นักวิเคราะห์ชี้คลื่น AI ยังไม่ใช่ฟองสบู่

นักวิเคราะห์ยืนยันว่าตลาดเทคโนโลยีแม้จะผันผวน แต่คลื่น AI ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ยังห่างไกลจากภาวะฟองสบู่มากกว่าที่หลายคนกังวล เพราะโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ที่บริษัทเทคโนโลยีและรัฐบาลหลายประเทศเร่งลงทุนในปีนี้และปีหน้า ยังอยู่เพียงช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้มหาศาลในระยะยาว

โดยรายงานจาก Wedbush ระบุชัดว่า ความกังวลเรื่องฟองสบู่ AI “ยังไม่มีมูล” เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกวางไว้ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ข้อมูลรุ่นใหม่ ชิปประมวลผล หรือระบบ Cloud เพื่อรองรับโมเดลขนาดใหญ่ จะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับกระแสรายได้ในปี 2026 เป็นต้นไป ซึ่งจะเป็นช่วงที่เทคโนโลยี AI เริ่มสร้างผลตอบแทนอย่างเป็นรูปธรรมให้กับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่

แม้ตลาดหุ้นเทคในระยะสั้นจะเผชิญแรงขายจากความกังวลเรื่องมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ Wedbush เชื่อว่าวัฏจักร AI ยังอยู่ในระยะตั้งไข่เท่านั้น เพราะหลายกลุ่มของวงจรปัญญาประดิษฐ์ ไม่ว่าจะเป็นระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ การใช้งานฝั่งผู้บริโภค หรือการนำ AI มาเสริมการทำงานในองค์กร ยังไม่ได้เริ่มใช้อย่างเต็ม ประกอบกับองค์กรในสหรัฐฯ ยังมีเพียงส่วนน้อยที่นำ AI มาใช้งานจริง ทำให้ช่องว่างของการเติบโตในอนาคตยังเปิดกว้าง

นักวิเคราะห์ยังระบุด้วยว่าการใช้งาน AI ในองค์กรส่วนใหญ่ยังจำกัดอยู่แค่ “การทดลอง” และจะเริ่มยกระดับเข้าสู่การใช้งานเชิงกลยุทธ์อย่างจริงจัง ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นปีที่คาดว่าจะเห็นรายได้ใหม่จาก AI ในภาคธุรกิจไหลเข้ามาอย่างชัดเจนมากขึ้นกว่าปีนี้หลายเท่า

ขณะเดียวกัน การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ยังคงเร่งตัวทั้งในสหรัฐฯ เอเชีย และตะวันออกกลาง โดยเฉพาะโครงการศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่กำลังขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นของวัฏจักรยาวนาน ไม่ใช่การเก็งกำไรระยะสั้นแบบฟองสบู่เหมือนยุคดอตคอม

ในรายงานฉบับเดียวกัน Wedbush ยังเพิ่มบริษัทที่มีบทบาทโดดเด่นในคลื่น AI เช่น CoreWeave, IREN และ Shopify เข้าสู่รายการหุ้นเด่นในกลุ่ม IVES AI 30 พร้อมระบุว่าปัจจุบันตลาดกำลังเข้าสู่ “ปีที่ 3” ของวัฏจักรนวัตกรรม AI ซึ่งคาดว่าจะกินเวลายาวนานกว่า 10 ปี และจะเป็นหนึ่งในทศวรรษที่มีการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา