ควรทำความสะอาดห้องพระเป็นประจำ เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท หรือจุดธูปหอมอ่อนๆ เพื่อช่วยรักษาบรรยากาศให้สงบและบริสุทธิ์ ทำให้พื้นที่นี้เป็นสถานที่สำหรับการพักใจและสร้างสมาธิได้อย่างแท้จริงค่ะ 5. ใต้โต๊ะกินข้าว ใต้โต๊ะกินข้าวเป็นพื้นที่ที่เราควรหลีกเลี่ยงการวางถังขยะอย่างยิ่งค่ะ เพราะเป็นจุดที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับอาหารที่เรากำลังรับประทาน ถังขยะที่อยู่ใกล้โต๊ะอาหารจะทำให้กลิ่นขยะลอยมากวนใจในขณะกินข้าว โดยเฉพาะหากมีเศษอาหารหรือขยะอินทรีย์ที่ไม่ได้เทออกทุกวัน กลิ่นเหล่านี้จะลดความน่ากินของอาหาร และทำให้บรรยากาศมื้ออาหารไม่รื่นรมย์ อีกทั้งยังเป็นจุดเสี่ยงดึงดูดแมลงวันและมด ซึ่งอาจบินหรือไต่ขึ้นมาเกาะอาหารบนโต๊ะได้ง่าย เพิ่มความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของจุลินทรีย์โดยตรง ซึ่งวิธีที่เหมาะสมกว่า คือ แยกพื้นที่สำหรับถังขยะออกจากโต๊ะอาหารไปยังจุดที่ห่างออกไป เช่น มุมครัวหรือพื้นที่หลังบ้าน และเลือกถังขยะที่มีฝาปิดสนิทเพื่อป้องกันกลิ่น การฝึกให้สมาชิกในบ้านเก็บจาน ช้อนส้อม และเศษอาหารไปทิ้งรวมกันหลังรับประทานเสร็จ จะช่วยให้โต๊ะกินข้าวสะอาดและลดปัญหาการหมักหมมของขยะใต้โต๊ะ การดูแลพื้นที่รับประทานอาหารให้ปราศจากขยะจะช่วยส่งเสริมสุขอนามัย และทำให้ทุกมื้ออาหารเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัยมากขึ้นนะคะ 6. ทางเดินแคบหรือบันได ทางเดินแคบหรือบันไดเป็นพื้นที่ที่ควรปราศจากสิ่งกีดขวางเพื่อความปลอดภัยค่ะ เพราะการวางถังขยะในจุดเหล่านี้ ไม่เพียงแต่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากที่ทำให้ทางเดินแคบลงเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดความสกปรกได้ง่าย หากขยะล้นหรือหกเลอะพื้น จะเพิ่มโอกาสที่คนในบ้านจะเหยียบแล้วลื่นล้ม โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก ความเสี่ยงอาจรุนแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากบันไดเป็นจุดที่อุบัติเหตุสามารถเกิดบาดเจ็บรุนแรงได้มากกว่าพื้นที่ราบ อีกทั้งกลิ่นจากขยะยังสามารถฟุ้งกระจายไปตามโถงทางเดิน ทำให้ทั้งบ้านมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ค่ะ โดยเราควรเก็บพื้นที่ทางเดินและบันไดให้โล่ง โปร่ง และทำความสะอาดเป็นประจำเพื่อป้องกันฝุ่นสะสมหรือเชื้อราที่อาจเกิดในมุมอับ หากจำเป็นต้องมีจุดทิ้งขยะใกล้ทางเดิน ควรวางให้พ้นเส้นทางเดินหลัก เลือกถังขยะที่มีฝาปิดแน่นหนา และหมั่นเทขยะบ่อยๆ เพื่อป้องกันการหมักหมม การรักษาทางเดินให้โล่งสะอาดไม่เพียงช่วยเรื่องสุขอนามัย แต่ยังป้องกันอุบัติเหตุ ทำให้การเดินขึ้นลงบันไดหรือผ่านทางเดินต่างๆ ในบ้านเป็นไปอย่างปลอดภัยและสบายใจค่ะ 7. ห้องนอน ห้องนอนเป็นพื้นที่ที่เราต้องการความสะอาดและอากาศที่บริสุทธิ์ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ การวางถังขยะในห้องนอนแม้จะสะดวกต่อการทิ้งทิชชู่หรือของเล็กๆ แต่กลับทำให้เกิดการสะสมของกลิ่นและจุลินทรีย์โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะหากเราเผลอทิ้งขยะเปียก เศษอาหาร หรือซองขนมที่ยังมีคราบน้ำตาลอยู่ กลิ่นหมักหมมจะทำให้บรรยากาศห้องอับชื้นและน่ารำคาญ อีกทั้งยังดึงดูดแมลงสาบ มด หรือแมลงวันเข้ามาในห้องโดยง่าย ทำให้พื้นที่ที่ควรผ่อนคลายกลายเป็นแหล่งเพาะของจุลินทรีย์และพาหะนำโรค ทางที่ดีเราควรหลีกเลี่ยงการวางถังขยะในห้องนอนค่ะ หรือถ้าจำเป็นจริงๆ ควรเลือกถังที่มีฝาปิดสนิทและใช้สำหรับทิ้งขยะแห้งเท่านั้น เช่น กระดาษทิชชูแห้งหรือเศษกระดาษอื่นๆ และต้องนำไปเททุกวันเพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรก ควรเปิดหน้าต่างระบายอากาศสม่ำเสมอ ทำความสะอาดพื้นและปัดฝุ่นเพื่อลดโอกาสการเกิดไรฝุ่นหรือเชื้อรา การดูแลห้องนอนให้สะอาด ปราศจากขยะ จะช่วยให้เรานอนหลับได้สบายขึ้น และมีสุขอนามัยที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจนะคะ 8. ใต้ซิงก์ที่ไม่มีการระบายอากาศ เนื่องจากใต้ซิงก์ที่ไม่มีการระบายอากาศ เป็นจุดที่มักเกิดความอับชื้นจากไอน้ำและหยดน้ำที่รั่วซึม ทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราได้ง่าย การวางถังขยะในจุดนี้ยิ่งทำให้ปัญหาหนักขึ้น เพราะขยะที่ทิ้งจะหมักหมมและส่งกลิ่นเร็วกว่าในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดี หากเป็นขยะอินทรีย์ เช่น เศษผัก เปลือกผลไม้ หรือเศษอาหาร กลิ่นจะยิ่งแรงและดึงดูดแมลงสาบ หนู หรือแมลงวันให้เข้ามาในครัว อีกทั้งพื้นที่ใต้ซิงก์มักมืดและซ่อนสายตา ทำให้เราลืมเทขยะบ่อยครั้ง และไม่ทันสังเกตว่ามีการรั่วซึมหรือการสะสมของคราบสกปรกจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ ทางแก้ที่เหมาะสมคือควรติดตั้งช่องระบายอากาศ หรือติดพัดลมเล็กๆ เพื่อช่วยให้ใต้ซิงก์แห้งและลดความอับชื้น หากจำเป็นต้องวางถังขยะจริงๆ ควรเลือกถังที่มีฝาปิดมิดชิดและทำความสะอาดถังสม่ำเสมอ รวมทั้งเช็ดพื้นใต้ซิงก์ให้แห้งอยู่เสมอเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา นอกจากนี้ควรหมั่นตรวจสอบรอยรั่วของท่อหรือตัวซิงก์เพื่อแก้ไขทันที การดูแลพื้นที่ใต้ซิงก์ให้สะอาดและแห้งจะช่วยลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนของสิ่งสกปรก ทำให้ครัวของเราปลอดภัยและถูกสุขลักษณะมากขึ้นค่ะ 9. ห้องที่เปิดแอร์ตลอดเวลา ทุกคนรู้ไหมว่า ห้องที่เปิดแอร์ตลอดเวลา เป็นพื้นที่ที่อากาศหมุนเวียนในระบบปิด ถังขยะที่วางในห้องลักษณะนี้ จะกลายเป็นแหล่งสะสมกลิ่นที่ฟุ้งกระจายอยู่ภายในห้องอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอากาศไม่ถ่ายเทออกไปภายนอก กลิ่นจากขยะจึงหมุนเวียนผ่านเครื่องปรับอากาศและอาจเกาะสะสมที่ฟิลเตอร์ ทำให้คุณภาพอากาศภายในห้องแย่ลง หากขยะที่ทิ้งเป็นขยะอินทรีย์อย่างเศษอาหารหรือซองขนมที่มีคราบ กลิ่นหมักหมมจะรบกวนสมาธิ ทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัวและลดประสิทธิภาพการทำงานหรือการพักผ่อน นอกจากนี้สภาพอากาศเย็นยังอาจทำให้เราไม่รู้ตัวว่าขยะเริ่มเน่า จึงส่งผลให้แมลงสาบหรือมดอาจเข้ามาภายในห้องโดยที่เราไม่ทันสังเกต ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการวางถังขยะในห้องที่เปิดแอร์ตลอดเวลา โดยเฉพาะขยะที่มีกลิ่นแรงหรือขยะเปียก หากจำเป็นต้องมีถังขยะในห้องจริงๆ ควรเลือกถังที่มีฝาปิดสนิท และทำความสะอาดเทขยะทุกวันเพื่อป้องกันกลิ่นหมักหมม ควรล้างไส้กรองแอร์เป็นประจำและเปิดหน้าต่างระบายอากาศช่วงที่ปิดแอร์ เพื่อให้อากาศหมุนเวียน การรักษาความสะอาดของห้องแอร์และการจัดการขยะอย่างถูกวิธี จะช่วยให้เรามีคุณภาพอากาศที่ดี ลดความเสี่ยงของการสะสมจุลินทรีย์ และทำให้ห้องเป็นพื้นที่ที่สดชื่นน่าอยู่มากขึ้นได้ค่ะ ที่โดยสรุปแล้วการหลีกเลี่ยงการวางถังขยะในจุดที่ไม่เหมาะสมภายในบ้าน เป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัยค่ะ เพราะบ้านที่ไม่มีกลิ่นหมักหมมจากขยะ จะช่วยให้บรรยากาศโดยรวมรู้สึกโปร่ง โล่ง และสบายใจมากขึ้น การไม่วางถังขยะในห้องนอนหรือใต้เตียง มีส่วนช่วยให้พื้นที่พักผ่อนของเราปราศจากกลิ่นและสิ่งสกปรก ที่อาจทำให้เกิดปัญหาทางเดินหายใจ ในขณะที่การเลี่ยงการวางถังขยะในห้องนั่งเล่นหรือใต้โต๊ะกินข้าว ก็ช่วยป้องกันการปนเปื้อนของอาหาร และทำให้การใช้เวลาอยู่ร่วมกันของครอบครัวเป็นไปอย่างผ่อนคลายและสุขลักษณะมากขึ้นนะคะ นอกจากนี้ห้องพระ มุมสงบ ทางเดินแคบ หรือบันได เป็นจุดที่การมีถังขยะไม่เพียงแต่ทำให้บ้านดูไม่สะอาด แต่ยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและขัดต่อความรู้สึกสงบในพื้นที่ที่ตั้งใจสร้างไว้เพื่อการพักทางจิตใจ ครัวและใต้ซิงก์ที่ไม่มีการระบายอากาศเป็นอีกจุดที่ควรให้ความสำคัญ เพราะความชื้นและขยะจะเป็นตัวดึงดูดแมลงและก่อให้เกิดเชื้อราได้ง่าย การย้ายถังขยะไปไว้ในที่อากาศถ่ายเท เลือกถังที่มีฝาปิดสนิท และทำความสะอาดถังอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดปัญหากลิ่นและแมลงพาหะ ส่วนห้องที่เปิดแอร์ตลอดเวลา หากไม่มีการถ่ายเทอากาศและมีถังขยะ กลิ่นจะหมุนเวียนในระบบปรับอากาศ ทำให้คุณภาพอากาศลดลงและอาจกระทบสุขอนามัยของทุกคนในบ้านได้ค่ะ โดยเมื่อเราจัดการตำแหน่งถังขยะอย่างเหมาะสม และสร้างนิสัยการเทขยะทุกวัน ทำความสะอาดถังเป็นประจำ บ้านของเราจะสะอาดและปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดภาระงานทำความสะอาดระยะยาว และป้องกันปัญหากลิ่นสะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใส่ใจเรื่องเล็กๆ อย่างตำแหน่งวางถังขยะ จึงเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้บ้านของเราเป็นพื้นที่ที่ทุกคนรู้สึกผ่อนคลาย สุขอนามัยดี และอยากกลับมาพักผ่อนทุกวันนะคะ สำหรับที่นี่มีถังขยะถังใหญ่อยู่หน้าบ้าน ถังขนาดกลาง จำนวน 2 ถัง ตั้งอยู่ด้านข้างบ้านฝั่งห้องครัว กับแถวชั้นวางรองเท้าค่ะ ไม่ได้มีถังขยะประจำในห้องนั่งเล่น แต่ถ้ามีกิจกรรมในบ้านแล้วมีขยะเกิดขึ้น ในสถานการณ์แบบนี้ผู้เขียนเลือกนำถุงพลาสติกที่เก็บไว้ใช้ซ้ำมารวบรวมขยะค่ะ ที่ในบางครั้งจะใช้กะละมังพลาสติกเล็กๆ มารองรับขยะ จากนั้นค่อยนำไปทิ้งในจุดรวบรวมขยะอีกที และใต้ซิงค์หรือแม้แต่ในห้องน้ำของที่นี่ ก็ไม่ได้มีถังขยะตั้งไว้ประจำค่ะ จะใช้หลักการว่า ถ้ามีขยะก็เก็บออกมาทิ้งเลยในตอนนั้นแทน เพราะสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเราสามารถนำมาซึ่งความเจ็บป่วยได้ หากในตอนนั้นมีปัจจัยชักนำมาซึ่งความเจ็บป่วยนะคะ และถังขยะคืออีกอย่างที่สำคัญในบ้าน และจุดที่ตั้งขยะก็มีผลต่อตัวเราได้ ยิ่งถ้าในตอนนั้นถังขยะอยู่ในจุดที่ไม่เหมาะสมค่ะ ก็ลองนำข้อมูลในนี้ไปปรับปรุงสิ่งแวดล้อมภายในบ้านกันค่ะทุกคน และด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากคุณผู้อ่านชื่นชอบเนื้อหาแนวนี้ อย่าลืมกดติดตามหรือบันทึกโปรไฟล์ไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดข้อมูลใหม่ๆ ในบทความถัดไป หากสนใจอ่านบทความทั้งหมดของผู้เขียน ก็สามารถกดเข้าไปดูได้จากโปรไฟล์เช่นกันค่ะ #การดูแลบ้าน #อนามัยสิ่งแวดล้อม #การจัดการขยะมูลฝอย #EnvironmentalHealth เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก AI Generated และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1-2 ถ่ายภาพโดยผู้เขียน, ภาพที่ 3 และ ภาพที่ 4 AI Generated โดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 9 ทริคทำความสะอาดครัว และห้องน้ำ โดยไม่ใช้สารเคมีแรงเกินไป 9 แนวทางสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมสุขอนามัย ทำไงดี 9 วิธีลดกลิ่นเหม็นอับภายในบ้าน ทำให้สะอาดขึ้นและน่าอยู่ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !