สวัสดีค่ะ ทุกท่าน กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ วันนี้จะมาพูดถึงหนังสือ 108 เวทมนตร์แห่งการจัดบ้าน อีกครั้งค่ะ นอกจากการจัดบ้านที่เราสามารถนำมาประยุกต์และปรับใช้ให้เหมาะสมกับเราแล้ว (ซึ่งในหนังสือจะเล่าถึงบ้านสไตล์ญี่ปุ่นมากกว่านะคะ) ยังมีวิธีการจัดเก็บสิ่งของบางอย่างที่ไม่ได้จัดได้แค่ในบ้านอย่างเดียว แต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากันกับที่ทำงาน โดยเฉพาะท่านใดที่ต้องทำงานวุ่นๆเกี่ยวกับเอกสารแล้วละก็ หากยังงงๆ อยู่ลองนำไปปรับใช้ดูนะคะ วันนี้จะมาเล่าถึงประโยชน์ที่ได้จากการอ่านหนังสือเล่มนี้ และเราสามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างไร "จัดเอกสารอย่างนี้ดีกว่า" เป็นหนึ่งในเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ที่เหมาะกับการจัดเก็บเอกสารไม่ว่าจะเป็นเอกสารในบ้าน หรือเอกสารที่ทำงานค่ะ สิ่งแรกที่ได้จากหนังสือ คือ การ ทิ้งค่ะ!! ทิ้งให้เกลี้ยง ซึ่งในที่นี่ ไม่ได้หมายถึงทิ้งเอกสารทุกอย่างจนหมดนะคะ เพียงแต่ต้องคัดแยกเอกสารด้วยความตั้งใจว่า "จะทิ้งให้เกลี้ยง" เอกสารหนึ่งแผ่นกินพื้นที่น้อยมาก จรืงไหมคะ เราจึงมักเก็บเอาไว้ จนอาจเต็มลิ้นชักโต๊ะหรือตู้เอกสาร การจัดเอกสารจำนวนมากอาจทำให้เราตาลาย ค่อยๆจัดและคัดแยกไปทีละหมวดหมู่นะคะ สรุปหลักการพื้นฐานในการจัดเก็บเอกสารที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ เนื่องจากหนังสือเล่าถึงการจัดเอกสารในบ้าน จึงขอสรุปเป็นข้อ และข้อเพิ่มเติมหากจะปรับให้เหมาะกับการนำไปใช้ที่ทำงานดังนี้ค่ะ1.กำลังใช้งานอยู่เป็นเอกสาร ที่ยังคงต้องใช้ หรือใช้ในทุกๆวันนั้นเองค่ะ อาจเป็นเอกสารจำพวก รายงานโปรเจคที่ยังคงดำเนินการอยู่ ผลการทดสอบคุณภาพของชิ้นงาน เป็นต้นค่ะ2.ต้องเก็บไว้ช่วงเวลาหนึ่งกลุ่มนี้จะเป็นเอกสารที่ต้องใช้ในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นงานที่ยังไม่ได้ผลิตยังอยู่ในช่วง Phototype หรือผลการทดสอบต่างๆที่ยังไม่ได้รับการ Mass Production เป็นต้นค่ะ (ซึ่งในหัวข้อนี้ Diary therapy ขยายความเอง )3.ต้องเก็บไว้ตลอดไปเอกสารกลุ่มนี้จะเป็นเอกสารที่มีความสำคัญกับบริษัทไม่สามารถทิ้งได้ อาจจะต้องมีการหยิบมาใช้เป็นเอกสารอ้างอิงค่ะ หลังจากที่แยกกลุ่มของเอกสารแล้ว ขั้นต่อมาคือ ทำกล่องเก็บเอกสาร สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการจัดเก็บเอกสาร คือ กล่องเก็บเอกสารที่ต้องการ เช่น จดหมายที่ต้องตอบกลับหรือใบแจ้งหนี้ (สำหรับบางบริษัทอาจมีระเบียบการจัดเก็บเอกสารอยู่แล้ว ลองไปปรับใช้กันดูนะคะ ^^) เก็บไว้แต่เอกสารที่มี "วัตถุประสงค์" ชัดเจนใบแจ้งยอดบัญชีบัตรเคดิตใบแจ้งยอดบัญชีบัตรเคดิตเป็นเอกสารอันดับต้นๆ ที่คนเรามีแนวโน้มจะเก็บเอาไว้เนื่องจากใบแจ้งยอดจะถูกส่งมาทุกเดือน ใช่ไหมละคะ แต่หากท่านใดไม่มีหนี้บัตรเครดิตแล้วละก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ หลายๆท่านให้จัดส่งใบแจ้งยอดส่งไปที่บริษัท และอาจเก็บวางไว้เต็มโต๊ะ หากคุณไม่ได้ประกอบธุรกิจส่วนตัวและต้องเก็บไว้ใช้กรอกแบบแสดงรายการภาษีเงินได้แล้วละก็ ควรทิ้งในเครื่องทำลายเอกสารได้เลยค่ะ เพราะหน้าที่หลักๆของใบแจ้งยอดหนี้บัตรเคดิต คือ "เดือนที่ผ่านมาใช้เงินไปเท่าไหร่" เท่านั้น หากรู้ยอดและตรวจสอบความถูกต้องแล้ว ควรทิ้งให้ได้เลยค่ะเป็นอย่างไรกันบ้างคะ เป็นหนังสือที่น่าสนใจเล่มนึงเลยใช่ไหมค่ะ เราสามารถนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับเราได้ค่ะ ทุกท่านสามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือ หรือทางออนไลน์ ฝากติดตามเรื่องราวในบทความของ Diary Therapy คราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรนั้นไว้มาเจอกันอีกนะคะขอบคุณค่ะDiary Therapy...