“แม่น้ำโขง” วิกฤต ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

ระดับน้ำในแม่น้ำโขง บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตรวจวัดที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน เมื่อวานนี้(17 มิ.ย.) อยู่ที่ 2 เมตร 44 เซนติเมตร เพิ่มขึ้นจากวันที่ 16 มิถุนายน ถึง 23 เซนติเมตร สาเหตุมาจากฝนตกหนักต่อเนื่องนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่รอยต่อของสามประเทศ ได้แก่ ไทย เมียนมา และ สปป.ลาว รวมถึง พื้นที่ต้นน้ำตอนบนของแม่น้ำโขง ประกอบกับยังมีมวลน้ำจากแม่น้ำสาขาหลายสาย เช่น แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำกก ไหลมาสมทบ ส่งผลให้สภาพน้ำในแม่น้ำโขงมีสีขุ่น ไหลเชี่ยวกราก
ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบ ต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านที่พึ่งพาการจับปลาจากแม่น้ำโขง ช่วงนี้ต้องหยุดออกหาปลา เพราะนอกจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวแล้ว ชาวบ้านก็ยังกังวลเรื่องสารปนเปื้อนในแม่น้ำ โดยเฉพาะ ร้านอาหารตามสั่งริมฝั่งโขงที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากลูกค้าต่างเกิดความกังวล ไม่กล้าสั่งเมนูปลาแม่น้ำ แม้ทางร้านจะยืนยันว่าใช้ปลาจากบ่อเลี้ยงในชุมชนก็ตาม
ขณะที่ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา กรมควบคุมมลพิษได้ตรวจพบโลหะหนัก โดยเฉพาะ “สารหนู” ในแม่น้ำโขง รวมถึงแม่น้ำกก แม่น้ำรวก และแม่น้ำสายในหลายจุด เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด สันนิษฐานว่าสารปนเปื้อนเหล่านี้อาจไหลมาจากแหล่งต้นน้ำในเขตปกครองว้า ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของเหมืองแร่จำนวนมาก โดยเฉพาะเหมืองทองคำและเหมืองแร่หายาก (Rare Earth) ที่มีการดำเนินการอยู่ใกล้แหล่งน้ำสำคัญ
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของภาคประชาชนก็เริ่มเกิดขึ้นเช่นกัน โดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นาย นิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ ได้ส่งหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมสำเนาถึงหน่วยงานต่าง ๆ เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้ตรวจการแผ่นดิน และกรรมาธิการในรัฐสภา เรียกร้องให้มีการพิจารณาโครงการเขื่อนอย่างรอบคอบ เนื่องจากแม้ประเทศไทยจะมีพลังงานสำรองเพียงพออยู่แล้ว แต่โครงการนี้กลับอาจสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต และความมั่นคงทางอาหารของชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงทั้งสองฝั่ง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
