อันยองฮาเซโย...สวัสดีค่ะทุกคน แค่ทุกคนเห็นประโยคนี้ก็คง อ๋อ! ทันทีว่าบทความนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเกาหลีแน่ ๆ... ใช่แล้วค่ะ เพราะทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีได้รับความสนใจจากคนไทยทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น ซีรีส์เกาหลี นักร้อง นักแสดง ศิลปินเกาหลี ภาษาวัฒนธรรมเกาหลี การเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลี และการรับประทานอาหารเกาหลี เย็นวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ จะฟินมากแค่ไหน ถ้าเพื่อน ๆ นัดเดอะแก๊งไปทานอาหารเกาหลี, ผู้ปกครองพาบุตรหลานไปทานปิ้งย่าง หรือคุณครูพานักเรียนไปทานบุฟเฟต์อาหารเกาหลี แล้วชวนคุยสอดแทรกความรู้เรื่องราวที่เป็นวิทยาศาสตร์ รับรองว่านอกจากเด็ก ๆ จะได้อิ่มท้องแล้ว ยังได้ความรู้ซึ่งเกิดจากการเรียนรู้ที่ได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองอีกด้วย การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ สำหรับเด็กไทยในยุคศตวรรษที่ 21 ครูผู้สอนสามารถอธิบายความรู้วิทยาศาสตร์ให้แก่เด็กได้ง่าย ๆ จากเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันหรือสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว เด็กในยุคนี้ชอบและให้ความสนใจในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอจากการได้ปฏิบัติลงมือทำมากกว่าการมานั่งฟังบรรยายในชั้นเรียน โดยเฉพาะวิชาวิทยาศาสตร์ ถ้าครูผู้สอนมีกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติลงมือทำส่งผลให้ผู้เรียนเกิดทักษะในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ด้วยตนเอง เช่น ทักษะการสังเกต ระบุปัญหา รู้จักตั้งคำถามหรือสมมุติฐาน ทักษะในการทดลองลงมือปฏิบัติ การคิดวิเคราะห์ข้อมูล และสามารถสรุปผลที่ได้จากการลงมือปฏิบัติเป็นองค์ความรู้ของตนเองสามารถสอนวิทยาศาสตร์ กับ อาหารเกาหลี ในเรื่องใดได้บ้าง? 1. เรื่อง ความร้อน ชวนให้เด็ก ๆ พิจารณาวัสดุที่นำมาทำกระทะสำหรับปิ้งย่าง แล้วอธิบายว่าตัวนำความร้อน : วัตถุที่ทำจากโลหะเป็นตัวนำความร้อนที่ดี ยอมให้ความร้อนเคลื่อนที่ผ่าน ดังนั้นกระทะเป็นวัตถุที่ทำจากโลหะเมื่อได้รับความร้อนจะนำความร้อนได้ไวทำให้อาหารสุกไว ฉนวนความร้อน : วัตถุที่ทำจากพลาสติก ไม้ แก้ว ยาง กระเบื้อง ผ้า เป็นต้น ซึ่งเป็นวัตถุที่ไม่นำความร้อน เพราะไม่ยอมให้ความร้อนผ่านไปได้ 2. เรื่อง การถ่ายโอนความร้อน ตั้งคำถามให้เด็ก ๆ วิเคราะห์ว่าอาหารที่อยู่ในกระทะ กับอาหารที่อยู่ในหม้อต้ม สุกได้อย่างไร สามารถอธิบายได้ว่า อาหารที่อยู่ในกระทะได้รับความร้อนจากเตาแก๊สที่ถูกถ่ายโอนให้กระทะโดยการแผ่รังสีความร้อน ทำให้กระทะร้อนและมีการนำความร้อนไปสู่อาหารทำให้อาหารในกระทะสุก ส่วนอาหารที่อยู่ในหม้อต้ม สุกได้เพราะได้รับความร้อนจากการนำความร้อนของหม้อถ่ายโอนความร้อนผ่านตัวกลางในการเคลื่อนที่ซึ่งมีสถานะเป็นของเหลว เมื่อโมเลกุลของน้ำซึ่งเป็นของเหลวที่อยู่ในหม้อได้รับความร้อน น้ำจะเดือดและทำให้อาหารให้หม้อสุก เรียกการถ่ายโอนความร้อนแบบนี้ว่า การพาความร้อน การแผ่รังสีความร้อน (Radiation) : เป็นการถ่ายโอนความร้อนจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งในทุกทิศทุกทาง โดยไม่ต้องอาศัยตัวกลางในการเคลื่อนที่ เช่น การแผ่รังสีความร้อนของดวงอาทิตย์ การตากผ้ากลางแจ้ง การตากปลา ตากหมูแดดเดียวให้แห้ง การนำความร้อน (Conduction) : เป็นการถ่ายโอนความร้อนที่ต้องมีวัตถุของแข็งเป็นตัวกลางในการนำความร้อน โดยที่ตัวกลางไม่เคลื่อนที่แต่ความร้อนจะเคลื่อนที่ไปตามเนื้อของตัวกลาง เช่น การเผาด้านหนึ่งของแท่งเหล็ก ความร้อนจะเคลื่อนที่ไปตามเนื้อของแท่งเหล็กจนทำให้ปลายอีกข้างของแท่งเหล็กร้อนตามไปด้วย หรือการที่เราบังเอิญเอามือไปจับกระทะที่ร้อนจัดไม่มีฉนวนหุ้ม จะทำให้เรารู้สึกร้อนมือและเกิดการไหม้พุพองของผิวหนังได้การพาความร้อน (Convection) : เป็นการถ่ายโอนความร้อนด้วยการเคลื่อนที่ของของเหลวและแก๊สซึ่งเป็นตัวกลางในการพาความร้อน เช่น การต้มน้ำ ในขณะที่น้ำเดือดเราสังเกตเห็นได้ว่ามีการเคลื่อนที่ของน้ำในหม้อเกิดขึ้นซึ่งโมเลกุลของน้ำที่เดือดจะส่งผลให้อาหารที่อยู่ในหม้อต้มค่อย ๆ สุกจนรับประทานได้ 3. เรื่อง อาหาร ชวนเด็ก ๆ พิจารณาสารอาหารที่เด็ก ๆ จะได้รับจากอาหารมื้อนี้โปรตีน (Protein) : สารอาหารที่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนซึ่งจำเป็นสำหรับร่างกาย โปรตีน 1 กรัมให้พลังงานแก่ร่างกาย 4 กิโลแคลอรี โปรตีนมีหน้าที่สร้างความแข็งแรง ซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนที่สึกหรอ ช่วยในการทำงานของกระดูก กล้ามเนื้อ และผิวหนัง โปรตีนจะถูกย่อยที่กระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก หน่วยที่เล็กที่สุดของโปรตีน คือ กรดอะมิโนไขมัน (Fats) : สารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ไขมัน 1 กรัมให้พลังงาน 9 กิโลแคลอรี ไขมันเป็นสารอินทรีย์ที่ไม่ละลายน้ำ หากมีสถานะเป็นของเหลวเรียกว่า “น้ำมัน” ถ้ามีสถานะเป็นของแข็งจะเรียกว่า “ไขมัน” ไขมันช่วยป้องกันอวัยวะภายใน ช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกายทำให้ร่างกายอบอุ่น ละลายวิตามิน A, D, E, K ช่วยในกรดูดซึมวิตามินที่ลำไส้เล็กและเข้าสู่หลอดเลือด ไขมันจะถูกย่อยสลายที่ลำไส้เล็กโดยอาศัยน้ำดีจากตับทำให้ไขมันแตกตัว หน่วยที่เล็กที่สุดของไขมัน คือ กรดไขมัน (Fatty Acids) และกลีเซอรอลคาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate) : สารอาหารหลักที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย คาร์โบไฮเดรต 1 กรัมให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี เราจะพบคาร์โบไฮเดรตในอาหารประเภท แป้ง น้ำตาล และเส้นใยอาหาร คาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของสารในร่างกาย เช่น กรดนิวคลีอิค ไกลโคโปรตีน และเป็นแหล่งพลังงานสะสมในรูปของไกลโคเจน โดยคาร์โบไฮเดรตถูกย่อยที่ปากเป็นอันดับแรก รองลงมาคือน้ำลายซึ่งมีเอนไซม์อะไมเลส และถูกย่อยอีกครั้งที่ลำไส้เล็ก หน่วยที่เล็กที่สุดของคาร์โบไฮเดรต คือ น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว(โมโนแซคคาไรด์)วิตามิน (Vitamin) : เป็นสารอินทรีย์ที่ทำให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติ แม้ร่างกายจะต้องการวิตามินในปริมาณน้อย แต่ก็ขาดไม่ได้ วิตามินแบ่งได้ 2 กลุ่ม คือ วิตามินที่ละลายในไขมัน (A, D, E, K) พบในตับ ไข่ ผลไม้สีเหลืองหรือสีส้ม น้ำมันตับปลา ผักบุ้ง ผักใบเขียว เป็นต้น วิตามินพวกนี้จะช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างกระดูกและฟัน สร้างลิ่มเลือดทำให้เลืดแข็งตัวได้ และป้องกันการเป็นหมัน ส่วนวิตามินที่ละลายน้ำ (B1, B2, B6, B12, C) พบในข้าวกล้อง เนื้อสัตว์ ถั่วเหลือง ไข่ นม ชีส ผักใบเขียว แตงกวา ต้นหอม มะเขือเทศ ส้ม ฝรั่ง สับปะรด เป็นต้น วิตามินเหล่านี้จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา โรคปากนกกระจอก บำรุงระบบประสาท บำรุงเลือด ป้องกันโรคโลหิตจาง ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยสมานแผล และมีสารต้านอนุมูลอิสระเกลือแร่ (Mineral) : เป็นสารอนินทรีย์ที่มีความสำคัญต่อร่างกาย ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อและฮอร์โมน รักษาสมดุลของน้ำ กรดด่างในร่างกาย และช่วยในการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ เราจะพบเกลือแร่ในอาหารประเภทผักใบเขียว เนื้อสัตว์ ผลไม้ อาหารทะเล และธัญพืช จะเห็นได้ว่าแค่การรับประทานอาหารเกาหลี นอกจากที่เราจะได้ความอิ่มอร่อย ความสุขที่ได้จากการทานอาหารและนั่งคุยกับเพื่อน ๆ ในโต๊ะอาหารแล้ว ผู้อ่านยังได้ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ในเรื่องประโยชน์ของสารอาหารที่ได้รับประทานเข้าไปเพราะอาหารแต่ละประเภทมีคุณค่าของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ส่วนเรื่องของความร้อนและการถ่ายโอนความร้อน ผู้อ่านสามารถนำความรู้ในเรื่องนี้ไปปรับใช้โดยการเลือกวัสดุที่นำความร้อนได้ดีในการประกอบการทำอาหารเพื่อให้อาหารสุกเร็วขึ้น ได้รู้ว่าวัสดุประเภทไหนที่เป็นตัวนำความร้อนและฉนวนความร้อนทำให้เราสามารถป้องกันอุบัติเหตุจากความร้อนได้ สำหรับในด้านการจัดการเรียนรู้ “เรียนวิทย์ with Korean Food” ครูผู้สอนสามารถนำไปปรับใช้ในการเรียนการสอนได้จริงเนื่องจากเป็นเรื่องง่าย ๆ ใกล้ตัว เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าถึงการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้ง่ายขึ้นจากการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ที่อยู่รอบตัว สามารถกระตุ้นความสนใจของผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ และส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ภาพปกโดย : Navaภาพประกอบโดย : Navaเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !