คนร้ายบุกเดี่ยว ใช้มีดปล้นร้านทองห้างโลตัสมหาชัย บิดจยย.หนีลอยนวล คว้าไปได้ 22 บาท
เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.ของวันที่ 19 มีนาคม 2565 เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายรูปร่างสูง ผิวขาว อายุไม่เกิน 30 ปี สวมเสื้อเเขนยาวสีน้ำเงิน สวมหมวกไหมพรมคลุมใบหน้า ก่อเหตุบุกเดี่ยวใช้อาวุธมีดทำครัวจี้ชิงทรัพย์ห้างทองบางกอกโกลด์ สาขาโลตัส มหาชัย คลองครุ หมู่ที่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ทรัพย์ที่ได้เป็นทองรูปพรรณ ประกอบด้วย สร้อยข้อมือน้ำหนัก 3 บาท จำนวน 4 เส้น และ สร้อยข้อมือน้ำหนัก 5 บาท จำนวน 2 เส้น คิดเป็นมูลค่าเกือบ 700,000 บาท โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้วิ่งมาขึ้นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่จอดทิ้งไว้บริเวณด้านหน้าห้างฯ ก่อนขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ภายหลังได้รับแจ้งรายงานเหตุ พ.ต.อ.วรพล ยิ่งเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร,พ.ต.ท.ชุมพร ฉัตร์สงวนชัย รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิทธิโชคธรรม รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสมุทรสาคร,พ.ต.ท.อนุรักษ์ ดีคล้าย สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.สมุทรสาคร กับ สืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ก็ได้รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เก็บลายนิ้วมือบนเคาท์เตอร์ และเก็บรวบรวมหลักฐานอื่นๆ พร้อมกับสอบปากคำนางสาวจุฑามาศ ก๊กสมบูรณ์ อายุ 33ปี พนักงานขายทองประจำหน้าร้าน และพนักงานคนอื่นๆ รวมถึงผู้เห็นเหตุการณ์ โดยเบื้องต้นผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขณะที่กำลังยืนขายทองอยู่หน้าเคาท์เตอร์นั้น คนร้ายเป็นชายได้สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า กระโดดข้ามเคาท์เตอร์มาแล้วชูอาวุธมีดที่พกติดตัวมาด้วยนั้น ขึ้นมาข่มขู่พนักงานขาย ก่อนที่จะหยิบเอาทองรูปพรรณเป็นสร้อยข้อมือรวมจำนวน 22 บาท หลบหนีไป
ด้านหัวหน้าผู้ดูแลรักษาความปลอดภัยภายในห้างโลตัสคลองครุ เล่าว่า ขณะที่ตนเองยืนปฏิบัติหน้าที่ภายในห้างโลตัสฯ นั้น ก็ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายชิงทรัพย์ร้านทองที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าออก ตนจึงรีบวิ่งออกมาเพื่อจะติดตามคนร้ายพร้อมกับอีกหลายๆ คนที่พยายามจะช่วยกันจับตัว แต่เมื่อมาถึงตรงที่คนร้ายจอดรถไว้ ก็พบว่าคนร้ายได้สตาร์ทรถขับหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อนที่คนร้ายจะลงมือก่อเหตุนั้น มีคนเห็นว่า คนร้ายได้สวมแมสปิดบังใบหน้าเดินเข้าในห้างแบบปกติ จากนั้นพอจะลงมือจึงสวมหมวกไหมพรมแล้วกระโดดข้ามเคาท์เตอร์ไปก่อเหตุชิงทอง
ด้านนายทองพันธ์ ดวงปากกา อายุ 42 ปี คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง หน้าห้างโลตัสฯ เล่าว่า ตนเองเห็นพนักงานในห้างวิ่งแตกตื่นกันออกมา ก็เลยตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็ได้ยินเสียงว่า ทองๆ ก็เลยคิดว่าน่าจะมีการปล้นร้านทองเกิดขึ้น ตนจึงวิ่งไปที่หน้าประตูก็ได้ยินเจ้าหน้าที่บอกว่าโน้นๆๆ พร้อมกับชี้ไปทางคนร้าย ตนจึงวิ่งตามไปที่รถ แต่คนร้ายก็สตาร์ทขับออกไปแล้ว ตนกับพี่อีกคนที่ขับจักรยานยนต์รับจ้างด้วยกันจึงขับรถตามไปถึงแยกบางปลา แต่ก็คลาดกับคนร้ายเพราะรถติดไฟแดง
ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านทองนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังเก็บไว้เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด แต่มีภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านขายโทรศัพท์มือถือที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กับร้านทอง ก็เห็นว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.15 น.มีชายคนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อแขนยาว นุ่งกางเกงขายาว ใส่แมส มีกระเป๋าสะพาย และมีหมวกไหมพรมสวมใส่อยู่บนศรีษะ เดินเข้ามาในห้างโลตัส เมื่อผ่านจุดคัดกรองไปแล้ว ชายคนดังกล่าวได้ดึงหมวกไหมพรมลงมาปิดคลุมใบหน้า จากนั้นเดินตรงไปที่ร้านทอง เพียงครู่เดียวก็ได้ยินเสียงพนักงานร้องขึ้นด้วยความตกใจส่งเสียงดัง แล้วก็มีพนักงานวิ่งออกมาร้องขอความช่วยเหลือ ขณะที่มุมภาพไกลมองเห็นชายคนดังกล่าวกำลังรีบหยิบทองจากแผงในตู้กระจก ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที คนร้ายก็วิ่งกลับออกไป
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำหลักฐานทั้งหมดไปทำการตรวจสอบ และกระจายกำลังกันออกติดตามตัวคนร้ายรายนี้ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด