นายกฯ ย้ำระงับ Joint Declaration จนกว่ากัมพูชาจะไม่มีปฏิปักษ์กับไทย

ระงับ Joint Declaration จนกว่ากัมพูชาจะไม่มีปฏิปักษ์กับไทย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังประชุมครม. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งหลายฝ่ายมองว่ามาตรการเบาไป นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เช้าก็ประชุม สมช. และกำลังจะเดินทางลงพื้นที่ เพื่อเยี่ยมทหารบาดเจ็บ ส่วนกรอบระยะเวลาการระงับ Joint Declaration จะระงับถึงเมื่อใด นายกรัฐมนตรีระบุว่า จนกว่า กองทัพไทยจะเห็นว่าการเป็นปฏิปักษ์ของเขาไม่มีแล้ว

ขณะที่ ล่าสุดกัมพูชาปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนวางทุ่นระเบิด นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ประเทศไทยไม่มีระเบิดแบบนั้น

ขณะเดียวกันไทยจะมีการตอบโต้กัมพูชาอย่างไร ที่ออกมาแถลง เหมือนเป็นผิดข้อตกลง นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบคำถามนี้ พร้อมกับระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้รับมอบหมายให้การสัมภาษณ์ไปแล้ว และทำหน้าที่ไปแล้ว

ส่วนพอใจกับมาตรการ สมช.ในวันนี้ หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็เป็นมาตรการที่ตนวางแนวทางไว้

ขณะเดียวกันในใจของนายกรัฐมนตรีต้องการให้เข้มข้นมากกว่านี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นี่ก็เข้มข้นมากแล้ว

ส่วนท่าทีของกองทัพเป็นอย่างไร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ทุกคนก็ให้ความคิดเห็นหมด

ทั้งนี้จะมีอะไรที่จะยกมาตรการเข้มข้นมากกว่านี้หรือขึ้นอยู่กับปัจจัยใด หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้เราก็ไม่ได้ทำทั้ง 4 ข้อ แล้ว เราทำในสิ่งที่เราคิดว่าสมควรจะทำ

รัฐบาลระงับ Joint Declaration เป็นเรื่องปกติ

ด้านนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะระงับปฏิญญา Joint Declaration กับกัมพูชา จะส่งผลกระทบอะไรหรือไม่ว่า ไม่มีอะไร ความจริงเรื่องนี้ไม่ใช่ตราสารทางกฎหมายอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแค่นั้น เป็นการให้เกียรติกัน ถ้าคุณทำเราก็ให้เกียรติทำตามกัน แต่หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่จริงใจที่จะทำตาม ก็ต้องพูดคุยกันใหม่ก็แค่นั้น ไม่มีอะไร เพราะไม่ใช่หนังสือสัญญา

ส่วนไทยสามารถยุติการกระทำได้เลยใช่หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ เพราะเป็น Joint Declaration ถือเป็นคำประกาศร่วมกัน แค่นั้นไม่มีอะไร  

เมื่อถามย้ำว่าไม่เหมือนกับบันทึกข้อตกลง MOU ใช่หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ไม่เหมือน เพราะดีกรีจะเบากว่าเยอะ