หลังจากที่BYDได้รับความนิยมจากทั้งรุ่น Atto3 และ Dolphin อย่างล้นหลามด้วยยอดจองรวมกันทะลุ 18,027 คันตั้งแต่เปิดตัวจนถึงเดือนกันยายน ทาง Rever Automotive ก็ไม่รอช้าปล่อย BYD Seal รถไฟฟ้าทรง Sport Sedan ด้วยราคาที่ใครๆก็สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่มีความแรงมากกว่าคู่แข่ง เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งใน D segment ไม่ว่าจะเป็น Toyota Camry และ Honda Accord ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน และเมื่อเทียบกับ Tesla model3 ที่หลายคน บอกว่า BYD SEAL จะเป็น Tesla killer จะเป็นไปได้ไหมนั้นต้องลองมาดูข้อมูลกันสำหรับBYD SEALที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยจะมีให้เลือก 3 รุ่นย่อยให้เลือก ได้แก่ รุ่น Dynamic 1,325,000 บาท, รุ่น Premium 1,449,000 บาทและรุ่น Performance 1,599,000 บาท โดยทั้งสามรุ่นมีรูปลักษณ์ภายนอกที่แทบจะไม่ได้ต่างกันมาก โดยรุ่นเริ่มต้นคือรุ่น Dynamic ที่จะต่างจากรุ่นอื่นคือล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว และจะมีให้เลือกแค่ 2 สี เท่านั้น คือสี Horizon white และสี Quantum black ส่วนรุ่นกลางคือรุ่น Premium จะมีให้เลือก 3 สี คือ สี Horizon white, สี Space grey และสี Quantum black ในส่วนรุ่น Top คือรุ่น Performance จะมี 4 สี คือ สี Horizon white, สี Space grey,สี Quantum black และสี Velocity blue ทั้งสามรุ่นย่อยนั้นจะมาด้วยมิติตัวถังที่เท่ากันคือ ยาว 4,800 mm กว้าง 1,875 mm สูง 1,460 mm ระยะฐานล้อ 2,920 mm และระยะ ground clearance ที่ 120 mm จัด อยู่ใน D segment และเมื่อเทียบกับ Tesla model3 BYD SEAL จะมีความใหญ่กว่าในทุกมิติ ดีไซน์ภายในออกแบบมาได้ดูทันสมัยและหรูหราระดับนึง และใช้วัสดุที่มีความหรูหรามีการบุนุ่มในหลายๆตำแหน่ง โดยทั้งสามรุ่นมีภายในที่เหมือนกันยกเว้นรุ่น Dynamic ที่ได้พวกมาลัยหนังสังเคราะห์และไม่มี Head up display ส่วนรุ่นอื่นได้พวงมาลัยหนังแท้ และมี Head up displayในแต่ละรุ่นจะได้ Battery และ Motor ที่มีขนาดต่างเริ่มจาก รุ่น Dynamic มากับมอเตอร์หลังให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า 310 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ความจุ 61.44 kWh ทำ 0-100 ใน 7.5 วินาที วิ่งได้ระยะทาง 510 km(NEDC) ในรุ่น Premium มากับมอเตอร์หลังให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า 360 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ความจุ 82.56 kWh ทำ 0-100 ใน 5.9 วินาที วิ่งได้ระยะทาง 650 km(NEDC) ในรุ่น Performance มากับมอเตอร์หน้าและหลังให้กำลังสูงสุด 530 แรงม้า 670 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ความจุ 82.56 kWh ทำ 0-100 ใน 3.8 วินาที วิ่งได้ระยะทาง 580 km(NEDC)โดยสรุป BYD SEAL นั้นถือได้ว่าเป็นรถไฟฟ้าที่น่าสนใจมากทั้งด้านราคา,ความคุ้มค่าและความแรงที่ได้ โดยรุ่นเริ่มต้น Dynamic นั้นเหมาะกับคนที่เน้นใช้งานในเมืองไม่เน้นซิ่งมากออกไปต่างจังหวัดพอได้ รุ่น Premium นั้นเหมาะกับคนที่เน้นเรื่องระยะทางและได้ความหรูหราที่มากขึ้นและมีอัตราเร่งได้ดี ส่วนในรุ่น Performance นั้นเหมาะกับคนที่ชอบขับขี่และความเร็วแรงแต่ช่วงล่างนั้นอาจจะยังไม่เหมาะกับการมุดมาก อย่างไรก็ตามรถไฟฟ้านั้นต้องอาศัยความชินในการขับขี่ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ที่มารูปภาพมาจาก : Reverautomotiveที่มารูปภาพปก : Reverautomotiveรูปภาพที่ 1 จาก reverautomotiveรูปภาพที่ 2 จาก reverautomotiveรูปภาพที่ 3 จาก reverautomotiveรูปภาพที่ 4 จาก reverautomotive เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !