คนเรามีสิ่งที่ต้องทำมากมายหลายเรื่องตามบริบทและช่วงวัยที่มีภาระหน้าที่แตกต่างกันไป และเราต้องรู้จักเลือก....เลือกทำในสิ่งที่สำคัญกับตัวเราโดยที่มีเวลาจำกัด หัวใจของหนังสือเล่มนี้ที่จะสื่อคือการทำสิ่งที่ไม่สำคัญให้น้อยลง หนังสือเล่มนี้เขียนโดย Brian Tracy และ Christina Stein นักพูด นักเขียนที่มีประสบการณ์เรื่องสร้างสมดุลให้กับชีวิต จะมาเปิดเผยความรู้ที่น่าสนใจของการรู้จักเลือกที่จะทำบางอย่าง และลดความสำคัญบางเรื่องลงไป ความรู้ความประทับใจที่ได้ศึกษาของครีเอเตอร์ได้เรียนรู้ว่าจุดสมดุล คือ อารมณ์ที่ปลอดโปร่งร่วมกับร่างกายที่ผ่อนคลาย อีกทั้งอยู่ในค่านิยมที่ถูกต้อง ทำงานที่มีความเหมาะสมซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น นี่คือจุดสมดุลที่ทำให้เราได้ทำในสิ่งที่จำเป็น ได้เรียนรู้ว่าความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราทำอะไร แต่มันอยู่ที่เราเลือกจะไม่ทำอะไรต่างหาก โดยมี Concept คือ กำหนดค่านิยมให้ชัดเจน ตั้งเป้าหมายแล้วลงมือทำ อีกทั้งมีการจัดลำดับความสำคัญและบริหารเวลาให้เป็นด้วย เพื่อชีวิตที่ใช้อยู่จะได้ตั้งอยู่บนจุดสมดุลของตนเอง ได้เรียนรู้ว่า กฎ 80/20 คือนิยามที่เชื่อว่าใน 20% ของรายการที่ต้องทำจะมีเพียง 20% เท่านั้นที่มีความสำคัญกับเราสูงถึง 80% เลยทีเดียว ฉะนั้นเราต้องเขียนรายการที่ต้องทำ โดยที่ต้องรู้จักหา 20% ที่สำคัญให้เจอเพื่อเริ่มลงมือทำก่อน ได้เรียนรู้ว่ามีอยู่ 5 สิ่งที่ทำให้ไม่อยู่บนค่านิยม ทำให้เราไขว้เขวและหลงทางจากสิ่งที่เราตั้งใจไว้แต่แรก นั่นคือ.....ไม่คู่ควรกับสิ่งที่ดีไม่รู้ค่านิยมตัวเองไม่รู้ว่าอะไรสำคัญไม่คำนึงถึงผลระยะยาวมีการผ่อนปรนค่านิยมให้ย่อหย่อนเกินควร ได้เรียนรู้ว่างานที่มีความเหมาะสมกับเรานั้นยิ่งมีมากข้อเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เรามีความสุขเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น การทำงานที่เหมาะสม ข้อบ่งชี้คือตัวเราเองทำแล้วเป็นสุขและคนอื่นก็ได้รับประโยชน์จากงานของเราด้วย นอกจากนี้การทำงานอย่างเป็นสุขจะทำให้เราเรียนรู้กับมันได้ง่าย เวลาเพิ่มพูนทักษะในงานด้านนั้นจะไม่เครียดมากนัก โอกาสประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับก็มีสูงตามไปด้วย ได้เรียนรู้ว่าเมื่อเราชัดเจนกับเป้าหมายแล้ว เราจึงเริ่มวางแผนลงมือทำแบบทีละขั้นทีละตอน โดยเริ่มจาก.......เขียนเป้าหมาย เช่น เราตั้งใจจะทำงานในบริษัท A ในแผนกประกันคุณภาพกำหนดเส้นตาย ต้องมี Deadline หรือกำหนดการที่แน่ชัด เช่น เราตั้งใจจะทำงานในบริษัท A ให้ได้ภายในปี 2566ระบุอุปสรรคที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะได้รู้ว่าเรากำลังรับมือกับอะไร เช่น สิ่งที่เราต้องมีตามที่วัฒนธรรมขององค์กร A พึงมี เราก็ต้องมี ทักษะการทำงานที่เกี่ยวข้องเพื่อความโดดเด่นและเพิ่มโอกาสที่เขาจะเลือกเราเข้าทำงานทักษะที่จำเป็น เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าเราขาดตกบกพร่องในเรื่องไหนบ้าง เช่น ทักษะที่องค์กร A ต้องการ ได้แก่ ความรู้ในงานด้านการทำวิจัย จัดทำเอกสาร รวมถึงภาษาอังกฤษก็ต้องคล่องประมาณหนึ่งระบุตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับแผนนั้นๆ เช่น เพื่อนที่ทำงานในสายเดียวกันกับเรา แม้จะอยู่ต่างองค์กรแต่ก็สามารถให้คำแนะนำในบางอย่างได้ระบุรายการที่ต้องทำ จัดทำ Checklist ได้เลยว่าเรายังขาดตกบกพร่องในเรื่องไหนบ้าง เช่น เราจะทบทวนและอัพเดทความรู้ทุกวันช่วงเย็น วันละ 30 นาทีเรียงลำดับตามความสำคัญ มันปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปทำเป็นแผน หมายถึง ตอนนี้เรามีแผนสมบูรณ์แล้ว ลงมือทำไปได้เลย ได้เรียนรู้ว่า มีอยู่ 4 วิธีที่ช่วยเพิ่มพลังของการใช้ชีวิต ทั้งนี้ยังคงคำนึงถึงผลลัพธ์ที่เราต้องการเป็นหลักว่าทำได้มากขึ้นหรือทำให้น้อยลงการทำบางสิ่งให้น้อยลง เช่น การท่องโซเชียล ถ้าไม่ช่วยให้แผนของเราใกล้สำเร็จก็ต้องลดทอนลงการทำบางสิ่งให้มากขึ้น เช่น การทบทวนความรู้ในงานที่เรากำลังทำ ศึกษาหรือลงมือทำให้มากขึ้นให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่เราวางไว้อย่างการหางานทำ หรือเรื่องอ่ื่นๆที่เราตั้งใจไว้การเริ่มทำบางสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ เช่น การปรึกษาใครสักคนที่อยู่ในวิสัยที่พอจะช่วยเราได้ หากยังไม่ได้ทำเลยเราก็ควรนับเป็นทางเลือกหนึ่งที่ต้องทำบ้างการเลิกทำบางสิ่งโดยสิ้นเชิง เช่น การไปเที่ยวกลางคืน เพราะอาจจะไปกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานในเช้าวันถัดไป แม้ช่วงแรกจะยังไม่มีอาการ แต่หลังจากนี้ไปอีก 10 ปี สุขภาพก็อาจจะไม่อำนวยแล้วก็ได้ แน่นอนว่าสุขภาพเสียไม่ช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายอะไรได้เลย นี่คือหนังสือจิตวิทยาที่น่าสนใจที่ครีเอเตอร์เองอยู่ในระหว่างการลองเอาไปปรับใช้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่คนที่อ่านว่าจะเลือกความสำคัญของงานเหล่านั้นว่าอย่างไหนจำเป็นมากกว่ากัน ถือเป็นเรื่องที่เราต้องรู้จักคิด รู้จักเลือกอะไรบางอย่างให้กับชีวิต ฟังดูเหมือนจะง่าย แต่ความจริงพอเราอายุมากขึ้น เราก็มักถามตัวเองเสมอว่า ณ ตอนนั้น เราก็พยายามเลือกสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่เหมาะสมกับเราแล้ว ทำไมเรายังไม่พอใจในตัวเองเสียที หรือว่าเราตัดสินใจผิดพลาด ??? ครีเอเตอร์ก็มีความรู้สึกอยากย้อนเวลาไปแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตเหมือนกัน เพราะรู้สึกตัดสินใจผิดพลาด กว่าจะรู้ตัวก็ผ่านมาหลายปีแล้ว (เวรกรรม....เวรกรรมจริงๆ ครีเอเตอร์นึกในใจ) แต่เมื่อมันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เราก็ต้องรู้จักเลือกสิ่งสำคัญที่อยู่ตรงหน้า ณ ตอนนี้ให้ดีที่สุด หนังสือเล่มนี้ให้ได้เพียงแนวทางของการเลือกเท่านั้น ถ้าเราคิดถูก เลือกเป็น เราจะบริหารชีวิตได้ดีขึ้นและประสบความสำเร็จในแบบที่ไม่เคยเป็นได้ครับ เครดิตภาพภาพปก โดย benzoix จาก freepik.comภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย redgreystock จาก freeoik.comภาพที่ 4 โดย rawpixel.com จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ THE MAGIC OF THINKING BIG คิดใหญ่ ไม่คิดเล็กรีวิวหนังสือ ความสำเร็จของผู้ชาย บอกได้ตอนอายุ 20s …อยากชีวิตดีก่อน 20 ต้องอ่านรีวิวหนังสือ ไปใช้ชีวิตซะ โดย DR.POPรีวิวหนังสือ EQ ดี อารมณ์ดี ชีวีสดใสรีวิวหนังสือ การเจอเรื่องแย่ๆไม่ได้แปลว่าชีวิตจะไม่มีความสุขอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !