ยศชนันท์ ชี้แก้น้ำท่วมต้องคิดทั้งระบบ จากโลกร้อนถึงโครงสร้างน้ำ

ยศชนันท์ เสนอแก้ปัญหาน้ำท่วมทั้งระบบ ชี้ต้องเริ่มจากโลกร้อนถึงการจัดการน้ำเชิงโครงสร้าง

ยศชนันท์ วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจาก พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ TNN โดยโฟกัสเฉพาะประเด็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งถูกมองว่าเป็นโจทย์เชิงโครงสร้างที่ประเทศไทยเผชิญซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้รัฐบาลหลายยุคหลายสมัยพยายามแก้ไข แต่ปัญหายังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

น้ำท่วมไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่คือผลจากโลกร้อน

ยศชนันท์อธิบายว่า ปัญหาน้ำท่วมในปัจจุบันไม่อาจมองเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า ต้นตอสำคัญคือภาวะโลกร้อนและก๊าซเรือนกระจก ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นทำให้น้ำระบายไม่ได้ แม้ระบบระบายน้ำจะถูกพัฒนา แต่เมื่อทะเลหนุนสูง น้ำย่อมย้อนกลับและก่อให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก

ยศชนันท์เปรียบเทียบสถานการณ์นี้เหมือนอ่างน้ำ หากยังมีน้ำไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ต่อให้ลดปริมาณน้ำเข้า แต่อ่างยังไม่ปิด น้ำก็ต้องเต็มในที่สุด การลดการปล่อยก๊าซเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ เป้าหมายที่แท้จริงต้องมุ่งสู่ Net Zero หรือการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก

แก้น้ำท่วมต้องใช้วิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เฉพาะโครงการก่อสร้าง

ยศชนันท์ชี้ว่า การแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่อาจพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่การวิเคราะห์สภาพภูมิอากาศ การคาดการณ์ปริมาณฝน ไปจนถึงการออกแบบระบบจัดการน้ำที่ยืดหยุ่นต่อสภาพอากาศที่ผันผวน

การลดการปล่อยคาร์บอนต้องเชื่อมโยงกับหลักเศรษฐศาสตร์ หากพลังงานหรือเชื้อเพลิงที่ปล่อยคาร์บอนต่ำมีราคาสูงกว่าของเดิม ประชาชนและภาคธุรกิจย่อมไม่เลือกใช้ ทางออกคือการใช้เทคโนโลยีทำให้พลังงานสะอาดมีราคาถูกลง จูงใจให้เกิดการเปลี่ยนผ่านโดยอัตโนมัติ

จัดการน้ำทั้งลุ่มน้ำ ตั้งแต่ป่าต้นน้ำถึงปลายน้ำ

ในเชิงโครงสร้าง ยศชนันท์เสนอให้การบริหารจัดการน้ำต้องมองทั้งระบบ เริ่มตั้งแต่การฟื้นฟูป่าต้นน้ำ การควบคุมปริมาณน้ำ การส่งน้ำเพื่อการเกษตร การระบาย และการกักเก็บในจุดที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องเป็นโครงการขนาดใหญ่ทุกพื้นที่ แต่ต้องออกแบบให้สอดคล้องกับภูมิประเทศและชุมชน

บางพื้นที่สามารถใช้แนวคิดแนวกั้นน้ำขนาดพอเหมาะ บางจุดต้องเน้นการเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ขณะที่บางพื้นที่ต้องเร่งระบายออกสู่ทะเลหรือแม่น้ำสายหลักอย่างรวดเร็ว เพื่อลดความเสียหายต่อเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ

เชื่อมโยงการจัดการน้ำกับโลจิสติกส์คาร์บอนต่ำ

ยศชนันท์มองว่าการจัดการน้ำควรเดินคู่ขนานกับการพัฒนาโครงสร้างคมนาคมและโลจิสติกส์ โดยเฉพาะเส้นทางเชื่อมโยงภูมิภาค การออกแบบระบบขนส่งที่ลดคาร์บอนจะช่วยลดต้นทุนในระยะยาว และเพิ่มความสามารถในการรับมือภัยพิบัติ โรงงานจะตั้งอยู่ที่ใดไม่ใช่ประเด็นหลัก หากประเทศมีระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

แก้ปัญหาแบบบูรณาการ ไม่แยกสิ่งแวดล้อมออกจากเศรษฐกิจ

ยศชนันท์ย้ำว่า ปัญหาน้ำท่วมไม่ใช่เรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างเดียว แต่เป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง หากประชาชนดำรงชีวิตไม่ได้ เศรษฐกิจที่ดีไม่มีความหมาย การแก้ปัญหาจึงต้องบูรณาการทุกมิติ ทั้งสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน และการบริหารรัฐ

แนวคิดสำคัญคือการเลิกมองปัญหาเป็นส่วนย่อย และหันมามองทั้งระบบ เปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนจับมือกันทำงาน ภายใต้เป้าหมายเดียวกันคือการลดความเสี่ยงจากน้ำท่วม และสร้างความมั่นคงให้ประเทศในระยะยาว