รีเซต

แพทย์เชี่ยวชาญเห็นชอบ กทม.ใช้ฟาวิพิราเวียร์รักษาโควิดในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว

แพทย์เชี่ยวชาญเห็นชอบ กทม.ใช้ฟาวิพิราเวียร์รักษาโควิดในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว
มติชน
5 พฤษภาคม 2564 ( 14:28 )
64
แพทย์เชี่ยวชาญเห็นชอบ กทม.ใช้ฟาวิพิราเวียร์รักษาโควิดในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว

วันนี้ (5 พฤษภาคม 2564) ที่ศาลาว่าการ กทม.(เสาชิงช้า) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการบริหารจัดการการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ของผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี คณะผู้บริหารกทม. สำนักการแพทย์ สำนักอนามัย คณะแพทย์จากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล นายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยฯ พล.อ.ต.นพ.สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ฯลฯ ร่วมประชุม

 

พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะนี้เป็นสถานการณ์พิเศษ ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการปฏิบัติที่เข้มข้นมากกว่าปกติ ด้วยความห่วงใยในสถานการณ์แพร่ระบาด ในปัจจุบัน กทม.จึงได้เตรียมพร้อมยาฟาวิพิราเวียร์กว่า 600,000 เม็ด เพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดยในที่ประชุมได้ร่วมกันหารือแนวทางการใช้ยาเพื่อให้เกิดประสิทธิผลและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และเห็นร่วมกันว่า การให้ยาฟาวิพิราเวียร์แก่ผู้ป่วยเร็ว จะมีผลดีต่อผู้ป่วยมากกว่าการให้ยาช้า รวมทั้งเห็นว่า แนวทางปฏิบัติเพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นแนวทางหลักที่ต้องถือปฏิบัติตาม

 

“อย่างไรก็ตาม กทม.จะกำหนดมาตรการเสริมเพิ่มเติม อาทิ การเร่งตรวจหาผู้ป่วยเชิงรุกอย่างเข้มข้น จากนั้นจะคัดกรองผู้ป่วยตามระดับอาการป่วยแบ่งเป็นสีเขียว เหลือง และแดง และนำส่งต่อระบบการรักษาพยาบาล ในส่วนของผู้ป่วยที่อยู่ระดับสีเขียว คือ ไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย รวมทั้งไม่มีปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรงของโรคจะได้รับการรักษาและติดตามอาการตามที่ กทม.กำหนด คือ การให้ยาฟาวิพิราเวียร์เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความรุนแรงของโรค โดยเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวบางส่วนเท่านั้น ที่จะได้รับการรักษาด้วยยาฟาวิพิราเวียร์ คือ ต้องอยู่ในเกณฑ์ตามการประเมินของแพทย์ที่กรุงเทพฯ อาทิ เป็นผู้ป่วยที่มีปริมาณไวรัสในร่างกายมากกว่าผู้อื่น และเสี่ยงต่อการลุกลามของโรค ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้ หากได้รับยาตั้งแต่แรกได้และรักษาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5-10 วัน จะช่วยรักษาไม่ให้กลายเป็นผู้ป่วยระดับสีเหลืองหรือสีแดงในอนาคตได้ อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่สุดคือ กลุ่มผู้ป่วยสีเขียวนี้ต้องให้ความยินยอมในการรักษาด้วย” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว

 

 

ทั้งนี้ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กทม.จะจัดให้มีระบบการจัดเก็บข้อมูลจากการรักษา รวมทั้งมีมาตรการป้องกันผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการรักษาที่เพื่อปกป้องผู้ที่เข้าร่วมการรักษา และต้องมีการประเมินผลว่า การดำเนินตามนี้จะมีผลดีต่อการรักษาด้วยยาอย่างไร หรือจะมีผลทำให้เกิดเชื้อดื้อยาในอนาคตหรือไม่ ซึ่งการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ครั้งนี้ จะเป็นไปภายใต้การควบคุมของแพทย์ มีการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล มีระบบการติดตามผลและประเมินซึ่งราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะร่วมให้คำแนะนำในการศึกษา ติดตามและประเมินผลครั้งนี้ด้วย และหากพบว่าการรักษาตามที่ กทม.กำหนดครั้งนี้ เกิดประโยชน์อาจนำไปเพิ่มเติมในคำแนะนำในการดูแลรักษาระดับประเทศต่อไปในอนาคตได้

 

 

“สำหรับในปัจจุบันนี้ กรุงเทพฯ มีผู้ป่วยสะสมในพื้นที่ 1,478 ราย ในระดับสีเขียว คืออาการเพียงเล็กน้อย กว่า 1,192 ราย ระดับสีเหลือง 199 ราย และระดับสีแดง 38 ราย ที่ยังไม่ได้รับยา ซึ่งจะได้รับยาต่อเมื่อเลื่อนระดับอาการเป็นสีเหลืองและแดง คือมีปอดอักเสบและอาการรุนแรง” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง