เจาะลึกหุ้นธุรกิจ EV ตามเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า KTBST เลือก EA GPSC PIMO ROJNA เป็นหุ้นเด่น

ข่าววันนี้ จับตาการเติบโต EV ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของการใช้พลังงานรูปแบบในยานยนต์และเครื่องอื่นๆที่ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้คน บทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) (KTBST SEC) ระบุว่าจะเห็นได้ว่า EV หรือรถยนต์ไฟฟ้าในไทย เริ่มคึกคักมากขึ้นช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา หลังยอดขายรถ EV ในต่างประเทศเริ่มเติบโตได้ดี ปี 2563 ที่ผ่านมาทั่วโลกมียอดขาย EV เติบโตถึง 43% ขณะที่เทคโนโลยีของ แบตเตอรี่ ที่ทำให้ EV วิ่งได้ไกลขึ้น ราว 400-600 กม. ต่อการชาร์ตหนึ่งครั้ง อีกทั้งราคารถยนต์ที่ต่ำลง เช่น Nissan Ariya เอสยูวีไฟฟ้า เริ่มต้นที่1.87 ล้านบาท (ราคาขายในประเทศญี่ปุ่น) , ราคาขายเฉลี่ยรถ Tesla ทุก Model ลดลงจาก 57,000 เหรียญฯ ในไตรมาส 1/2563  เหลือ 48,000 เหรียญฯ ในไตรมาส 1/2564

ต้องบอกว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกในทศวรรษนี้ คือ “นโยบายลดโลกร้อน” หรือลดการปล่อยคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ (CO2 ) ทำให้ทุกประเทศในโลกต้องพัฒนาอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าในรูปแบบต่างๆ เป็นที่รู้จักในนามของ BEV, PHEV และจะมีชื่อเรียกอื่นๆตามมาอีก แต่เรียกรวมๆ ว่า EV (Electric Vehicles) ซึ่งปี 2563 ที่ผ่านมายอดขายรถยนต์ทั่วโลกอยู่ที่ 56 ล้านคัน ลดลง 14% จากปีก่อนเพราะการระบาดของโควิด-19 แต่ยอดขายรถ EV นั้น อยู่ที่ 3.24 ล้านคันขยายตัวถึง 43% มีสัดส่วนระหว่าง EV และยอดขายรถยนต์ทั่วโลก อยู่ที่ประมาณ 5% คาดว่าจะเพิ่มเป็น 15% ในปี 2568 และ 18-20% ในปี 2573 (ที่มา : www.automotiveworld.com) 

และเมื่อถึงปี 2583 ประเทศใน ยุโรป ไม่ว่าจะเป็น เยอรมัน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศผู้นำที่ออกนโยบาย ให้บริษัทรถยนต์ยุติการขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันทั้งหมด นั่นคือรถรุ่นใหม่ ๆ ที่ผลิตออกมาจะต้องใช้พลังงานทดแทนอื่น ๆ 

อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของไทย 

เมื่อมองมาที่ประเทศไทยพบว่า EV ที่ผลิตในไทยนั้นรถขนาดเล็กจะขายได้ในราคาหลักแสนบาทเท่านั้น KTBST SEC คาดว่า การสนับสนุนจากภาครัฐในเวลานี้น่าที่จะทำให้อุตสาหกรรม EV  ของไทยเติบโตไปได้  
คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศตามนโยบาย 30/30 เพื่อก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลกโดยมีกำลังการผลิตรถ ZEV อย่าง น้อย 30% ของการผลิตในปี 2573 ถือเป็นอีกหนึ่งกลไกที่จะนำทำให้ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ (Low carbon Society) ในอนาคต ขณะที่ BOI ยังให้การสนับสนุนการลงทุนทั้งการผลิตรถ BEV, PHEV, HEV ไปช่วงก่อนหน้า

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยยังมีทิศทางที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นหลังบริษัทยักษ์ใหญ่ของกลุ่มพลังงานอย่าง PTT ได้ลงนามกับ บริษัท หงไห่ พริซิชั่น อินดัสทรี จำกัด หรือ Foxconn Technology Group เพื่อพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า นับถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด

หุ้น EV ที่ต้องมีในพอร์ต

ดังนั้นในด้านของการลงทุน KTBST SEC ได้ทำบทวิเคราะห์ถึงหุ้นที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม EV ที่น่าสนใจในแต่ละกลุ่มไว้ดังนี้

• กลุ่มผู้ผลิตและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ : EA,GPSC, ROJNA, DELTA, NEX, BANPU, BPP, PIMO, HFT, CHO
• กลุ่มอุปกรณ์และสถานีชาร์ตไฟฟ้า ได้แก่ : EA, OR, PTG, BCP, FORTH, FSMART, DELTA, SYNEX, CPALL
• กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ ได้แก่ : SAT,EPG,PCSGH, FPI, IHL, KCE, HANA 

สำหรับหุ้นเด่นที่ KTBST SEC เลือกเป็น Top Pick ของอุตสาหกรรม EV ดังนี้

• EA : มีความพร้อมที่จะขยายกำลังการผลิต การเตรียมส่งมอบ , รถบัส, เรือไฟฟ้า และกำลังเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โรงงานแบตเตอรี่ขนาด 1 GWh
• GPSC : ได้ร่วมมือกับบริษัท AXXIVA ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์จีนและตั้งเป้าสร้างโรงแบตเตอรีระยะแรกขนาด 1 GWh
• PIMO : จับมือกับพันธมิตรเตรียมรับงานแบตเตอรี่จักรยานยนต์ไฟฟ้า
• ROJNA : ลงนาม MOU กับ บริษัท EVLOMO ของสหรัฐสร้างโรงงานแบตเตอรีขนาด 8 GWh