เกาหลีใต้ล็อคดาวน์กรุงโซลอีกรอบ หลังโควิด-19 กลับมาระบาดรุนแรง

วันนี้ (17พ.ย.63) เจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เกาหลีใต้ จะบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มข้นมากขึ้นในพื้นที่กรุงโซล เมืองหลวง หนึ่งเดือนหลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ พร้อมเตือนว่าจะเกิดวิกฤตรุนแรงหนักหน่วงขึ้น หากความพยายามควบคุมไวรัสที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอีก ประสบความล้มเหลว

มาตรการคุมเข้มครั้งใหม่นี้ เริ่มมีผลเที่ยงคืนวันอังคาร กำหนดห้ามประชาชนรวมกลุ่มในที่สาธารณะเกิน 100 คน, จำกัดการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและจำกัดผู้เข้าชมกีฬาเหลือ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และกำหนดให้สถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่นคลับและร้านคาราโอเกะ ขยายระยะห่างระหว่างลูกค้าให้มากขึ้น

ทั้งนี้ เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของไวรัส หลังจากจัดการกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นการระบาดนอกจีนครั้งแรกด้วยการติดตามและตรวจสอบเชิงรุกเข้มข้น แต่ก็ยังคงต่อสู้กับการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องของผู้ติดเชื้อ

มาตรการที่เข้มข้นมากขึ้นนี้มีขึ้น ขณะที่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดรายวันสูงกว่า 200 รายเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแล้ว โดยมีการระบาดในหลายกลุ่มก้อนทั้งจากสำนักงาน, สถานพยาบาล และการรวมกลุ่มของผู้คนจำนวนเล็กน้อยในกรุงโซลและพื้นที่ปริมณฑล ที่มีประชากรประมาณครึ่งหนึ่งของประชากรทั่วประเทศ 52 ล้านคน อาศัยอยู่

นายซอง เซ-กยุน นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ กล่าวต่อที่ประชุมว่า ความพยายามควบคุมไวรัสของเกาหลีใต้ กำลังเผชิญวิกฤต และสถานการณ์เลวร้ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเทศบาลกรุงโซล การควบคุมที่เข้มข้นจะเป็นสาเหตุให้เกิดความไม่สะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก แต่ทุกคนก็รู้จากประสบการณ์ ซึ่งจะเป็นวิกฤตเลวร้ายมากขึ้น หากไม่รีบดำเนินการเสียแต่ตอนนี้

สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (เคดีซีเอ) รายงานว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 230 รายในช่วงเที่ยงคืนวันจันทร์ ทำให้เป็นวันที่ 9 ติดต่อกันแล้วที่มีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ตัวเลข 3 หลัก และสูงที่สุดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่นี้ มี 202 รายติดเชื้อในประเทศและ 28 รายเป็นผู้ติดเชื้อนำเข้า และเกือบ 68 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อภายในประเทศ มาจากพื้นที่เขตกรุงโซล

ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมในเกาหลีใต้ อยู่ที่ 28,998 ราย และเสียชีวิต 494 ราย 

ผู้อำนวยการเคดีซีเอ เตือนเมื่อวันจันทร์ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันอาจพุ่งสูงถึง 400 รายภายในไม่กี่สัปดาห์นี้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด และลดการฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วย