สหราชอาณาจักรปฏิวัติ 'รถเมล์' ครั้งใหญ่ เน้นรักษ์สิ่งแวดล้อม ใช้งานสะดวก
ลอนดอน, 16 มี.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (15 มี.ค.) บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ประกาศ "แผนปฏิวัติรถโดยสารประจำทางครั้งใหญ่ที่สุดแห่งยุค" เพื่อปรับปรุงภาคธุรกิจรถโดยสารประจำทางและลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว
แผนการดังกล่าว มูลค่าราว 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.29 แสนล้านบาท) จะครอบคลุมการใช้รถโดยสารประจำทางไฟฟ้าหรือพลังงานไฮโดรเจนที่ผลิตในประเทศรวม 4,000 คัน เพื่อการสัญจรที่ปลอดก๊าซคาร์บอน
ขณะเดียวกันจะมีการสร้างเลนรถโดยสารประจำทางใหม่ คิดเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การเดินทางที่รวดเร็วและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดปริมาณมลพิษและต้นทุนการดำเนินงาน
การปฏิรูปครั้งนี้จะช่วยลดค่าโดยสารคงที่ในเมืองเล็กใหญ่ของสหราชอาณาจักร ให้บริการรถโดยสารประจำทางความถี่สูงตามเส้นทางหลัก และเปิดบริการใหม่ที่ยืดหยุ่นเพื่อเชื่อมต่อชุมชนและผลักดันประชาชนใช้บริการรถโดยสารประจำทางแทนรถยนต์ส่วนตัว
"แผนการนี้จะทำให้รถโดยสารประจำทางเป็นระบบขนส่งสาธารณะที่ประชาชนเลือกใช้ ลดการใช้งานรถยนต์ส่วนตัว พร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนหลายล้านคน เช่นเดียวกับในกรุงลอนดอน "
"ตลาดการค้าเต็มรูปแบบที่กระจัดกระจาย ซึ่งดำเนินงานอยู่นอกกรุงลอนดอนมาตั้งแต่ปี 1986 จะสิ้นสุดลง เราต้องการเห็นผู้ให้บริการและหน่วยงานท้องถิ่นสร้างความร่วมมือที่ดียิ่งขึ้นหรือสัญญาแฟรนไชส์ที่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อรับเงินทุนใหม่และพัฒนาระบบการทำงาน"
สหราชอาณาจักรวางแผนระงับการจำหน่ายรถยนต์ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลภายในปี 2030 อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปฏิบัติตามพันธะผูกพันตามกฎหมายด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050
อนึ่ง ประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วยประเทศกำลังพัฒนาและประเทศพัฒนาแล้ว ตระหนักถึงความสำคัญของการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยปี 2021 จีนและสหราชอาณาจักรจะจัดการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ครั้งที่ 15 (COP15) และการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) ตามลำดับ