ผู้เชี่ยวชาญอังกฤษ ชี้เชื้อโควิด-19 มีต้นกำเนิดมากจากค้างคาว ไม่ได้หลุดออกมาจากห้องทดลอง

United Kingdom: ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขอังกฤษ เผย ไวรัสโควิด-19 ไม่ได้หลุดออกมาจากห้องทดลอง แต่มาจากค้างคาว
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขจากสหราชอาณาจักร เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (27 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา ว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ไม่ได้หลุดออกมาจากห้องทดลอง หรือ เป็นการสร้างขึ้นในห้องแล็บแต่อย่างใด 

ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย East Anglia ในสหราชอาณาจักร เปิดเผยข้อมูลล่าสุดที่วิจัยพบไวรัสโคโรนาตัวใหม่ ที่ชื่อว่า "RhGB01" ในตัวอย่างค้างคาวที่อยู่ตามบ้านอย่างน้อย 50 ตัวอย่าง ที่นำมาตรวจสอบ โดยพบว่ามีความคล้ายคลึงกับไวรัส Corona (SARS CoV2) ที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 บางประการ แต่ยังไม่พบหลักฐานว่า ไวรัสตัวใหม่ RhGB01 จะสามารถแพร่เชื้อมาสู่มนุษย์ได้ 

ไดอาน่า เบลล์ ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาแห่งมหาวิทยาลัย East Anglia เชื่อว่า ไวรัสชนิดใหม่นี้ อยู่ในร่างกายของค้างคาวมานานแล้ว ดังนั้น เธอจึงเชื่อว่า ไวรัส Corona สายพันธุ์ใหม่ (SARS CoV2) ที่ก่อให้เกิดโรคระบาดไปทั่วโลกเวลานี้เกิดขึ้นจากสัตว์ ก่อนที่จะแพร่เชื้อมาสู่มนุษย์ และไม่น่าจะเกิดขึ้นในห้องแล็บ หรือห้องปฏิบัติการ หรือการหลุดรอดออกมาแต่อย่างใด 

เบลล์ บอกว่า เธอทำการวิจัยอย่างหนักเกี่ยวกับโรค SARS ย้อนกลับไปเมื่อปี 2003-2004 และเมื่อเธอตรวจสอบเชื้อไวรัสจากเรื่องการค้าสัตว์ป่ามาเป็นเวลานาน ทำให้เธอเชื่อว่า ไวรัสเหล่านี้ ไม่ได้หลุดออกมาจากห้องแล็บ และไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในห้องแล็บอย่างแน่นอน แต่มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อ หรือการมีสัตว์อื่นเป็นตัวกลางในการแพร่เชื้อ 

ทั้งนี้ จากข้อมูลในปัจจุบัน เบลล์ระบุว่า มีหลักฐานบ่งชี้ว่า เชื้อไวรัสนี้มีจุดเริ่มต้นมาจาก ค้างคาว ผ่านบางอย่าง ซึ่งยังไม่รู้แน่ชัดว่าคืออะไร ก่อนที่จะแพร่เชื้อมาสู่มนุษย์ได้ในที่สุด