กฟผ. ทบทวนแผนนำเข้าแอลเอ็นจีปี’63-65 พร้อมเข้มคัดกรองลูกเรือลำเรือที่ 2 สกัดโควิด-19
นางราณี โฆษิตวานิช ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กฟผ. อยู่ในระหว่างการทบทวนแผนการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ในระยะกลางระหว่างปี 2563-2565 ซึ่งได้ผ่านมติคณะกรรมการ กฟผ. เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เห็นชอบให้จัดหาแอลเอ็นจีแบบตลาดจรเพิ่มเติม เพื่อเสริมความมั่นคงในการจัดหาเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ และเกิดการแข่งขันเสรีก๊าซธรรมชาติ และคาดว่าจะสามารถนำเสนอทางด้านนโยบายเพื่อขอความเห็นชอบในลำดับถัดไป
สำหรับความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมนำเข้าแอลเอ็นจี ลำเรือที่ 2 แบบตลาดจร ปริมาณ 65,000 ตัน จากบริษัท ปิโตรนาส แอลเอ็นจี (PETRONAS LNG) ว่า กฟผ. ยืนยันลูกเรือ Seri Angkasa ประเทศมาเลเซียที่บรรทุกแอลเอ็นจีดีงกล่าวจะเดินทางมาเทียบท่าเรือพีทีที แอลเอ็นจี มาบตาพุด จ.ระยอง ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันหรือลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและข้อกำหนดของสถานีพีทีที แอลเอ็นจี
โดยการนำเข้าแอลเอ็นจีลำเรือที่ 2 ของ กฟผ. จะถูกนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง ชุดที่ 5 โรงไฟฟ้าวังน้อย ชุดที่ 4 และ โรงไฟฟ้าพระนครใต้ ชุดที่ 4 ผ่านโปรแกรมเรียกรับก๊าซของพีทีที แอลเอ็นจี และปตท. ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. 2563 เป็นต้นไป ซึ่งจะใช้เวลาส่งก๊าซจากคลัง ปตท. ไปยังแต่ละโรงไฟฟ้าเพื่อผลิตไฟฟ้ารวมแล้วเสร็จโดยประมาณ ทั้งสิ้น 13 วัน คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิง (เอฟที) 0.7 สตางค์ต่อหน่วย
นอกจากนี้ กฟผ. ยังมีการตรวจสอบเอกสาร การตรวจรับแอลเอ็นจีผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมล์ และในขั้นตอนการโหลดก๊าซธรรมชาติเข้าระบบเพื่อนำไปผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า กฟผ. ทีมงาน กฟผ. ทุกคนได้มีการเฝ้าติดตามการบริหารจัดการเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติผ่านโปรแกรมเรียกรับก๊าซของพีทีที แอลเอ็นจี และปตท. ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ (PTT TSO) เพื่อให้การบริหารจัดการเชื้อเพลิงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ผ่านมากฟผ. ได้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันแพร่ระบาดโควิด-19 ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมต้นทางโหลดแอลเอ็นจีจนถึงวันส่งมอบแอลเอ็นจีกฟผ. ได้ติดต่อประสานงานผ่านการประชุมทางไกลระบบวิดีโอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัท ปิโตรนาส แอลเอ็นจี, บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด และปตท. ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานจะเป็นไปตามขั้นตอนและไม่มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค