สวนรุกชาติห้วยแก้ว(สวนป่าประชารัฐ) ใครที่จะไปสวนสัตว์เชียงใหม่ ไปไหว้อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยหรือขึ้นไปสักการะพระธาตุดอยสุเทพ ถ้าไม่เคยมาเดินเล่นที่นี่ก็น่าเคยเห็นสถานที่แห่งนี้ผ่านสายตาไปบ้างด้านหน้าปากทางเข้าสวน มีสัญลักษณ์เป็นลูกต้นยางสีแดงขนาดใหญ่สูงจากพื้นดินราว 3 เมตร ถัดไปจะเป็นต้นยางแดงคู่ขนาดใหญ่ ที่โคนต้นมีป้ายให้ความรู้ แกะจากไม้แปะไว้บนแผ่นไม้ขนาดใหญ่ทำแบบสัญลักษณ์ดอก ใบ ลูก เปลือก และลำต้น มีอักษรเบลสำหรับคนพิการด้วย มีอาคารนิทรรศการที่เข้าไปชมได้ฟรี ใกล้ ๆ กันมีจุดบริหารเครื่องออกกำลังกายที่ทุกคนเล่นได้ โดยเฉพาเด็ก ๆ น่าจะชอบ มีหลายชนิดให้เลือก แต่ละอย่างวาดรูปทาสีได้สวยและสดใสจุดเริ่มต้นทางเดินวนซ้ายมีแผ่นกระดานทำเป็นรูปภาพขนาดใหญ่ไว้ให้ถ่ายรูป เช่น ภาพเขื่อนภูมิพล ดอยอ่างขาง ผาช่อ ด้านในมีทางเดินลาดด้วยซีเมนต์อย่างดีระยะทางเดินจนครบรอบราว 1 กิโลเมตร มีจุดนั่งพักและศาลาพักผ่อน บางจุดปั้มเป็นลายรอยเท้าของสัตว์ป่าให้ได้เรียนรู้ด้วย เช่น รอยเท้าหมี ช้าง ร่มรื่นด้วยต้นไม้เช่น ยางนา พะยอม ตะเคียน บางต้นมีป้ายบอกอายุด้วยว่ากี่ปี เช่น ต้นยางแดงอายุ 73 ปี ต้นตะเคียนทองกับต้นมะม่วงป่าอายุ 85 ปีทั้งคู่การต้องเดินคนเดียวท่ามกลางต้นไม้รุ่นคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย นอกจากจะทำให้อบอุ่นใจแล้วยังจะทำให้รู้สึกเกรงขามด้วย ยิ่งเดินผ่านสวนในจุดที่แคบและลึก มีต้นไม้สูง ๆ ขนาบ 2 ข้าง ทำให้เกิดความรู้สึกว่า ตัวเราแคบและเล็กลงอย่างชัดเจน นี่แหลที่ผมเรียกว่า “เดินอาบป่า”“อาบป่า” หรือ “Forest BathingW ในภาษาอังกฤษ-อเมริกัน หรือ “Forest Therapy” ในภาษาอังกฤษแบบสหราชอาณาจักร เป็นศาสตร์ที่ถูกคิดค้นและมีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่นตั้งแต่ยุค 801 ได้รับการยอมรับมากมายจากหลายประเทศทั่วโลก ภาษาญี่ปุ่นเรียกศาสตร์นี้ว่า “ชินริน-โยกุ” คือ การพาร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยไปพักผ่อนโดยการเข้าใกล้เพื่อสัมผัสและใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น เป็นการเยียวยาร่างกายและจิตใจอย่างหนึ่ง แม้ว่าคน ๆ นั้นจะไม่เคยเดินป่าหรือไม่ชอบเดินป่าเลยก็ตาม เพราะปรัชญาวิถีของการเดินอาบป่าคือ มีสติกำหนดรู้ความคิดและตามรู้ประสาทสัมผัสที่ร่างกายมีต่อธรรมชาติรอบกาย ไม่ใช่การเดินเร่งรีบแบบนักเดินป่าหรือปีนเขา หรือเดินใจลอยชมนกชมไม้เหมือนนักท่องเที่ยว หากแต่เป็นการยกเท้าก้าวเดินช้า ๆ พร้อมกับซึมซับเสียงเพรียกจากธรรมชาติ รู้สึกและรับรู้ถึงการเป็นส่วนหนึ่งซึ่งกันและกันระหว่างตัวเองกับธรรมชาติมากที่สุดในระหว่างที่เดินอยู่ในป่า สารธรรมชาติสำคัญที่ป่ามอบให้เราคือ ไฟทอนไซด์ (Phytoncide) มันคือน้ำมันหอมระเหยที่ต้นไม้ปล่อยออกมา เมื่อเราสูดอากาศสด ๆ จากในป่า ก็จะได้รับสารตัวนี้เข้าไปด้วย สารตัวนี่แหละที่ช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย ให้เวลาที่จะอยู่กับตัวเองสัก 30-60 นาที เพื่อให้ร่างกายได้สัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ หากมีเวลามาพอจะยกระดับตัวเองด้วยการไปเดินป่า นอนป่าบ้างจะดีไม่น้อย หรือมีเวลาไม่มาก อาจจะลองปลีกตัวไปเดินสวนสาธารณะในเมือง หรือไปเล่นในทุ่งนา ในไร่ ในสวน ก็ได้เหมือนกัน แล้วจะพบว่าพลังแห่งธรรมชาติมหัศจรรย์เพียงใด…..อาบป่า แล้วป่าจะอาบหัวใจเราให้สดชื่นผ่อนคลายปัจจุบันนี้ สวนรุกขชาติห้วยแก้ว กลายเป็นสถานที่พักผ่อนสำคัญ เป็นแหล่งสูดอากาศบริสุทธิ์อีกแห่งหนึ่งของชาวเชียงใหม่ เช่น มาเดินออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน นั่งเล่นผักผ่อน มีร้านกาแฟแบบดริปร้อน ๆ ซึ่งเป็นกาแฟที่คัดอย่างดี จากแหล่งเพาะปลูกขึ้นชื่อของภาคเหนือ เช่น ผลผลิตจากกาแฟต้นแรกของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมอบให้ชาวอำเภอจอมทองปลูก เมื่อปี พ.ศ.2517 และยังเป็นจุดนัดพบสำคัญก่อนขึ้นไปดอยสุเทพอีกด้วยการเดินทางไปนั้นไม่ยากเลยครับ พอรถวิ่งผ่านด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ราว 300 เมตร ให้สังเกตด้านซ้ายมือ จะมีป่าต้นไม้สูงครึ้มและปูนปั้นเป็นลูกยางนาสีแดงขนาดใหญ่ นั่นแปลว่าได้มาถึงแล้วที่ตั้ง ถนนห้วยแก้ว ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200เปิดและปิดเวลา 6:00-20:00 น. ทุกวันเบอร์โทร. 053-217847ภาพถ่ายโดยผู้เขียน