รีเซต

ปภ.รายงาน สถานการณ์ 'น้ำท่วม' 18 จว. ประสานเร่งระบายน้ำ ช่วยปชช.

ปภ.รายงาน สถานการณ์ 'น้ำท่วม' 18 จว. ประสานเร่งระบายน้ำ ช่วยปชช.
มติชน
26 กันยายน 2565 ( 13:32 )
49
ปภ.รายงาน สถานการณ์ 'น้ำท่วม' 18 จว. ประสานเร่งระบายน้ำ ช่วยปชช.

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 กันยายน ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 18 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน สุโขทัย ตาก เพชรบูรณ์ เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ ศรีสะเกษ ระยอง ปราจีนบุรี อุบลราชธานี บุรีรัมย์ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ปทุมธานี รวม 58 อำเภอ 199 ตำบล 820 หมู่บ้าน ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำทรงตัว แต่พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางจุดมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น ประสานพื้นที่เร่งระบายน้ำและให้การช่วยเหลือประชาชนแล้ว

 

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานผลกระทบจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

 

ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่วันที่ 22 – 26 ก.ย. 65 ในพื้นที่ 18 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน สุโขทัย ตาก เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ นครราชสีมา มุกดาหาร ยโสธร ระยอง ปราจีนบุรี สมุทรปราการ รวม 37 อำเภอ 61 ตำบล 110 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 141 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 12 จังหวัด รวม 25 อำเภอ 43 ตำบล 80 หมู่บ้าน

 

สถานการณ์ในภาพรวมระดับน้ำ ลดลงทุกจังหวัด ดังนี้

1. เชียงใหม่ เกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอจอมทอง อำเภอดอยเต่า อำเภอฮอด อำเภอสะเมิง รวม 10 ตำบล 12 หมู่บ้าน

2. ลำปาง เกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเถิน อำเภอแจ้ห่ม อำเภอ
วังเหนือ อำเภอเมืองปาน รวม 8 ตำบล 22 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 51 ครัวเรือน

3. ลำพูน เกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลำพูน อำเภอ
ป่าซาง อำเภอลี้ อำเภอบ้านธิ รวม 5 ตำบล 6 หมู่บ้าน

4. สุโขทัย เกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่อำเภอศรีสัชนาลัย รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน

5. ตาก เกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านตาก อำเภอเมืองตาก รวม 2 ตำบล 10 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 50 ครัวเรือน

6. เพชรบูรณ์ เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมถนนทางหลวงหมายเลข 2216ในพื้นที่อำเภอหล่มสัก รวม 1 ตำบล 1 หมูบ้าน

7. เลย เกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังสะพุง อำเภอด่านซ้าย รวม 4 ตำบล 7 หมูบ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5 ครัวเรือน

8. ขอนแก่น เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน

9. ชัยภูมิ เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ และอำเภอคอนสวรรค์ รวม 4 ตำบล 12 หมูบ้าน

10. ศรีสะเกษ เกิดฝนตกหนักน้ำในคลองสำราญเอ่อล้นในพื้นที่อำเภอเมืองศรีสะเกษ รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน

11. ระยอง เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมขังผิวจราจรในพื้นที่อำเภอเมืองระยอง รวม 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน

12. ปราจีนบุรี เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอเมืองปราจีนบุรี รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 17 ครัวเรือน

 

สำหรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง

ผลกระทบจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก และปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก ลำน้ำสาขามีปริมาณมาก ระหว่างวันที่ 13 ส.ค. 65 – 26 ก.ย. 65 ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ ตาก ขอนแก่น มหาสารคาม อุบลราชธานี บุรีรัมย์ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี และปทุมธานี ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 7 จังหวัด ตาก อุบลราชธานี บุรีรัมย์ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี และปทุมธานี รวม 21 อำเภอ 138 ตำบล 710 หมู่บ้าน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้

– ตาก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามเงา และอำเภอบ้านตาก รวม 4 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 342 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
– อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ อำเภอสว่างวีระวงศ อำเภอพิบูลมังสาหาร รวม 10 ตำบล 36 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 660 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
– บุรีรัมย์ น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ตำบลนิคม อำเภอสตึก รวม 5 หมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
– พระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา
อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน และอำเภอพระนครศรีอยุธยา รวม 88 ตำบล 535 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 24,937ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว

– อ่างทอง น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอป่าโมก อำเภอไชโย และอำเภอเมืองอ่างทอง รวม 11 ตำบล 36 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 802 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
– สิงห์บุรี เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี และอำเภอเมืองสิงห์บุรี รวม 3 ตำบล 6 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 170 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว
– ปทุมธานี เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก
รวม 21 ตำบล 64 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,926 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

สำหรับการให้ความช่วยเหลือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป

ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง