สวัสดีค่ะทุกคน กลับมาพบกับบทความของ Diary Therapy กันอีกครั้งนะคะ หากพูดเกี่ยวกับ “เงิน” เชื่อว่าหลายคนคงมีความคิดเหมือน ๆ กันนั่นคือความร่ำรวย แล้วเราจะร่ำรวยและมีเงินได้ยังไงกันนะ? ก็คงได้คำตอบว่า เราต้องก้มหน้าก้มตาทำงานสิ แต่การก้มหน้าก้มตาทำงานก็ไม่ได้ทำให้เรารวยหรือมีเงินเสมอไปค่ะ อย่างตัวผู้เขียนเองตั้งแต่เรียนจบมาก็ก้มหน้าก้มตาทำงานมา 10 กว่าปีแล้วก็ยังคงก้มหน้าก้มตาต่อไป ผู้อ่านคงคิดว่าผู้เขียนต้องการจะสื่ออะไร สิ่งที่สื่อคือ Mindset ที่ผู้เขียนเองเคยมีต่อการทำงานและการเงินนั่นเองค่ะ มาดูเรื่องราวที่จะเปลี่ยน Mindset กันดีกว่าค่ะสิ่งที่จะมาเปลี่ยน Mindset ในวันนี้คือหนังสือ เรื่อง “วิธีเป็นคน 1% ที่ หาเงินเก่ง ที่สุด” เขียนโดย “คุณเกรซ เฌอมาณย์ รัตนพงศ์ตระกูล” จากสำนักพิมพ์ “อมรินทร์ How To” เล่มนี้ราคาเล่มละ 225 บาท นอกจากนี้ยังมีวางจำหน่ายในรูปแบบ Ebook ด้วยค่ะ การที่คนเรามีเงินเยอะ อาจเพราะได้รับมรดก หรืออาจเพราะชีวิตการทำงานที่ดี หรือแม้แต่โชคช่วยก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะรักษาเงินนั้นให้คงอยู่กับตัวเองได้ทุกคน แต่หากเรามีความสามารถในการหาเงิน สามารถบริหารเงินเป็นแล้วล่ะก็ เราจะกลายเป็น “คนหาเงินเก่งที่รวย” ค่ะในหนังสือเล่าให้ผู้อ่านอย่างเรารู้ว่า คน 1% ที่หาเงินเก่ง นั้นไม่ได้ก้มหน้าก้มตาหาเงิน ทำงานหนักและไม่มีความสุขค่ะ แต่คนเหล่านี้เป็นคนที่มีรายได้สูง และมีความสุขมาก เพราะ เขามี “วิธีการหาเงิน” และพวกเขายัง “ฉลาด” กว่าคนทั่วไป เขาเหล่านี้มี “เครื่องมือที่พวกเขาใช้หาเงิน” ส่วนตัวแล้วเกิดสสัยขึ้นมาเลยค่ะว่า “เครื่องมือ” นี้คืออะไรกันนะ? ซึ่งเครื่องมือหาเงินนี้ก็คือการที่สร้างตัวเองค่ะให้เป็น “Money Making Machine” หรือ “เครื่องผลิตเงิน” นั้นเองค่ะ การที่เราจะสร้างตัวเองให้เป็น “เครื่องผลิตเงิน” และกลายเป็นคน 1% นั้นต้องเริ่มที่วิธีคิดของตัวเราเองค่ะ เริ่มที่ความกล้าที่จะแตกต่าง, ความทะเยอทะยาน ,ความขยัน, ความมุ่งมั่น,ความมีวินัย, ความสามารถ การทำงานควรเลือกงานที่ทำแล้วสามารถสร้างความสุขให้กับเราค่ะ หากเรามีความสุขกับงานที่ทำ เราจะสามารถสร้างเงินได้มากขึ้นในยุคนี้เป็นยุคของคนที่มีศักยภาพและความสามารถ เราจะเห็นว่ามีรูปแบบการทำงานที่ต่างไป อย่างเช่นพวก YouTuber เราะเห็นว่าคนเหล่านี้ดึงศักยภาพของตนเองออกมาถ่ายทอดเป็นคอนเทนต์และสามารถเปลี่ยนเป็นรายได้ ซึ่งน่าสนใจมากแต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ดี ฉะนั้นเราต้องเพิ่มคุณค่าให้กับตัวเราเองโดยการเพิ่มความสามารถให้กับตนเอง ลดสิ่งที่ไม่จำเป็นและสิ่งที่ทำให้เราเสียเวลา และสิ่งสุดท้ายเราต้องฉลาดในการใช้เงินค่ะ สิ่งที่ได้จากการอ่านหนังสือเล่มนี้ อย่างแรกเลยคือความประทับใจในมุมมองที่ คุณเกรซ ได้ถ่ายทอดผ่านหนังสือเล่มนี้ค่ะ การปรับ Mindset นั้นอาจเป็นเรื่องยากค่ะ ซึ่งเคยพยายามปรับ Mindset ทางด้านการเงินมาพอสมควรค่ะ และเราผู้อ่านเมื่ออ่านจบแล้วก็ถึงเวลาที่เราต้องเริ่มลงมือทำค่ะ ซึ่งหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้เราเชื่อมั่นคุณค่า ความสามารถ และศักยภาพในตนเอง มีเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิตทำให้เรากล้าตัดสินใจและเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยส่วนตัวแล้วการนำหนังสือมาปรับใช้กับตัวเอง โดยเริ่มตั้งเป้าหมายใหม่ ซึ่งงานที่ทำประจำอยู่นั้นอาจไม่ได้ทำให้สุขใจที่สุด ก็ต้องถามตัวเองค่ะว่าหากเราไม่ทำงานนี้แล้ว เราจะสามารถทำงานไหนที่จะสามารถตอบโจทย์ที่เราตั้งเป้าไว้ และไม่ลืมที่จะพยายามผลักดันตัวเองค่ะ ซึ่งอยู่ในช่วงที่กำลังก้าวไปสู่งานที่คิดว่าสุขใจที่ได้ทำ ส่วนตัวเงินก็กำลังเริ่มเข้ามา หากถามว่าหนังสือเล่มนี้ใช้ได้ผลหรือไม่ ต้องขอบอกก่อนค่ะว่าหนังสือช่วยผลักดันค่ะ แต่หากไม่ลงมือทำแล้วทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิมค่ะ แล้วสักวันก็หวังว่าจะเป็ 1% ที่หาเงินเก่งที่สุด ค่ะ หวังว่าบทความนี้จะถูกใจทุกคนนะคะ Diary Therapyสามารถติดตาม“คุณเกรซ เฌอมาณย์ รัตนพงศ์ตระกูล” : FaceBookPageสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ร้านซีเอ็ดบุ๊คเครดิตรูปภาพภาพหน้าปก, ภาพประกอบที่ 1 ,ภาพประกอบที่ 3 โดย : ผู้เขียนภาพประกอบที่ 2 ขอบคุณรูปภาพจาก : Pixabay