โห่โฮ โห่โฮ ฮิ้ว ขันหมากมาแล้ว ขันหมากมาแล้ว มาแล้วน้องแก้วรับด้วย วันนี้คนสวยแต่งชุดอะไรทีแรกพี่คิดจะพาน้องหนี แต่พอคิดอีกทีก็กลัวน้องพี่อับอาย.....ใช่ครับนี้คือเพลงขันหมากมาแล้ว ของคุณยอดรัก สลักใจ (ฟังกี่ทีก็เพลินดีแท้ ๆ ) อย่าเพิ่งงงครับว่าวันนี้ผู้เขียนมีอะไรดี ๆ มานำเสนอ แน่นอนครับร้องเพลงให้ฟังซะยาว มามาดูกันว่าวันนี้กฎหมายสาระดี ๆ ผู้เขียนจะนำเสนอถึงเรื่องอะไร.... มาเข้าคำถามกันเลยดีกว่า...การหมั้นคืออะไร....แล้วต้องกำหนดช่วงอายุเท่าไรจึงจะสามารถทำการหมั่นได้...นับ 1..2...3.. หมดเวลาครับขอบคุณสำหรับคำตอบที่ท่วมท้น และถาโถมเข้ามา (อิอิ..) ตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ มาตรา 1435 ได้วางหลักไว้ว่า การหมั้นจะทำได้ต่อเมื่อชาย และหญิงมีอายุสิบเจ็ดปีบริบูรณ์แล้ว และหากฝ่าฝืนมีผลเป็นโมฆะ (วรรคสอง) อ้าว...คำถาม ชายกับชาย หญิงกับหญิงจะหมั้นกันได้หรือไม่ คำตอบ ไม่ได้นะครับเพราะการหมั้นจะต้องทำระหว่างชายกับหญิงเท่านั้น (ในอนาคตไม่แน่นะครับท่านคงเคยได้ยินเรื่อง พ.ร.บ.คู่ชีวิตหรือไม่ครับที่เคยเป็นข่าวดังในช่วงก่อน ๆ ไม่แน่ว่ากฎหมายว่าด้วยการหมั้น การสมรสต่อไปอาจจะมีการเปลี่ยน ที่สำคัญหากพ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านอาจมีการอยู่ร่วมกันระหว่างชายกับชาย หญิงกับหญิง ก็ก็อาจจะโยงไปหาเรื่องของการหมั้น สินสมรส สินส่วนตัวอะไรประมาณนี้เป็นต้น) และที่สำคัญตัวบทกำหนดไว้ว่าต้องมีอายุ 17 ปีบริบูรณ์นั้นก็หมายความว่า ต้องสิบเจ็ดปีเต็ม จะขาดไม่ได้แต่เกินได้...(ชัดเจนน้อ...) ตัวอย่าง นายสมชายอายุ 20 ปี หมั้นกับนางสาวสมหญิง อายุ 18 ปี ถือว่าการหมั้นสมบูรณ์ แต่ถ้าสมมุติเปลี่ยนข้อเท็จจริงเป็นว่า นายสมชายอายุ 15 ปี นางสาวสมหญิงอายุ 16 ปี อย่างนี้ไม่ได้หนะครับหากทำไปมีผลทางกฎหมายตามวรรคสอง มาตรา 1435 คือ โมฆะ (โมฆะ คือ ไม่มีผลตั้งแต่เริ่มแรกจะใช้อ้างเหตุใด ๆ เพื่อกระทำการทางกฎหมายไม่ได้) หรือนายทรงศักดิ์ขอหมั้นกับนายประกิต (ชายกับชาย) หรือนางสาวศรีสมรหมั้นกับนางสาวศศิประภา (หญิงกับหญิง) อย่างนี้ก็ไม่ได้เพราะขัดกับหลักกฎหมายดังกล่าวซึ่งมีผลเป็นโมฆะเช่นกัน คำถาม ต่อมาการหมั้นจะสมบูรณ์เมื่อใด และเมื่อใดจึงจะถือว่าการหมั้นสมบูรณ์ คำตอบ ตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ มาตรา 1437 ได้วางหลักไว้ว่า การหมั้นจะสมบูรณ์เมื่อฝ่ายชายได้ส่งมอบหรือโอนทรัพย์สินอั้นเป็นของหมั้นให้แก่หญิงเพื่อเป็นหลักฐานว่าจะสมรสกับหญิงนั้น และเมื่อหมั้นแล้วของหมั้นให้ตกเป็นของฝ่ายหญิง อธิบายเพื่อให้เห็นความชัดเจนนะครับ...การที่จะหมั้น และถือว่าสมบูรณ์นั้นชายนะครับ (ใช้คำว่าชาย คือ ชายที่เป็นคนหมั้นนะครับ แต่ถ้าพูดเรื่องสินสอดจะใช้คำว่าฝ่ายชาย ซึ่งเป็นคนละความหมายกัน ถ้าฝ่ายชายจะหมายถึง บิดา มารดา ก็ได้) ของหมั้นนั้นต้องเป็นทรัพย์สิน (ตามมาตรา 138 ทรัพย์สินหมายถึงวัตถุที่มีรูปร่าง ไม่มีรูปร่าง อาจมีราคา และอาจถือเอาได้) เช่น นายกอ จดทะเบียนโอนที่ดินให้นางสาวขอ เป็นของหมั้นในวันหมั้นก็ถือว่าเป็นของหมั้นหรือนายเอกจดทะเบียนยกหุ้นบริษัทให้นางสาวดวงแขจำนวนหมื่นหุ้นเพื่อเป็นของหมั้นหรือนายล้อมเอาทองเส้นเท่าหนวดกุ้งหมั้นนางสาวพยอมอย่างนี้ก็ถือเป็นของหมั้นได้ ต่อมากฎหมายกำหนดอีกว่าเมื่อหมั้นแล้วให้ของหมั้นตกเป็นสิทธิแก่หญิง ชัดเจนครับตรงนี้เมื่อหญิงได้รับของหมั้นมาของหมั้นนั้นถือเป็นของฝ่ายหญิง (ถือเป็นสินส่วน (สินส่วนตัวระบุไว้ตาม มาตรา 1471 ได้แก่ ทรัพย์สินที่หามาก่อนก่อนสมรส, ที่เป็นเครื่องใช้สอยส่วนตัว, ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยการรับมรดกหรือโดยการให้, ที่เป็นของหมั้น) ตัวแม้ต่อมาได้แต่งงาน และจดทะเบียนสมรสของหมั้นที่ได้มานั้นก็ไม่ได้กลายเป็นสินสมรสตาม มาตรา 1474 แต่ถือว่าเป็นสินส่วนตัวตาม มาตรา 1471(4) ) นี้หละครับความหมายของของหมั้น...นั่นแน่อย่าลืมนะครับหากคิดจะหมั้นใครต้องมีของหมั้นอีกทั้งที่สำคัญอย่างลืมน้า..มีหลักเกณฑ์เรื่องอายุกำหนดด้วย และต้องเป็นชายกับหญิงเท่านั้น...สำหรับวันนี้เอาเท่านี้ก่อนน้อ...จะรีบไปหมั้นสาวหละ...อิอิ...สวัสดีครับ.. เครดิตภาพหน้าปกจาก pixabay /ภาพที่ 1 จาก pixabay / ภาพที่ 2 จาก pixabay / ภาพที่ 3 จาก pixabay / ภาพที่ 4 จาก pixabay