เจาะพอร์ตพันล.“เสี่ยอ้วน” ชอบหุ้นการแพทย์โตสูง

นายชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เสี่ยอ้วน” เปิดเผยมุมมองการลงทุนในขณะนี้ว่า มีมุมมองการลงทุนว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสไปต่อ เพราะมีแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมไปถึงการเร่งฉีดวัคซีนน่าจะทำให้ภาพรวมธุรกิจในหลาย ส่วนดีขึ้นต่อเนื่อง โดยส่วนตัวนั้นยังทยอยลงทุนต่อเนื่อง มีทั้งหุ้นที่ถือลงทุนมาระยะยาว และการเข้าลงทุนใหม่ๆ แต่จะชอบอุตสาหกรรมที่เป็นอุตสาหกรรมการแพทย์ และอุตสาหกรรมที่ช่วยส่งเสริมในเรื่องของการแพทย์ เพราะสร้างการเติบโตได้มาก

โดยมองว่าสถานการณ์โควิด-19 จะยังอยู่กับคนไทยไปอีกสักระยะ และพฤติกรรมของประชาชนค่อนข้างมีการเปลี่ยนไป มีการดูแลตัวเองมากขึ้น ใส่ใจในเรื่องความสะอาดมากขึ้นทำให้ อุตสาหกรรมการแพทย์และที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์มีโอกาสเติบโตทั่วโลก

*ชอบหุ้นการแพทย์

“ตอนนี้ต้องยอมรับ อุตสาหกรรมการแพทย์ และที่ส่งเสริมการแพทย์มีแนวโน้มการเติบโตได้ดี เพราะพฤติกรรมประชาชนเปลี่ยนไปมีการดูแลตัวเองมากขึ้น ทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนในอุตสาหกรรม และในฐานะที่ทำธุรกิจด้านโรงพยาบาลด้วยจึงเข้าในสถานการณ์เป็นอย่างดี ว่าโควิดยังคงอยู่กับประชาชนไปสักระยะดังนั้นจึงต้องมีการดูแลตัวเอง มีการฉีดวัคซีน ซึ่งหากสถานการณ์ดีขึ้นทุกธุรกิจก็จะดีขึ้นด้วย ตลาดหุ้นไทยก็ยังมีแนวโน้มดี สอดคล้องกับการฟื้นตัวในหลายๆ อุตสาหกรรม ดังนั้นส่วนตัวจึงมีการ เข้าลงทุนต่อเนื่อง และหุ้นที่ถือระยะยาวก็มีส่วนล่าสุด ที่อาจจะเห็นมีการขายหุ้น RICHY ออกนั้น เกิดจากความผิดพลาด” นายชัยสิทธิ์ กล่าว

อนึ่งสัดส่วนการถือหุ้น ของนายชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล จำนวน 100% มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นบริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) หรือ VIBHA ประมาณ 72% ถือหุ้น บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC ประมาณ 23.84% ถือหุ้น บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ RICHY ประมาณ  3.05% นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในหุ้นอื่นอีก 1.11% ทั้งในส่วนของ บริษัท เชียงใหม่รามธุรกิจการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ CMR บริษัท กรีน รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ GREEN โดยมูลค่าพอร์ตจะอยู่ที่ประมาณ 6,180 ล้านบาท ที่มา : StockRadars

อย่างไรก็ดี นายชัยสิทธิ์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า มีการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์เพิ่ม อาทิ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT เพราะเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการทำกำไรสูง และระดับ P/E ที่ต่ำมากเพียง 3 เท่า แม้ว่าจะมีความกังวลเรื่องสถานการณ์โควิดดีขึ้น แต่มองว่าความต้องการใช้ถุงมือยางยังมีอยู่ทั่วโลก ขณะเดียวกันยังลงทุนในหุ้นโรงพยาบาลที่มีการเติบโตสูงอย่าง บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH ทั้งนี้การลงทุนดังนั้นเป็นมุมมองส่วนตัวตามสถานการณ์

*VIBHA รายได้โตเกิน 100%

ในส่วนของ VIBHAในฐานะที่เป็น ประธานกรรมการบริหาร ระบุว่าแนวโน้มผลการดำเนินการไตรมาส 3/2564 จะเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการให้บริการรักษาในส่วนของโควิด และแนวโน้มการกลับมารักษาพยายาบาลของผู้ป่วย นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 4/2564 จะมีการรับรู้รายได้จากการฉีดวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นา ที่คาดว่าจะเริ่มฉีดได้ในช่วงวันที่ 20 ตุลาคม 2564 โดยทางโรงพยาบาลจะเร่งฉีดให้แก่ลูกค้า โดยทั้งปีคาดว่ารายได้จะเติบโตเกิน 100% และปีหน้ามีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง