ภาพโดย Pixabay ภาพโดย pixabay เวลาเราดูหนังอินเดียเคยสังเกตกันมั้ยคะว่า ทำไมหนังอินเดียแทบจะทุกเรื่องจะต้องมีการเต้นกัน จะเรื่องไหนก็จะมีการเต้นของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นหนังรุ่นสมัยคุณพ่อคุณแม่ก็จะมีเต้นตลอด เต้นตามสุมทุมพุ่มไม้บ้าง เต้นหลบหลังต้นไม้ เต้นข้ามแม่น้ำ เต้นข้ามภูเขา และหลาย ๆ ฉาก แม้กระทั่งหนังอินเดียในปัจจุบันก็หนีไม่พ้นต้องมีการเต้น ทำให้นักแสดงอินเดียทุกคนต้องเรียนเต้นเพราะต้องใช้การเต้นในการแสดง การเต้นของอินเดียเดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช่ธรรมดาซะด้วยนะคะ นักแสดงกับนักเต้นมืออาชีพแทบแยกกันไม่ออกกันเลยทีเดียว เพราะเต้นกันเก่ง ๆ ทุกคน แล้วก็เป็นท่าเต้นที่ทันสมัยสนุกสนานซะด้วย อุตสาหกรรมหนังอินเดียนี่ถึงขนาดต้องมีผู้กำกับฉากการเต้นโดยเฉพาะ เพราะการเต้นแต่ละฉากก็ลงทุนไปไม่ใช่น้อย ๆ ทำให้หนังอินเดียสมัยใหม่ฉากเต้นนี้พอฟัดพอเหวี่ยงกับหนังฮอลลีวูดได้เลยทีเดียวค่ะ ภาพโดย pixabay แล้วเคยสงสัยกันมั้ยคะ ว่าทำไมหนังประเทศนี้ฮิตเต้นกันจัง เต้นได้เต้นดีเต้นอะไรกันหนักหนา เต้นจนกลายเป็นเอกลักษณ์ไปแล้วว่า ถ้าดูหนังอินเดียเราต้องได้ดูนักแสดงเต้น งั้นหนังอินเดียไม่มีฉากเต้นได้มั้ย ตอบตรงนี้เลยว่าได้ค่ะ หนังไม่มีฉากเต้นก็ได้แต่คนไม่ดูไม่นิยมอุดหนุนหนังเรื่องนั้นก็แค่นั้นเอง เอ๊ะมันอะไรกันหนักหนากับการเต้น มันมีที่มาค่ะ มาเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าคนอินเดียอะไรกันหนักหนากับการเต้น คงต้องบอกว่าการเต้นถือเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของประเทศอินเดียเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะมีที่มาผูกโยงกับความเชื่อทางศาสนาประจำชาติของอินเดียคือศาสนาฮินดูนั้นเองค่ะภาพโดย pixabay ศาสนาฮินดูหรือที่คนไทยเรียกยาวหน่อยว่าศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู เป็นศาสนาประเภทพหุเทวนิยมคือนับถือเทพเจ้าหลายองค์ โดยเทพเจ้าสูงสุดของศาสนาเรียกว่าพระตรีมูรติประกอบด้วยเทพสูงสุด 3 องค์ได้แก่พระพรหม พระนารายณ์ และพระศิวะ โดยพระพรหมเป็นพระผู้สร้าง พระนารายณ์เป็นผู้รักษา พระศิวะเป็นผู้ทำลาย แต่ในบางครั้งคำสอนในศาสนาฮินดูนิกายไศวะ หรือคนไทยเรียกไศวนิกาย จะเชื่อว่าพระศิวะก็เป็นผู้ให้กำเนิดได้เช่นกันเราจะเห็นได้ว่ามีความเชื่อในลัทธิไศวนิกายที่นับถือศิวลึงค์และโยนีอันเป็นสัญลักษณ์ของการให้กำเนิด ศิวลึงค์นั้นเป็นสัญลักษณ์อวัยวะเพศชายใช้แทนองค์พระศิวะ ส่วนโยนีเป็นสัญลักษณ์อวัยวะเพศหญิงใช้แทนองค์พระแม่อุมาเทวีพระมเหสีของพระศิวะนั่นเอง และด้วยความที่พระศิวะเป็นสัญลักษณ์ของการให้กำเนิดจึงทำให้หลาย ๆ ตำนานของศาสนากล่าวถึงการให้กำเนิดสรรพสิ่งต่าง ๆ ที่ถือกำเนิดขึ้นมาโดยพระศิวะเป็นผู้สร้างหนึ่งในนั้นก็คือโลกมนุษย์ซึ่งพระศิวะสร้างโลกมนุษย์ขึ้นมาจากการเต้นหรือที่คนอินเดียเรียกว่าศิวนาฏราช จะเห็นได้จากสัญลักษณ์เป็นเทวรูปพระศิวะกำลังเต้นด้วยขาข้างเดียว มีที่มาตามตำนานเล่าว่า พระศิวะได้ท้าพนันกับพระแม่อุมาว่าพระองค์จะสร้างโลกมนุษย์ที่แข็งแรงด้วยขาข้างเดียว โดยพระองค์ยืนอยู่บนก้อนหินด้วยขาข้างเดียวในขณะที่สร้อยสังวาลย์พญานาคที่ร้อยอยู่บนพระศอของพระองค์ก็คอยวิดน้ำในมหาสมุทรไปด้วยและพระองค์ก็ได้ทำสำเร็จชนะพนันในที่สุด เป็นที่มาของศิวนาฏราชถือว่าปางนี้เป็นปางบรมครูของการร่ายรำนั้นเองค่ะภาพโดย pixabay ดังนั้นการร่ายรำในวัฒนธรรมอินเดียจึงถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเป็นของสูงเพราะเกี่ยวพันอันเนื่องมาจากศาสนาทำให้การร่ายรำฝังลึกอยู่ในวิถีชีวิตของคนอินเดีย คนอินเดียจะเต้นเพื่อสักการะเทพเจ้าคนอินเดียจะเต้นเมื่อเฉลิมฉลองและคนอินเดียจะเต้นเมื่อมีเทศกาลต่าง ๆ วัฒนธรรมการเต้นของอินเดียปรากฏให้เห็นในฉากต่าง ๆ ในภาพยนตร์อินเดีย จนกลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญของหนังอินเดียไปแล้วค่ะ นั่นคือคำตอบของคำถามที่ว่าเพราะเหตุใดหนังอินเดียต้องมีฉากเต้น