โซลต่อเวลา 'รักษาระยะห่างขั้นสูงสุด' ถึง5 ก.ย.

โซล, 20 ส.ค. (ซินหัว) -- วันศุกร์ (20 ส.ค.) เกาหลีใต้ตัดสินใจต่อเวลาบังคับใช้กฎระเบียบรักษาระยะห่างขั้นสูงสุดในเขตมหานครโซลไปอีก 2 สัปดาห์ ท่ามกลางจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่เพิ่มขึ้น

คิมบูคยอม นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ กล่าวว่าจะขยายการบังคับใช้แนวปฏิบัติการเว้นระยะห่างทางสังคมระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในกฎชุดใหม่ที่มีทั้งหมด 4 ระดับ ในกรุงโซล จังหวัดคยองกีซึ่งอยู่ใกล้เคียง และเมืองอินชอน เมืองท่าทางฝั่งตะวันตก ไปอีก 2 สัปดาห์จนถึงวันที่ 5 ก.ย.

เกาหลีใต้ตัดสินใจขยายการบังคับใช้กฎข้างต้น หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 4 ยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลายลง ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนในเขตมหานครโซล

ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เกาหลีใต้พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 2,052 ราย ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 232,859 ราย ถือเป็นยอดผู้ป่วยรายวันสูงสุดอันดับที่ 3 นับตั้งแต่พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายแรกเมื่อเดือนมกราคมปีก่อน และมียอดผู้ป่วยรายวันสูงกว่าระดับ 1,000 ราย ติดต่อกันเป็นวันที่ 45 แล้ว

ในจำนวนผู้ป่วยใหม่ทั้งหมด เป็นผู้อยู่อาศัยในกรุงโซล 549 ราย และเป็นผู้อยู่อาศัยในจังหวัดคยองกีและเมืองอินชอน 633 ราย และ 117 ราย ตามลำดับ

ภายใต้แนวปฏิบัติการเว้นระยะห่างทางสังคมระดับ 4 ร้านอาหารและคาเฟ่เปิดให้บริการได้จนถึงเวลา 21.00 น. จากเดิมเปิดให้บริการได้ถึง 22.00 น.

มีการเพิ่มจำนวนผู้รวมตัวกันหลังเวลา 18.00 น. จากเดิม 2 คน มาอยู่ที่ 4 คน โดยในจำนวนนี้ต้องเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้วจำนวน 2 คน ทั้งนี้การฉีดวัคซีนครบโดสหมายถึงผู้ที่ฉีดวัคซีนโดสที่ 2 มาแล้วเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ขณะที่ในช่วงเวลากลางวัน แนวปฏิบัตินี้อนุญาตให้มีการรวมกลุ่มกันได้มากที่สุด 4 คน

พื้นที่นอกเขตมหานครยังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยเช่นกัน โดยจำนวนผู้ป่วยใหม่ในพื้นที่นอกเขตมหานครอยู่ที่ 702 ราย หรือร้อยละ 35.1 ของจำนวนผู้ป่วยจากการติดเชื้อในท้องถิ่นทั้งหมด ขณะเดียวกันจะมีการบังคับใช้แนวปฏิบัติฯ ระดับที่ 3 กับพื้นที่เหล่านี้จนถึงวันที่ 5 ก.ย.

แนวปฏิบัติฯ ระดับที่ 3 ห้ามมิให้รวมกลุ่มเป็นการส่วนตัวมากกว่า 5 คน และสถานประกอบกิจการเอนกประสงค์ต่างๆ อาทิ ร้านอาหาร และคาเฟ่ สามารถเปิดให้บริการได้จนถึง 22.00 น.