ชุมพรผวา! เมียนมาลักลอบเข้าเมือง พบไข้สูง 7 คน

วันนี้( 23 ก.ค.63) ตำรวจ สภ.ปากน้ำชุมพร พร้อมทีมปฏิบัติการควบคุมโรคจากสำนักงานสาธารณสุข ร่วมสอบสวนโรคชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย จำนวน 32 คน เพื่อตรวจคัดกรองหาเชื้อ โควิด-19 หลังจากชาวเมียนมาทั้งหมดถูกแก๊งค้าแรงงานมนุษย์นำมาปล่อยทิ้งไว้ ในสวนปาล์มน้ำมันของชาวบ้านพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลท่ายาง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร

จากการสอบสวนทราบว่าชาวเมียนมาทั้งหมด รับจ้างทำงานอยู่ในประเทศมาเลเซียแล้วได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด โควิด-19 ทำให้ตกงานมานานกว่า 3 เดือน จึงได้ว่าจ้างให้แก๊งค้ามนุษย์ชาวไทย จ่ายคนละ 20,000 บาท พาหลบหนีเข้าไทยตามช่องทางธรรมชาติบริเวณชายแดน ด้านอำเภอสะเดา จ.สงขลา มากับรถกระบะติดกรงเหล็ก เพื่อจะกลับเมียนมาทางชายแดน ด้านจังหวัดระนอง

แต่เมื่อมาถึงในพื้นที่จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่มีการตั้งด่านตรวจคุมเข้ม จึงทำให้แก๊งค้ามนุษย์ พาชาวเมียนมาทั้งหมดมาปล่อยทิ้งไว้ในสวนปาล์ม จนมีชาวบ้านไปพบแล้วแจ้งผู้ใหญ่บ้านและตำรวจไปตรวจสอบ ทั้งหมดเป็นแรงงานผิดกฎหมายจึงควบคุมตัวไปกักกันเข้าสู่กระบวนการตรวจคัดกรองโรค โดยชาวเมียนมาทั้ง 32 คน พบว่ามีไข้สูงถึง 7 คน เจ้าหน้าที่ได้แยกตัวออกทันทีนำไปที่ห้องควบคุมโรคโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์

ส่วนชาวเมียนมาที่เหลือถูกควบคุมตัวไว้ที่สมาคมชาวประมงร่วมใจชุมพร เพื่อรอการสอบสวนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายฐานเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และขยายผลติดตามจับกุมแก๊งค้าแรงงานมนุษย์ที่รับจ้างนำชาวเมียนมาหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยต่อไป

ทั้งนี้ ในรอบ 3 เดือน จังหวัดชุมพร สามารถสกัดจับแรงงานชาวเมียนมาหลบหนีจากมาเลเซียได้ถึง 3 ครั้ง เกือบ 100 คน เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆและประชาชน กังวลว่า หากจังหวัดทางภาคใต้ ยังปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศไทยอยู่เช่นนี้ อาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบสองอีกอย่างแน่นอน

เกาะติดข่าวที่นี่