Smart Home Automation (SHA) นั้นส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร เป็นหัวข้อที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้แต่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยรู้จักหรือได้ยินคำว่า Smart Home Automation มาก่อน หรือบางคนอาจจะเคยได้ยินคำว่าSmart Home แต่ไม่เคยได้ยินคำว่า Home Automation เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะไปหาผลกระทบของมันต่อสิ่งแวดล้อม ลองมาทำความรู้จักกับสามคำนี้ก่อนดีกว่า Smart Home นั้นโดยทั่ว ๆ ไปแล้วจะหมายถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือเซนเซอร์ต่างๆ ซึ่งสามารถควบคุมโดยผู้ใช้ผ่านทางแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือหรือผ่านระบบใดระบบหนึ่งได้ หากจะยกตัวอย่างให้มองเห็นภาพง่ายๆ ก็คงจะเป็นกล้องวงจรปิดตามบ้านที่ทุกๆ คนคุ้นเคย เพราะกล้องวงจรปิดนั้นเราสามารถดูจากที่ไหนก็ได้หรือควบคุมทิศทางของกล้องตามใจเราอย่างไรก็ได้ แล้ว....Home Automation ต่างกันอย่างไร? Home automation คือ การนำเอาอุปกรณ์ smart home มาใช้ร่วมกันภายในพื้นที่พื้นที่หนึ่ง โดยอุปกรณ์เหล่านี้จะทำงานร่วมกันโดยอาศัยคำสั่งจากอุปกรณ์แต่ละตัวในโครงข่ายที่กำลังเชื่อมกันอยู่ โดยผู้ใช้เป็นผู้ตั้งคำสั่งไว้ โดยคำสั่งที่ตั้งอาจจะเกิดจากกิจกรรมในชีวิตที่เกิดขึ้นบ่อยๆ จนเป็นกิจวัตร เช่น ระบบการทำงานของเครื่องปรับอากาศ, เครื่องกรองอากาศ และหลอดไฟภายในบ้าน ผู้ใช้อาจจะตั้งให้ทั้งสามอุปกรณ์นี้เริ่มทำงานเมื่อถึงเวลา 6 โมงเย็นซึ่งเป็นเวลาที่ผู้ใช้กลับมาถึงบ้านพอดี ส่วนคำว่า Smart Home Automation นั้น หมายถึง การควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านให้ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบโดยจะมีการวัดพลังงานที่ถูกใช้ด้วย ถ้าจะมองให้ง่ายก็คือการนำความหมายของคำว่า Smart Home และ Home Automation มารวมกันแต่เพิ่มเติมการวัดพลังงานเข้าไปนั่นเอง จากเท่าๆ ที่อ่านมาคุณนักอ่านก็คงเริ่มสงสัยว่าแล้วทำไม Smart Home Automation ถึงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเมื่ออ่านเผินๆแล้ว ก็ดูเหมือนจะเป็นการทำงานอย่างชาญฉลาดของอุปกรณ์ที่น่าจะไม่กินพลังงานเยอะเท่าไหร่ เป็นเพียงจุดเล็กๆ เท่านั้นเมื่อเทียบกับโรงงานที่มีขนาดใหญ่กว่า ทั้งยังส่งผลดีต่อผู้ใช้แล้วก็ยังเป็นนวัตกรรมที่ดูก้าวหน้ามากๆ นี่นา แถมผู้ใช้งานยังสามารถตั้งเวลาการทำงานของระบบได้ พลังงานจะได้ใช้เฉพาะเท่าที่จำเป็น พอคิดอย่างนี้แล้ว Smart Home Automation ก็ไม่น่าจะทำลายสิ่งแวดล้อมนี่นา แต่จากงานวิจัย Environmental Impacts and Benefits of Smart Home Automation ของ Jean-Nicolas Louis เมื่อใช้กระบวนการ Life Cycle Assessment (LCA) หรือในชื่อภาษาไทยคือ การประเมินวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ กลับพบว่าถ้าใช้ระบบ Smart Home Automation ต่อเนื่อง 5 ปี จะมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศถึง 2076 kgCO2eq หรือเทียบเท่ากับการปล่อยแก๊สมลพิษถึง 2076 กิโลกรัมวัฏจักรที่มีการปล่อยมลพิษออกมาสูงสุดคือระยะการประกอบอุปกรณ์และการใช้งาน โดยที่สิ่งแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือสิ่งแวดล้อมทางทะเล รองลงมาคือมนุษย์ พอได้อ่านแบบนี้แล้วทางด้านครีเอเตอร์เองก็เกิดความลังเลในการเลือกซื้ออุปกรณ์อัจฉริยะขึ้นมาอยู่บ้างค่ะ เพราะเพื่อความสะดวกสบายที่มากขึ้นอีกนิด อาจต้องแลกกับการทำลายธรรมชาติบางส่วนลง แต่คิดว่าในอนาคตอย่างไรเทคโนโลยีคงไม่มีการหยุดพัฒนา อุปกรณ์อัจฉริยรุ่นใหม่ๆ อาจจะแทบไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเลยก็ได้แล้วคุณนักอ่านมีความเห็นอย่างไรกันบ้างคะ คิดเห็นอย่างไรกับระบบ Smart Home Automation (SHA) ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียนี้ ภาพปก โดย Howard Bouchevereau/unsplashภาพที่ 1 โดย Bence Boros/unsplashภาพที่ 2 โดย Joe Gadd/unsplashภาพที่ 3 โดย Moritz Kindler/unsplashภาพที่ 4 โดย Cristian Palmer/unsplash7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์