9 ผลเสียจากการทิ้งขยะลงในน้ำ ทำลายสิ่งแวดล้อม ยังไงได้บ้าง มาดูกัน! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล เคยสังเกตไหมคะว่า แม่น้ำลำคลองบางแห่งในปัจจุบันของเราไม่สดใสเหมือนเมื่อก่อน? เพราะมีภาพของขยะลอยเกลื่อนหรือกองพะเนินตามริมตลิ่ง ที่ไม่เพียงแค่บดบังทัศนียภาพที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาใหญ่ที่เราทุกคนกำลังเผชิญอยู่ นั่นคือผลกระทบจากการทิ้งขยะลงในแหล่งน้ำค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งยวด และส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อทุกชีวิตบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตในน้ำ สัตว์ทะเล ไปจนถึงตัวเราเองในที่สุด ซึ่งการทำความเข้าใจถึงความร้ายแรงของปัญหานี้ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการอยู่รอดและการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของพวกเราทุกคนบนโลกนี้ แล้วใครควรรู้เรื่องนี้? คำตอบคือทุกคนค่ะ ตั้งแต่เด็กเล็กที่เริ่มเรียนรู้การทิ้งขยะให้ถูกที่ ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่ต้องเป็นแบบอย่างและรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง รวมถึงผู้ประกอบการที่อาจมีส่วนในการก่อให้เกิดมลพิษ และภาครัฐที่ต้องกำหนดนโยบายและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพราะปัญหาขยะในแหล่งน้ำเป็นเรื่องของส่วนรวมที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน หากเราทุกคนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและตระหนักถึงความสำคัญนี้ ก็จะสามารถร่วมกันแก้ปัญหาและฟื้นฟูแหล่งน้ำให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เพื่อส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้แก่ลูกหลานของเราในอนาคต และจะได้ไม่ทำให้เกิดปัญหาดังต่อไปไปนี้ค่ะ 1. ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในน้ำ รู้ไหมคะว่า การกระทำเล็กๆ ด้วยการทิ้งขยะแค่เพียงชิ้นเดียวนั้น ส่งผลร้ายแรงเกินคาดต่อระบบนิเวศในน้ำอย่างมหาศาลค่ะ เพราะว่าขยะพลาสติก ถุงพลาสติก หรือแม้แต่เศษอาหารที่เราทิ้งลงไป ไม่เพียงแต่ทำให้แหล่งน้ำสกปรกและส่งกลิ่นเหม็นเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่ค่อยๆ ทำลายบ้านของสัตว์น้ำ ตัวอย่างเช่น ปลา กุ้ง หอย และพืชน้ำต่างๆ เนื่องจากขยะจะไปอุดตันทางน้ำ ทำให้การไหลเวียนของน้ำผิดปกติ จึงส่งผลกระทบต่อปริมาณออกซิเจนที่สิ่งมีชีวิตต้องการ นอกจากนี้สัตว์น้ำอาจเข้าใจผิดว่าขยะคืออาหารและกินเข้าไป ทำให้เกิดการอุดตันในระบบทางเดินอาหารและตายในที่สุด หรือแม้แต่ขยะบางชนิดก็อาจปลดปล่อยสารเคมีที่เป็นพิษออกมา ที่สามารถทำให้น้ำเป็นพิษและสัตว์น้ำไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ การที่เราช่วยกันรักษาแหล่งน้ำโดยการไม่ทิ้งขยะลงไป ก็เหมือนกับการช่วยกันปกป้องบ้านอันล้ำค่าของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ให้พวกเขาได้มีที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยและสมบูรณ์ต่อไปค่ะ 2. เป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเล หลายคนคิดว่า การทิ้งขยะลงในแม่น้ำลำคลองอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไกลตัวจากท้องทะเล แต่แท้จริงแล้วคือการส่งต่ออันตรายโดยตรงสู่สัตว์ทะเลอย่างที่เราคาดไม่ถึงค่ะ เพราะขยะที่เราทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นถุงพลาสติก ขวดน้ำ หลอดกาแฟ หรือแม้แต่เศษอาหาร จะไหลไปตามกระแสน้ำและลงสู่ทะเลในที่สุด กลายเป็นกับดักมรณะสำหรับสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด โดยเต่าทะเลที่อาจกินถุงพลาสติกเข้าไป เพราะคิดว่าเป็นแมงกะพรุน ปลาที่ติดอยู่ในห่วงพลาสติกจนไม่สามารถว่ายน้ำหรือหาอาหารได้ นกทะเลที่เอาชิ้นส่วนพลาสติกไปสร้างรัง หรือแม้แต่ปะการังที่ถูกขยะปกคลุมจนไม่ได้รับแสงแดดและตายลง การกระทำเพียงเล็กน้อยของเราในการทิ้งขยะไม่ถูกที่ สามารถสร้างผลกระทบที่ใหญ่หลวงและน่าเศร้าต่อระบบนิเวศทางทะเล และความเป็นอยู่ของสัตว์ทะเลอย่างที่ไม่อาจแก้ไขได้ง่ายๆ ค่ะ 3. ปนเปื้อนสารพิษในระบบนิเวศ เนื่องจากขยะบางชนิดคือแหล่งสะสมของสารพิษ ที่พร้อมจะปนเปื้อนเข้าสู่ระบบนิเวศในน้ำได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งขยะอิเล็กทรอนิกส์ แบตเตอรี่ หรือบรรจุภัณฑ์สารเคมีต่างๆ ที่เมื่อโดนน้ำเป็นเวลานาน สารโลหะหนักหรือสารเคมีอันตรายอื่นๆ ก็จะรั่วไหลออกมาปะปนในน้ำ สิ่งมีชีวิตในน้ำอย่างปลา พืชน้ำ หรือแม้แต่แพลงก์ตอนก็จะดูดซับสารพิษเหล่านี้เข้าไปในร่างกาย และเมื่อสัตว์ใหญ่กินสัตว์เล็ก สารพิษก็จะสะสมเพิ่มขึ้นไปตามห่วงโซ่อาหาร จนในที่สุดก็อาจย้อนกลับมาสู่มนุษย์เมื่อเราบริโภคสัตว์น้ำเหล่านั้น การกระทำเล็กๆ จากที่เราเผลอไปทิ้งขยะลงน้ำ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของความไม่เรียบร้อย แต่คือการสร้างมลพิษร้ายแรง ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในระบบนิเวศ รวมถึงตัวเราเองด้วยนะคะ 4. ก่อให้เกิดภาวะน้ำเสีย คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การทิ้งขยะลงในแม่น้ำลำคลองเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพน้ำค่ะ เพราะทำให้เกิดภาวะน้ำเสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเศษอาหาร ถุงพลาสติก หรือแม้แต่สิ่งของเหลือใช้ต่างๆ ที่เราทิ้งลงไป เมื่อขยะเหล่านี้สะสมอยู่เป็นเวลานาน จะเริ่มมีการเน่าเปื่อยและย่อยสลายสารอินทรีย์และสารเคมีต่างๆ ออกมาปะปนในน้ำ ซึ่งการย่อยสลายนี้ทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว จึงส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ นอกจากนี้น้ำที่เสียจะส่งกลิ่นเหม็นเน่า ทำให้ทัศนียภาพไม่น่ามอง และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของสิ่งก่อความเจ็บป่วยต่างๆ ได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขนอามัยของมนุษย์และสัตว์ที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง จะเห็นได้ว่าการกระทำเพียงเล็กน้อยที่ดูเหมือนไม่สำคัญนี้ สามารถนำไปสู่ปัญหาน้ำเสียที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ และคุณภาพชีวิตของเราทุกคนอย่างมหาศาลค่ะ 5.บดบังแสงแดดและลดการสังเคราะห์แสงของพืชน้ำ รู้ไหมคะว่าการทิ้งขยะลงน้ำกำลังสร้างผลกระทบที่ใหญ่หลวงต่อพืชน้ำใต้ โดยที่หลายคนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว! ลองนึกภาพตามค่ะว่า เมื่อเราทิ้งขยะ ไม่ว่าจะเป็นถุงพลาสติก ขวดน้ำ หรือเศษสิ่งของต่างๆ ลงไป ขยะเหล่านี้จะลอยอยู่บนผิวน้ำหรือจมลงไปในน้ำเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นเหมือนผ้าห่มหนาๆ ที่บดบังแสงแดด ไม่ให้ส่องลงไปถึงพืชน้ำที่อยู่เบื้องล่างได้ พืชน้ำเหล่านี้ เช่น สาหร่ายหรือวัชพืชใต้น้ำ ก็เหมือนกับพืชบนบกที่ต้องใช้แสงแดดในการสังเคราะห์แสง เพื่อสร้างอาหารและการเจริญเติบโต เมื่อพืชได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ การสังเคราะห์แสงก็จะลดลงอย่างมาก ทำให้พืชน้ำไม่สามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ หรืออาจถึงขั้นตายไปในที่สุด ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงสัตว์น้ำที่ต้องพึ่งพาพืชน้ำเป็นอาหารหรือที่อยู่อาศัยด้วย เห็นไหมว่าแค่การทิ้งขยะไม่ถูกที่ ก็สามารถทำลายสมดุลของระบบนิเวศในน้ำได้อย่างน่าเศร้า 6. แพร่กระจายสิ่งปนเปื้อนและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์พาหะนำความเจ็บป่วยได้ ขยะที่ถูกทิ้งในน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเศษอาหาร ถุงพลาสติก หรือแม้แต่ยางรถยนต์เก่าๆ ล้วนเป็นแหล่งสะสมของสิ่งปนเปื้อน และเป็นสถานที่ชั้นดีสำหรับการเพาะพันธุ์พาหะนำโรค อย่างยุงลาย หนู หรือแมลงสาบ เมื่อขยะเหล่านี้เน่าเปื่อย สารพิษและสิ่งก่อโรคต่างๆ จะปะปนลงไปในน้ำ ทำให้แหล่งน้ำสกปรกและไม่ปลอดภัยสำหรับทั้งคนและสัตว์ที่ต้องใช้น้ำนั้น ยิ่งไปกว่านั้นพาหะนำโรคที่มาพร้อมกับกองขยะเหล่านี้ก็พร้อมจะแพร่กระจายสิ่งก่อความเจ็บป่วยต่างๆ สู่ชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งการกระทำเพียงเล็กน้อยของเราในการทิ้งขยะไม่ถูกที่ จึงไม่ได้แค่ทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม แต่ยังเป็นการบ่อนทำลายสุขอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนในสังคมอีกด้วยค่ะ 7. ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศชายฝั่งและแนวปะการัง เพื่อนๆ รู้ไหมคะว่า ขยะที่เราทิ้งไป ไม่ว่าจะเป็นถุงพลาสติก ขวดน้ำ หรือเศษสิ่งของต่างๆ จะถูกกระแสน้ำพัดพาลงสู่ทะเล และไปกองรวมกันบริเวณชายฝั่งหรือในแนวปะการัง ซึ่งขยะเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้ทัศนียภาพเสียไปเท่านั้น แต่ยังเป็นอันตรายถึงชีวิตของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำอีกด้วย เช่น ปะการัง ที่อาจถูกขยะปกคลุมจนไม่ได้รับแสงแดดที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต ทำให้ฟอกขาวและตายในที่สุด หรือสัตว์ทะเลอย่างปลาและเต่าที่อาจกินขยะเข้าไป ทำให้ป่วยหรือเสียชีวิตได้ นอกจากนี้เศษขยะที่แตกตัวเป็นไมโครพลาสติก ยังสามารถปนเปื้อนอยู่ในน้ำและสะสมในห่วงโซ่อาหาร ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด รวมถึงมนุษย์เราเองด้วย ดังนั้นการที่เราช่วยกันไม่ทิ้งขยะลงในน้ำ จึงเป็นการช่วยปกป้องบ้านอันสวยงามของสิ่งมีชีวิตชายฝั่งและปะการัง ให้ยังคงความสมบูรณ์และเป็นแหล่งอาหารสำคัญของโลกต่อไปค่ะ 8. เกิดไมโครพลาสติก หลายคนอาจคิดว่า การทิ้งขยะลงในแม่น้ำลำคลองอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หารู้ไม่ว่านี่คือจุดเริ่มต้นของปัญหาใหญ่ที่มองไม่เห็น นั่นก็คือไมโครพลาสติกค่ะ เพราะว่าขยะพลาสติกชิ้นใหญ่ๆ ที่เราทิ้งลงไป ไม่ว่าจะเป็นถุง ขวด หรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆ เมื่ออยู่ในน้ำเป็นเวลานานๆ ทั้งจากแสงแดด กระแสน้ำ หรือการเสียดสีกันเอง จะค่อยๆ แตกตัวและผุพังลงเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ ที่มีขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร ซึ่งเราเรียกสิ่งนี้ว่า “ไมโครพลาสติก” ที่ในบางครั้งไมโครพลาสติกมีขนาดเล็กมากจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น และจะแทรกซึมไปทั่วระบบนิเวศในน้ำ ทั้งในดิน ตะกอน และถูกสิ่งมีชีวิตเล็กๆ กินเข้าไป และเมื่อสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นถูกสัตว์ใหญ่กินต่อ สารปนเปื้อนและไมโครพลาสติกก็จะสะสมเพิ่มขึ้นไปตามห่วงโซ่อาหาร จนอาจย้อนกลับมาสู่มนุษย์เมื่อเราบริโภคสัตว์น้ำเหล่านั้น การกระทำเล็กๆ เพียงการทิ้งขยะลงน้ำ จึงไม่ใช่แค่เรื่องความสกปรก แต่คือการสร้างมลพิษที่มองไม่เห็นและส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยของทุกชีวิตบนโลกอย่างร้ายแรงค่ะ 9. ส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ลองคิดดูคะว่า เมื่อแหล่งน้ำเต็มไปด้วยขยะ ทั้งถุงพลาสติก ขวดน้ำ เศษโฟม หรือสิ่งของอื่นๆ ที่ลอยเกลื่อนกลาดและส่งกลิ่นเหม็นเน่า ภาพความสวยงามของธรรมชาติก็จะหายไปทันที นักท่องเที่ยวที่เคยอยากมาพักผ่อนหย่อนใจ ชมวิวทิวทัศน์ หรือทำกิจกรรมทางน้ำ ก็จะไม่อยากมาเที่ยวอีกต่อไป เพราะใครจะอยากมาเห็นกองขยะแทนที่จะเป็นผืนน้ำที่ใสสะอาด? เมื่อนักท่องเที่ยวลดลง ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร หรือร้านขายของที่ระลึก ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย ทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นซบเซา การที่เราไม่ทิ้งขยะลงในแหล่งน้ำ จึงไม่เพียงแต่ช่วยรักษาความสะอาด แต่ยังเป็นการช่วยกันรักษาสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในพื้นที่ และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชนให้ยังคงเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืนค่ะ และทั้งหมดนั้นคือผลเสียที่จะตามมาหากเรายังทิ้งขยะลงในน้ำค่ะ จะเห็นได้ว่าผลกระทบบางอย่างก็เกิดขึ้นทันทีทันใด เช่น มีกลิ่นเหม็นรบกวน ภาพที่ไม่น่ามอง และหลายๆ ผลกระทบก็เกิดจากการะสมปัญหาไปทีละเล็กทีละน้อย ที่โดยสรุปแล้วการทิ้งขยะลงในแม่น้ำลำคลอง เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบร้ายแรงกว่าที่หลายคนคิด ที่ไม่ใช่แค่ทำให้แหล่งน้ำสกปรกหรือส่งกลิ่นเหม็นเท่านั้น แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศใต้น้ำอย่างรุนแรง เพราะขยะทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในน้ำ ทั้งยังเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลผ่านการกินเข้าไปหรือติดพัน อีกทั้งยังทำให้เกิดการปนเปื้อนสารพิษในระบบนิเวศ สร้างน้ำเสีย บดบังแสงแดดและลดการสังเคราะห์แสงของพืชน้ำ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์พาหะนำโรค และส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบนิเวศชายฝั่ง แนวปะการัง รวมถึงการเกิดไมโครพลาสติกที่ปนเปื้อนไปทั่ว และท้ายที่สุดก็ยังทำลายทัศนียภาพ ส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วยค่ะ ซึ่งการที่เราตระหนักรู้ถึงผลกระทบเหล่านี้ถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะจะทำให้เราเข้าใจว่า ทุกการกระทำของเราส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้อย่างไร และเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการรู้เรื่องนี้ในสถานการณ์จริง เราต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ ด้วยการทิ้งขยะให้ถูกที่ ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง และคัดแยกขยะอย่างจริงจัง นอกจากนี้การเป็นกระบอกเสียงให้คนรอบข้างเข้าใจถึงปัญหานี้ และเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาเพื่อเก็บขยะในแหล่งน้ำ ก็เป็นการช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงกว้างได้ หากทุกคนร่วมมือกัน โลกของเราก็จะน่าอยู่ขึ้นและเต็มไปด้วยแหล่งน้ำที่สะอาดอย่างยั่งยืนได้ค่ะ เพราะที่นี่ผู้เขียนก็คัดแยกขยะเหมือนกันค่ะ และพยายามเก็บขยะทั้งหมดจากการไปท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำ ที่ในบางครั้งก็มีโอกาสไปเดินเก็บขยะตามที่ท่องเที่ยวแถวบ้านด้วยค่ะ และไม่เคยลืมที่จะบอกทุกคนใกล้ตัวในบ้านว่า “อย่าทิ้งขยะไม่เป็นที่” เพราะการจะมาเก็บทีหลังไม่ง่ายเลยจริงๆ ค่ะ ดังนั้นอยากเชิญชวนคนไทยทุกคนให้ตระหนักว่า มีขยะตอนไหนก็ตาม จะมากจะน้อย ขอให้นำไปทิ้งให้ถูกที่ เพื่อนำไปกำจัดให้เหมาะสมตามหลักวิชาการค่ะ และด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป และถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดดูโปรไฟล์ได้เลยค่ะ #มลพิษทางน้ำ #ปัญหาสิ่งแวดล้อม #ทิ้งขยะลงน้ำ #waterpollution เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก โดย Naja Bertolt Jensen จาก Unsplash และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1 โดย Naja Bertolt Jensen จาก Unsplash, ภาพที่ 2 โดย Fayegh(Shamal) Shakibayi จาก Unsplash และภาพที่ 3-4 โดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 11 ตัวอย่างนำถุงพลาสติกมาใช้ซ้ำ ทำอะไรได้บ้าง เพื่อลดการทิ้ง 9 แนวทางป้องกันแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ ไม่ให้ประสบปัญหาน้ำเสีย 10 วิธีลดถุงพลาสติก แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ทำอะไรได้บ้าง ง่ายๆ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !