ผักลิ้นปี่ หรือผักกาดนกเขา ต้นหางปลาช่อน ต้นหูปลาช่อนก็เรียก ด้วยลักษณะใบที่เหมือนกับครีบของปลาช่อน ซึ่งก็จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ เป็นพืชล้มลุกบางคนอาจมองเป็นแค่วัชพืช ซึ่งความจริงแล้วเป็นพืชที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ เป็นผักพื้นบ้านที่พบได้โดยทั่วไปในประเทศไทยมักจะขึ้นตามที่ชื้น ทุ่งหญ้าโล่ง อย่างที่บ้านของผู้เขียนเองแรกเริ่มเห็นขึ้นมาต้นเดียวที่สนามหญ้าหน้าบ้าน จำได้ว่าเป็นผักลิ้นจึงไม่ถอนทิ้ง และพอมีผลแก่และแตกเมล็ดออกไป พอระยะเวลาเดี๋ยวเดียวก็มีเกิดขึ้นแทบเต็มพื้นที่ คราวนี้ก็ได้เก็บกินสมใจ อย่างน้อยวันไหนมีเมนูน้ำพริกเราก็ไม่ต้องซื้อผักเพิ่ม ผักลิ้นปี่นั้นเป็นผักที่มีสรรพคุณทางยาสมุนไพรหลายอย่าง เช่น - ใบ แก้เจ็บคอ แก้คออักเสบ - เหง้า แก้บิด ช่วยห้ามเลือด ช่วยขับประจำเดือน เป็นต้น นอกจากจะมีสรรพคุณทางยาแล้ว ผักลิ้นปี่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ทั้งวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ผักลิ้นปี่นี้จะมีรสชาติจืด มีกลิ่นคล้ายกับใบตำลึง แต่จะไม่แรงเท่า ซึ่งสามารถกินเป็นผักสดได้โดยกินกับน้ำพริกต่าง ๆ และส้มตำ หรือจะกินกับแกงใต้ก็เข้ากันได้ดี นอกจากกินเป็นผักสดแล้วยังสามารถนำไปเป็นส่วนประกอบของอาหารได้อีกด้วย เช่นผักลิ้นปี่ผัดไข่ ใส่ในแกงจืดและต้มจืดก็เข้ากันไม่แพ้ใบตำลึงเลย ภาพเมล็ดของผักลิ้นปี่ที่มีลักษณะมีขนติดอยู่สามารถปลิวได้ไกล สำหรับข้อเสียของผักลิ้นปี่นั้น - เป็นพืชผักที่เหี่ยวง่ายมาก ซึ่งเด็ดมาได้ไม่ถึง 5 นาทีผักลิ้นปีก็เหี่ยวแล้ว น่าจะเป็นสาเหตุหลักที่เราไม่เห็นผักลิ้นปี่มีวางขายตามตลาดทั่วไป - หากเกิดขึ้นแซมกับสนามหญ้า ก็จะกลายเป็นวัชพืชที่ทำให้พื้นสนามหญ้าดูรก แถมยังเป็นพืชที่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความชื้นสูง หากใครไม่ชอบกิน หรือกินไม่เป็นก็จะกลายเป็นปัญหาโดยปริยาย - เป็นพืชที่ทนต่อสารเคมี โดนเฉพาะจำพวกยาฆ่าหญ้า ฉะนั้นหากมีผักลิ้นปี่เกิดขึ้นในบริเวณที่มีการฉีดพ่นสารเคมีจำพวกยาฆ่าหญ้าและยาฆ่าแมลงเราก็สามารถทราบได้ว่าไม่ควรเก็บมากินเป็นอันขาด เพราะอย่างไรเสียผักลิ้นปี่ย่อมต้องมีการดูดซึมสารพิษเก็บไว้แน่นอน จากข้อเสียดังกล่าวหากใครสนใจจะกินผักลิ้นปี่ ควรจะปลูกไว้เพื่อกินเองจะได้มั่นใจว่าปลอดภัยไร้สารพิษจริง ๆ - ภาพหน้าปก และภาพทั้งหมดโดยเจ้าของบทความ -