สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมจะมาแชร์บทเรียนที่ผมได้จากหนังสือ Money 101 ที่ผมคิดว่ามันเป็นประโยชน์มากๆ ที่มหาลัยไม่มีสอน แต่จำเป็นมากสำหรับการใช้ชีวิต เรียกว่าเป็น Life Skill ที่เราต้องมีติดตัว เดี๋ยววันนี้ผมจะเอาสิ่งที่ได้เรียนรู้มามาแชร์ต่อกัน เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่ กำลังมีปัญหาการเงิน หรืออยากศึกษาการเงินไว้เป็นแนวทาง เพื่อเอาไปปรับใช้กับชีวิตของตัวเองก็ได้เช่นกันครับ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก 2 คำศัพท์ในโลกกันเงินกันก่อน คำแรกคือคำว่า สภาพคล่อง (Liquidity) เเละ ความมั่งคั่ง (Wealth) คำว่าสภาพคล่อง = การที่เรามีกิน มีใช้ มีเก็บออมขั้นต่ำ 10% ต่อเดือน Basic ทั่วไป เน้นย้ำคือเราต้องมีใช้และมีเก็บให้ได้ครับ คือถ้าเรามีใช้ แต่ไม่มีเก็บ อันนี้คือการขาดสภาพคล่องเหมือนกันครับ ภาษาง่ายๆคือเงินขาดมือ ต้องรีบแก้ปัญหาด่วนในการเพิ่มรายได้เข้ามา ผมก็ได้เข้าใจมากขึ้นจากการอ่านหนังสือเล่มนี้ล่ะครับ คำว่าความมั่งคั่ง = เป็นคำที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งเกิดจากการที่เราบริหารเงินเป็น มีใช้ มีเก็บ มีออม เกิดจากการที่เรามีสภาพคล่องที่ดี ทำให้เรามีกระแสเงินสดมากขึ้น แต่มันเกิดจากการสะสมเล็กๆนะครับ ความรู้สึกคือ ค่อยๆเก็บ จนเรามีเงินก้อนตามเวลาที่ผ่านไป แบบนี้เรียกว่าความมั่งคั่งได้เช่นกันครับ เพราะยังอยู่ในเกณฑ์ที่มีเก็บได้ วิธีเช็คว่าเรามีความมั่งคั่งไหม -เรามีเงินเก็บออมทุกเดือนหรือเปล่า -เราหักเงินออมก่อนเสมอไหม -เราออมไม่น้อยกว่า 10% ของรายได้ที่เราหาได้หรือเปล่า -มีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 6 เดือน งบการเงินส่วนบุคคล แล้วส่วนตัวผมก็เคยเรียนวิชาบัญชีมาอยู่บ้างตอนปี 4 แต่เป็นเกี่ยวกับธุรกิจส่วนใหญ่ ไม่มีสอนการเงินแบบส่วนบุคคลแบบนี้ ซึ่งวันนี้เราจะมาดูกันว่ามันเป็นยังไงบ้าง งบการเงินส่วนบุคคลที่ว่า โค้ชหนุ่มบอกว่ามันแบ่งอยู่ 2 อย่างย่อยๆครับ อย่างแรกคือ งบรายรับรายจ่าย และ งบสถานะการเงิน (ตามภาพด้านล่างนี้) งบรายรับรายจ่าย = ชื่อตรงตัวคือบอกรายรับรายจ่าย และงบนี้แหละครับที่จะทำให้เรารู้ว่าสภาพคล่องของเราเป็นยังไง ส่วนของงบรายรับรายจ่าย สิ่งที่เราควรโฟกัสคือรายรับครับไม่ใช่รายได้ เพราะเราต้องเอารายได้ที่เราได้มาไปลบกับเงินออมก่อน และลบกับค่าใช้จ่ายของเราที่มีในแต่ละเดือน ถ้าเงินเหลือเยอะไม่ติดลบ แสดงว่าสภาพคล่องของเราเป็นบวกครับ แต่ถ้าติดลบก็ควรแก้ไข พิจารณาจากการเพิ่มรายได้หรือไม่ก็ลดรายจ่ายลง Keyword โฟกัสเงินคงเหลือไม่ใช่รายได้ รายได้มากไม่ได้แปลว่าเงินคงเหลือมาก เงินคงเหลือ = รายได้ - เงินออม - ค่าใช้จ่าย ถ้ามีเงินเหลือไม่ติดลบ = สภาพคล่องดี ถ้าไม่มีเงินเหลือจนติดลบ = สภาพคล่องไม่ดี > ควร เพิ่มรายได้ หรือลดรายจ่ายลง งบสถานะการเงิน = จะเป็นตัวบอกว่าเรามีความมั่งคั่งเท่าไหร่ ผ่าน 2 ค่า คือทรัพย์สินและหนี้สินครับ บ้านๆแบบเข้าใจง่ายๆ ทรัพย์สิน คือสิ่งที่สร้างรายได้เข้ากระเป๋าเรา รายรับเป็นบวก ส่วนหนี้สิน คือสิ่งที่ทำให้รายได้เราลดลง เอาเงินออกจากกระเป๋า ไม่ได้สร้างเงินเพิ่ม นี่แหละครับคือหนี้สิน keyword ทรัพย์สิน สิ่งที่ทำให้เกิดรายได้ รายรับเป็นบวก สร้างเงินเข้ากระเป๋า หนี้สิน สิ่งที่ทำให้เกิดรายจ่าย รายรับเป็นลบ รายจ่ายเพิ่ม ไม่สร้างเงินเข้ากระเป๋า แต่ในที่นี้ก็จะมีหนี้สิน 2 แบบเหมือนกันนะครับที่ผมเข้าใจจากหนังสือเล่มนี้ นี่จะมี 2 แบบครับ คือ "หนี้ดี" กับ "หนี้เสีย" หนี้ที่ดี = หนี้ที่สร้างรายได้ สร้างทรัพย์สินต่อไป เหมือนกันกู้เงินแล้วเอาไปสร้างให้เกิดรายได้ขึ้นมาอันนี้คือหนี้ดีครับ หนี้ที่ไม่ดี = ที่เรียกว่าหนี้เสีย สิ่งนี้เป็นการกู้มาโดยไม่สร้างรายได้ คือเสียไปเปล่าตามชื่อเลย ส่วนใหญ่เป็นหนี้บริโภค หรือ เป็นพวกหนี้ที่เราใช้ซื้อของกินของใช้ครับที่ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรนี่แหละครับหนี้ที่ไม่ดี ผมขอหยิบยกมาคร่าวๆประมาณนี้แล้วกันครับ ส่วนใครที่อยากได้รายละเอียดเจาะลึกแบบเต็มๆ ผมว่าต้องไปหาซื้อมาอ่านแล้วครับ เป็นหนังสือที่ควรมีติดบ้านไว้มากๆ เพราะผมอ่านหนังสือเล่มนี้ก็เข้าใจขึ้นมาเลยว่า รายจ่ายเรามีตลอด แต่รายรับเราไม่ได้มีตลอดถ้าเราหมดแรง การมีความรู้ทางการเงินไว้ทำให้เราบริหารเงินเป็น ทำให้เรารู้จักใช้เครื่องมือทางการเงินให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คุ้มมากครับกับหนังสือเล่มนี้ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับผู้อ่านนะครับ แล้วเจอกันใหม่สวัสดีครับ Credit photo : ผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !