สหรัฐฯ เผชิญมัลแวร์เรียกค่าไถ่ครั้งใหญ่ กระทบร้านของชำในสวีเดนต้องปิด 800 สาขา

Sweden: เครือร้านของชำใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสวีเดน ต้องปิดทั้งหมด 800 สาขาทั่วประเทศ เพราะไม่สามารถใช้เครื่องคิดเงินระยะไกลได้ หลังจากบริษัทไฮเทคในสหรัฐฯ ถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่วานนี้ (3 กรกฎาคม)

เมื่อวันเสาร์ (3 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา Coop เครือร้านของชำในสวีเดนเผยว่า เครื่องมือที่ใช้ปรับปรุงเครื่องคิดเงินจากระยะไกล ได้รับผลกระทบจากการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ บริษัทพยายามแก้ปัญหาตลอดคืน แต่ยังคงต้องปิดทุกสาขา โดยมีสาขาที่ได้รับผลกระทบกว่า 800 แห่งทั่วประเทศ

นอกจากเครือร้านของชำในสวีเดนแล้ว เครือร้านขายยาและบริการการรถไฟ ของรัฐในสวีเดนก็ถูกกระทบด้วย ธุรกิจที่ถูกกระทบถูกเข้ารหัสไฟล์ และมีข้อความอิเล็กทรอนิกส์เรียกค่าไถ่

สื่อในสวีเดนเผยว่า Coop เป็นหนึ่งในธุรกิจสวีเดนจำนวนมาก ที่ให้ Visma Esscom บริษัทในสวีเดน ดูแลเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์ โดยใช้เทคโนโลยีของ Kaseya บริษัทในเมืองไมอามีของสหรัฐฯ

ปัญหาดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจาก Kaseya ถูกมัลแวร์เรียกค่าไถ่ สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของแก๊งชื่อ REvil ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า แก๊งนี้จงใจลงมือก่อนช่วงหยุดยาวสุดสัปดาห์ ในวันชาติที่สหรัฐฯ หวังให้เกิดผลกระจายในวงกว้าง

ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ สั่งการให้หน่วยงานข่าวกรองสอบสวนเรื่องนี้แล้ว

Kaseya แจ้งว่า มีลูกค้าได้รับผลกระทบโดยตรงเพียง 40 ราย และกำลังประสานกับสำนักสอบสวนกลาง หรือ FBI ของสหรัฐฯ ซึ่ง FBI ขอให้ผู้ได้รับผลกระทบปฏิบัติตามคำแนะนำของ Kaseya ด้วยการปิดเซิร์ฟเวอร์ทันที

ด้านกระทรวงกลาโหมสวีเดนชี้ว่า การโจมตีนี้ร้ายแรงมาก และสะท้อนว่าภาครัฐและเอกชน ต้องเตรียมความพร้อมให้ดียิ่งขึ้น