SINGER เคจีไอฯ หั่นกำไร-ราคาเป้าหมายลง คาด NPL พุ่งที่ 20% ใน Q2/66
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ประเมินว่าจะใช้เวลานานขึ้นกว่าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง ดังนั้นจึงได้ปรับลดประมาณการกำไรลง รวมถึงลดราคาเป้าหมายของปีนี้ลง และได้คาดการณ์ว่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPL จะปรับตัวขึ้นมาสูงในระดับ 20% ในไตรมาส 2/66 ดังนั้นจึงยังคงแนะนำขาย ให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 9.75 บาทต่อหุ้น
ฝ่ายวิจัยเคจีไอฯ คาดว่า SINGER จะต้องใช้เวลานานขึ้นในการพลิกฟื้นจากที่มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานมาเป็นกำไร และจะต้องใช้เวลานานยิ่งขึ้นกว่านั้น เพื่อทำให้นักลงทุนกลับมามั่นใจต่อแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจว่าจะแข็งแรง และต่อเนื่องได้ในระยะยาว ทั้งนี้ผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 1/66 ที่สูงถึง 843 ล้านบาท จากผลจองการเร่งโตจนทำให้เกิดหนี้เสีย และส่งผลให้บริษัทตั้งขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ 490 ล้านบาทที่เกิดจากสินค้าคงคลัง และมีการตั้งสำรองหนี้เสีย 942 ล้านบาท
ทั้งนี้จาก NPL เพิ่มเข้ามาเฉลี่ยประมาณไตรมาสละ 1.1 พันล้านบาทในไตรมาส 4/65 และไตรมาส 1/66 และยอดคงค้างที่มีความเสี่ยงสูง อีก 1.6-1.7 พันล้านบาททำให้ความเสี่ยง NPL ใหม่จะยังทรงตัวในระดับสูง
**คาด NPL พุ่งถึง 20%
เมื่อดูจากยอดสินเชื่อที่มีความเสี่ยงประมาณ 1.6-1.7 พันล้านบาทในงบดุล สัดส่วน NPL ของ SINGER อาจจะขยับเพิ่มขึ้นอีก และน่าจะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดที่ 20% ในไตรมาส 2/66 เพิ่มขึ้นจาก 4.6% ในไตรมาส 4/65 เป็น 13.8% ในไตรมาส 1/66 ทั้งนี้ เพื่อลด NPL ลง บริษัทตั้งเป้าจะตัดหนี้สูญ (write-off)และขายหนี้เสียออกไปไตรมาสละ ประมาณ 500 ล้านบาทจนถึงสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ เพื่อล้างหนี้เสีย บริษัทยังมีแผนจะรับรู้ผลขาดทุนก้อนใหญ่จากการด้อยค่าของสินทรัพย์ในสต็อกเพื่อขายโละสินค้าพวกนี้ออกไปจากสต็อก และทำให้ NPL ratio กลับมาอยู่ที่ประมาณ 5% ซึ่ง SINGER คาดว่าการเร่งล้างหนี้เสียออกไปจะทำให้บริษัทกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปี 2567
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยคาดว่าการดำเนินการจริงอาจจะไม่ง่าย เพราะในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ช่วงปี (2559-2563) SINGER ใช้เวลาถึง 4 ปีในการที่จะกด NPL จาก20% ลงมาเหลือต่ำกว่า 5%
**หั่นกำไรลง
ฝ่ายวิจัยเคจีไอ ได้ปรับบลดประมาณการปี 2566 และ 2567 เป็น -1.5 พันล้านบาท และ 532 ล้านบาท (จากเดิมที่ 429 ล้านบาท และ 843ล้านบาท) เนื่องจาก 1) ปรับเพิ่ม credit cost เป็น 14.6 และ /4.4% (จากเดิม 6% และ 4%) 2) ใส่สมมติฐานว่าจะมีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ 650 ล้านบาทในปีนี้/ไม่มีรายการนี้ในปีหน้า และ 3) ปรับลดยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็น -28%/+13% (จาก -20%/+5% ) (จาก-5%/+11%) เราใช้ PE จากกำไรเฉลี่ย 2 ปีข้างหน้าที่ 15 เท่า ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 9.75 บาท ลดลงจาก 11.60 บาท
ราคาหุ้น SINGER เช้านี้เคลื่อนไหวอยู่ที่ 11.10 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 1.83% มีมูลค่าการซื้อขาย 30.04 ล้านบาท