คนตกงาน เหยื่อชั้นดีของสแกมเมอร์ Gen Z โดนหลอกเยอะที่สุด

ปัญหาแก๊งสแกมเมอร์ที่แพร่ระบาดทั่วโลก และสร้างความเสียหายหลอกลวงเงินของผู้คนทั่วโลกรวมกันกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2024 ซึ่งนี่เป็นข้อมูลจากรายงาน “Global State of Scams” ที่จัดทำโดยพันธมิตรต่อต้านการสแกมระดับโลก ซึ่งตัวเลขความเสียหายนี้อาจจะต่ำกว่าความเป็นจริงด้วย เพราะยังมีผู้เสียหายจำนวนมากที่ไม่ไปแจ้งความ เพราะความอับอาย ดังนั้นความเสียหายที่แท้จริงจากการก่ออาชญากรรมประเภทนี้ อาจร้ายแรงเกินกว่าที่เราคาดการณ์ไว้

การหลอกลวงเงินทางออนไลน์ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สาเหตุที่ทำให้อาชญากรรมประเภทนี้เติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเครือข่ายอาชญากรรมระดับโลก เป็นเพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ที่ทำให้การติดต่อสื่อสาร การเข้าถึงข้อมูล เป็นเรื่องที่สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งไม่ได้เป็นประโยชน์แค่กับการทำธุรกิจที่ถูกกฎหมายเท่านั้น แต่ธุรกิจผิดกฎหมายก็ได้ประโยชน์ด้วย เพราะอาชญากรสามารถก่อเหตุจากที่ไหนในโลกก็ได้ โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมายระหว่างประเทศ และช่องโหว่เรื่องการโอนเงิน หลอกลวงเงินจากเหยื่อที่ไหนก็ได้ในโลก โดยอาศัยทักษะทางจิตวิทยาชั้นสูง และการทำงานเป็นทีมที่หลอกเหยื่อให้ติดกับ และหลงเชื่อโอนเงินให้ในที่สุด 

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีคนกลายเป็นเหยื่อแก๊งสแกมเมอร์มากขึ้น เป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งปัญหาคนตกงาน ปัญหาหนี้สิน ปัญหาค่าครองชีพ ภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เมื่อคนส่วนใหญ่ถูกแก๊งสแกมเมอร์หลอกลวงว่ามีงานที่มีรายได้สูงมาให้ หรือมีช่องทางลงทุนที่มีผลตอบแทนสูง คนที่กำลังอยู่ในภาวะไร้ทางออกเรื่องการเงิน เมื่อมีคนมาเสนอช่องทางมีรายได้ง่าย ๆ จึงหลงเชื่อ ประกอบกับทักษะการพูดจาโน้มน้าวของแก๊งสแกมเมอร์ ที่รู้จุดอ่อนของคนตกงาน จึงสามารถบีบให้เหยื่อคล้อยตามได้ไม่ยาก กว่าเหยื่อจะรู้ตัวว่าถูกหลอกเงินก็สายไปเสียแล้ว

และในกลุ่มคนที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งสแกมเมอร์มากที่สุด คือคน Gen Z หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยได้ไม่นาน และเจอกับปัญหาตกงานหลังเรียนจบ ไม่สามารถหางานได้ตรงกับความต้องการของตัวเอง เมื่อคน Gen Z เห็นโฆษณาสมัครงานที่ให้รายได้ดี หรือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าความเป็นจริง จึงหลงเชื่ออย่างง่ายดาย 

ผลสำรวจของ Malwarebytes พบว่าในบรรดาเหยื่อที่ถูกแก๊งสแกมเมอร์หลอกเงินในสหรัฐฯ 7 ใน 10 คน คือคนวัย Gen Z และคนวัยมิลเลนเนียล ที่แม้คนกลุ่มนี้จะมีความคุ้นเคยและมีทักษะเรื่องดิจิทัลมากที่สุด แต่นั่นก็หมายความว่าคนกลุ่มนี้พึ่งพิงการค้นหาข้อมูล การเสพข่าวสาร การใช้ชีวิตประจำวันผ่านระบบดิจิทัลมากเกินไป จึงกลายเป็นว่าคนกลุ่มนี้มีโอกาสถูกแก๊งสแกมเมอร์หลอกลวงเพิ่มมากขึ้น และคนวัย Gen Z คือกลุ่มคนที่มีสัดส่วนตกงานมากที่สุดในหลายประเทศ จึงกลายเป็นเหยื่อชั้นดีของแก๊งสแกมเมอร์ ในการหลอกลวงเรื่องการสมัครงานปลอม ๆ  

ตราบใดที่ปัญหาการตกงานของคนทั่วโลกยังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ก็มีความเสี่ยงที่คนจะยิ่งตกเป็นเหยื่อของแก๊งสแกมเมอร์เพิ่มมากขึ้น เพราะเมื่อคนไม่มีทางออกเรื่องการเงิน ก็พร้อมที่จะหลงเชื่อการโฆษณาหลอกลวงเรื่องการสมัครงานหรือการลงทุนที่อาจจะเป็นทางออกเดียวที่เขามองเห็นในขณะนั้น