รีเซต

THANI รุกจำนำทะเบียนรถ ปี65สินเชื่อใหม่2.64หมื่นล.

THANI รุกจำนำทะเบียนรถ ปี65สินเชื่อใหม่2.64หมื่นล.
ทันหุ้น
17 ธันวาคม 2564 ( 14:05 )
180

ทันหุ้น - THANI ลุกผุดผลิตภัณฑ์ใหม่ ออกให้ก่อนจ่ายทีหลัง-จำนำทะเบียนรถ คาดปี 65 ได้ข้อสรุป ปักธงปี 65 ยอดสินเชื่อใหม่โต 14-15%หรือที่ราว 2.64 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปีนี้จบที่ 2.3 หมื่นล้านบาท ดันพอร์ตคงค้างยืนเหนือระดับ 5หมื่นล้านบาทจากสิ้นปีนี้แตะ 4.7-4.8 หมื่นล้านบาท มั่นใจคุม NPL ตำระดับ 4% ได้แน่ จาก 9 เดือนแรกปีนี้ที่ระดับ 4.30%

 

นายโกวิท รุ่งวัฒนโสภณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานปี 2565 บริษัทจะมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการขอใบอนุญาต (ไลเซนต์) จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะได้ใบอนุญาตในช่วงไตรมาส 1/2565 โดยหลังจากบริษัทได้รับใบอนุญาตแล้วพร้อมที่จะดำเนินธุรกิจได้ทันที คาดว่าจะเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตให้กับพอร์ตสินเชื่อของบริษัทได้มากขึ้น

 

ทำสินเชื่อซื้อก่อนจ่ายที่หลัง

นอกจากนี้ บริษัทยังสนใจและอยู่ระหว่างศึกษาการให้สินเชื่อแบบซื้อก่อนจ่ายที่หลัง (Pay now buy latter) ซึ่งเป็นโมเดลรูปแบบการให้บริการที่กำลังเป็นที่นิยมในแพลตฟอร์มต่างๆ โดยที่่ผ่านมามีสตาร์ตอัพ (Star-up)  เข้ามานำเสนอหลายราย เบื้องต้นคาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในระยะถัดไป ขณะเดียวกันในปีนหน้าบริษัทจะเริ่มกลับมาวางแผนการดำเนินการปล่อยลิสซิ่งพวกนอนมอเตอร์ หลังจากที่ชะลอไปช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด

 

พร้อมกันนี้ ยังมีแผนที่จะกลับมาปล่อยสินเชื่อรถยนต์หรู หรือ ซุปเปอร์คาร์ (Luxury Car) เพิ่มเติมอีกด้วย เนื่องจากมองว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ที่เริ่มคลาย ภาครัฐยังคงวางนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเดินหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจในปี 2565 จะเริ่มกลับมาฟื้นตัว สะท้อนต่อความต้องการสินเชื่อเพื่อดำเนินธุรกิจที่จะขยายตัวตาม โดยในปีนี้คาดการณ์ว่ายอดขายรถบรรทุกใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 28,000 คัน จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 24,000 คัน

 

ปี65โตอีก 15%

ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตในทุกมิติในปี 2565 ไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 14-15%ทั้งในส่วนของยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ (New loan) ที่คาดว่าจะไม่น้อยกว่า 26,400 ล้านบาท และพอร์ตสินเชื่อคงค้างจะยืนเหนือที่ระดับ 50,000 ล้านบาท จากสิ้นปี 2564ที่คาดว่ายอดการปล่อยสินเชื่อใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 23,000ล้านบาท และพอร์ตสิ้นเชื่อคงค้างจะแตะที่ระดับ 47,000-48,000ล้านบาท ในขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) สิ้นปีนี้คาดว่าจะดูแลให้กลับมาอยู่ที่ระดับเฉลี่ยไม่เกิน 4% จากในช่วง 9เดือนแรกของปีนี้ที่อยู่ที่ระดับเฉลี่ย 4.30%

 

"ตอนนี้เราคงต้องจับตาดูผลการเปิดประเทศจะเป็นไปในเชิงบวกมากแค่ไหน แต่เบื้องต้นมองว่าจะช่วยหนุนให้กิจกรรมการค้าคล่องตัวมากขึ้น ประกอบกับช่วงสิ้นปีความต้องการใช้โลจิสติกส์จะเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการเริ่มกลับมาทยอยรับโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกได้มากขึ้น เป็นปัจจัยหนุนสินเชื่อไตรมาสสุดท้ายขยายตัวค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะเดียวกันเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นยังส่งผลให้ลูกหนี้มีกำลังจ่ายคืนเงินด้วย ดังนั้นจึงมองว่าการรักษาระดับ NPL ในปีนี้จะทำได้ต่ำกว่า 4% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้"นายโกวิท กล่าว

 

ผ่านพ้นจุดต่ำไปแล้ว

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินการในไตรมาส 4/2564บริษัทคาดว่าจะกลับมาขยายตัวได้ดี หลังจากไตรมาส 3/2564เศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุดแล้ว จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการช่วยเหลือลูกค้าในการพักชำระหนี้ ยืดหนี้ต่างๆ ทำให้ผลการดำเนินการในไตรมาส 3/2564 ที่ผ่านมาเป็นจุดต่ำสุดของธุรกิจเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงมองว่าหลังจากที่บริษัทได้หยุดการช่วยเหลือลูกค้าในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และเริ่มติดตามทวงถามหนี้ จึงคาดว่าจะส่งผลให้การดำเนินธุรกิจดีขึ้น รวมถึง NPL ด้วยเช่นกัน

 

สำรับประเด็นที่มีกระแสข่าวว่ามีสถาบันการเงินสนใจเข้าซื้อบริษัท หรือ ซื้อหุ้นของบริษัทนั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง โดยปัจจุบันไม่มีสถาบันการเงินติดต่อเข้ามา และจากการสอบถามผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ กลุ่มทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP ก็ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเช่นเดียวกัน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง