Resident Evil เป็นเกมสยองขวัญเอาชีวิตรอดที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แฟน ๆ ต่างหลงใหลในบรรยากาศที่ชวนขนลุก การต่อสู้กับศัตรูที่น่าสยดสยอง และปริศนาที่ท้าทาย หากคุณกำลังมองหาเกมที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับคุณกำลังได้เล่นเกมผีชีวะอยู่ บทความนี้ขอแนะนำ 10 เกมที่ควรลอง เกมเหล่านี้มีองค์ประกอบคล้ายคลึงกับ Resident Evil ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ การเล่นเกม หรือเนื้อเรื่อง เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับความกลัว แล้วมาสัมผัสประสบการณ์สุดสยองขวัญที่รอคุณอยู่! 1. Dead Space 2: ฝันร้ายในอวกาศที่หลอนจนวางจอยไม่ลงDead Space 2 เกมสยองขวัญเอาชีวิตรอดที่พาเรากลับไปเผชิญหน้ากับฝันร้ายบนสถานีอวกาศ USG Ishimura อีกครั้ง คราวนี้ Isaac Clarke วิศวกรผู้รอดชีวิตจากภาคแรก ต้องเผชิญกับฝูงเนโครมอร์ฟที่โหดเหี้ยม กลไกอันตราย และปริศนาสุดสยอง ระบบการเล่นที่ลุ้นระทึก: Dead Space 2 พัฒนาระบบการต่อสู้จากภาคแรกให้เข้มข้นขึ้น ผู้เล่นต้องใช้ปืน Plasma Cutter สุดคลาสสิก ผ่าตัดเหล่าเนโครมอร์ฟอย่างชาญฉลาด จัดการจุดอ่อนของพวกมันเพื่อเอาชีวิตรอด กระสุนมีจำกัด บีบให้เราใช้ทรัพยากรอย่างชาญฉลาด บรรยากาศอึดอัด เสียงประกอบที่ชวนขนลุก และฉาก Jump Scare ที่คาดเดาไม่ได้ ยิ่งเพิ่มความตึงเครียดจนแทบวางจอยไม่ลง บรรยากาศที่หลอนจนขวัญผวา: เกมสร้างบรรยากาศอวกาศอันเงียบงัน เต็มไปด้วยความมืดมิด เสียงร้องโหยหวนของเนโครมอร์ฟ และแสงไฟสลัวที่สร้างความหวาดกลัว เหล่าเนโครมอร์ฟมีรูปร่างน่าสยดสยอง เคลื่อนไหวฉับไว รอโจมตีเราอยู่ทุกซอกทุกมุม ความรู้สึกหลังเล่น: Dead Space 2 มอบประสบการณ์การเล่นที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ลุ้นระทึก และหลอนจนขวัญผวา adrenalina หลั่งพุ่ง เลือดสูบฉีด หัวใจเต้นรัว เกมกระตุ้นอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม Dead Space 2 ไม่ได้เป็นแค่เกมสยองขวัญ แต่เป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการความท้าทายและต้องการสัมผัสความกลัวแบบสุดขีด ข้อควรระวัง: เกมนี้มีเนื้อหาที่รุนแรง ฉากสยองขวัญ และความรุนแรงทางร่างกาย ผู้เล่นควรมีอายุ 18 ปีขึ้นไป สรุป: Dead Space 2 เป็นเกมสยองขวัญชั้นยอดที่ควรค่าแก่การเล่น มอบประสบการณ์ที่ทั้งสนุก ตื่นเต้น และหลอนจนขวัญผวา 2. The Evil Within 2 ฝันร้ายที่กลายเป็นความจริงThe Evil Within 2 เกมสยองขวัญเอาชีวิตรอดที่พาผู้เล่นดำดิ่งสู่โลกฝันร้ายอันบิดเบี้ยว เต็มไปด้วยเหล่าอสูรกายสุดโหดร้าย และบรรยากาศชวนขนลุก ภาคต่อนี้พัฒนาโดย Tango Gameworks ภายใต้การนำของ Shinji Mikami ผู้สร้างซีรีส์ Resident Evil ในตำนาน ระบบการเล่นที่ท้าทายเกมเพลย์ของ The Evil Within 2 เน้นการผสมผสานระหว่างการยิงปืน การต่อสู้แบบประชิดตัว และการแก้ปริศนา ผู้เล่นจะต้องใช้กลยุทธ์และทรัพยากรอย่างจำกัดเพื่อเอาชีวิตรอดจากเหล่าอสูรกายที่โหดเหี้ยม กระสุนปืนมีจำกัด การใช้อย่างประหยัดและแม่นยำจึงเป็นสิ่งสำคัญ บรรยากาศชวนขนลุกเกมสร้างบรรยากาศความน่ากลัวได้อย่างยอดเยี่ยม ฉากต่างๆ ออกแบบได้อย่างน่าสยดสยอง เสียงประกอบชวนขนลุก และดนตรีประกอบที่ตึงเครียด ล้วนส่งผลต่ออารมณ์ผู้เล่น ทำให้รู้สึกหวาดกลัว ลุ้นระทึก ตลอดเวลา ความรู้สึกที่ได้สัมผัสตอนแรกที่เล่น รู้สึกตื่นเต้นปนหวาดกลัวกับบรรยากาศของเกม การออกแบบฉากและตัวละครอสูรกายมีความน่าสยดสยองสูง หลายครั้งที่ต้องหยุดเล่นเพื่อตั้งสติ กลยุทธ์การเล่นสำคัญมาก ต้องวางแผนการใช้อาวุธ กระสุน และทรัพยากรอย่างรอบคอบ บทสรุปThe Evil Within 2 เป็นเกมสยองขวัญที่ควรค่าแก่การเล่น เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบความท้าทาย บรรยากาศน่ากลัว และระบบการเล่นที่เข้มข้น เกมนี้จะมอบประสบการณ์การเล่นที่ยากจะลืมเลือน เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ลุ้นระทึก และความตื่นเต้น 3. Tormented Souls: บททดสอบความกล้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นTormented Souls เกมแนวสยองขวัญเอาชีวิตรอดที่พาเราย้อนกลับไปสัมผัสประสบการณ์การเล่นแบบคลาสสิก เต็มไปด้วยบรรยากาศชวนขนลุก และระบบการเล่นที่ท้าทายความอดทนของผู้เล่น ระบบการเล่นที่เหมือนหลุดออกมาจากยุค 90สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือกลิ่นอายของเกมสยองขวัญยุคเก่า ตัวเกมใช้มุมมองแบบ Third Person Camera ที่ล็อกตายตัว ผู้เล่นต้องบังคับตัวละครเดินไปรอบๆ ฉาก ค้นหาไอเท็ม แก้ปริศนา และเผชิญหน้ากับศัตรู บรรยากาศที่ชวนขนลุกTormented Souls พาผู้เล่นไปยังคฤหาสน์ร้างที่เต็มไปด้วยความมืดมิด เสียงเพลงประกอบที่ชวนอึดอัด เสียงฝีเท้าที่ดังก้องไปมา และเสียงกรีดร้องที่แหลมคม ล้วนสร้างบรรยากาศที่ชวนขนลุกจนแทบวางจอยไม่ลง ความรู้สึกตื่นเต้นผสมความกลัวหัวใจเต้นรัวทุกครั้งที่เดินผ่านห้องโถงที่มืดมิด หวาดผวาว่าจะมีอะไรโผล่ออกมาจากเงามืด ความรู้สึกตึงเครียดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่โหดเหี้ยม ทุกๆ ก้าวที่เดินไป ล้วนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นผสมความกลัว ความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้าปริศนาต่างๆ ในเกมนั้นท้าทายความคิดและความอดทนของผู้เล่น บางครั้งก็ต้องใช้ไอเท็มที่เก็บมาประกอบกัน บางครั้งก็ต้องสังเกตรายละเอียดในฉากอย่างละเอียด ความรู้สึกหลังจากเล่นจบTormented Souls มอบประสบการณ์การเล่นที่เหมือนถูกย้อนเวลากลับไปในอดีต เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ความกลัว และความท้าทาย เกมนี้เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบเกมสยองขวัญแบบคลาสสิก และต้องการความท้าทายที่แท้จริง สรุปTormented Souls เป็นเกมสยองขวัญที่ควรค่าแก่การเล่น เกมนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบรรยากาศที่ชวนขนลุก ระบบการเล่นที่ท้าทาย และความรู้สึกตื่นเต้นผสมความกลัวที่ยากจะลืมเลือน 4. Cold Fear: บนเรือผีสิง บรรยากาศสุดหลอน กับระบบการเล่นที่ท้าทายCold Fear เกมสยองขวัญเอาชีวิตรอด มุมมองบุคคลที่สาม พาผู้เล่นดำดิ่งสู่เรือประมงวาฬร้าง "Orca" ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอึดอัด ตึงเครียด เสียงประกอบชวนขนลุก และแสงเงาที่เล่นกับความรู้สึก ระบบการเล่นที่ผสมผสานความระทึกเกมนี้ผสมผสานการต่อสู้ที่ดุเดือด กับการไขปริศนาเพื่อหาทางหนีตาย ผู้เล่นต้องใช้ปืนหลากหลายชนิดจัดการศัตรูที่โหดเหี้ยม ไขกลอน ปลดล็อกประตู ค้นหากุญแจสำคัญ ผ่านด่านต่างๆ ไปพร้อมกับความหวาดกลัว บรรยากาศสุดหลอน กระตุ้นต่อมขนลุกCold Fear สร้างบรรยากาศได้อย่างน่าขนลุก เสียงกรีดร้อง เสียงฝีเท้า เสียงเคาะประตู ดังก้องไปทั่วเรือ เสียงประกอบที่เงียบสงัดสลับกับเสียงเพลงประกอบที่ตึงเครียด ยิ่งทวีคูณความน่ากลัว ความรู้สึกระหว่างเล่นตอนแรกผมรู้สึกตื่นเต้นกับฉากแอ็คชั่น ต่อสู้กับศัตรู แต่ยิ่งเล่นไป บรรยากาศเริ่มอึดอัด น่ากลัว เสียงต่างๆ เล่นกับอารมณ์ผมจนรู้สึกหวาดกลัว เริ่มระแวง จับตาจับใจกับทุกสิ่งในเกม สรุปCold Fear เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบความท้าทาย และความน่ากลัว เกมนี้จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกแห่งความสยองขวัญ บนเรือผีสิง "Orca" ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสุดหลอน กับระบบการเล่นที่ผสมผสานความระทึก คะแนน: 8/10 5. Days Gone: ขี่มอเตอร์ไซค์ฝ่าดงซอมบี้ บนเส้นทางแห่งการสูญเสียDays Gone เกมแอคชั่นผจญภัยในโลกเปิด ที่ผู้เล่นจะรับบทเป็น Deacon St. John อดีตทหารผ่านศึกที่ใช้ชีวิตแบบเร่ร่อนในดินแดนรกร้างเต็มไปด้วยซอมบี้ เกมนี้ไม่ใช่แค่การต่อสู้เอาชีวิตรอด แต่ยังแฝงเรื่องราวการสูญเสีย ความรัก และความหวัง ระบบการเล่นที่ท้าทาย: Days Gone เน้นการต่อสู้ที่ดุเดือด ผู้เล่นต้องใช้อาวุธหลากหลายชนิดจัดการฝูงซอมบี้ที่ถาโถมเข้ามา กลยุทธ์และการวางแผนเป็นสิ่งสำคัญ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพคือกุญแจสำคัญในการเอาชีวิตรอด บรรยากาศที่ตึงเครียด: โลกของ Days Gone เต็มไปด้วยอันตราย เสียงร้องโหยหวนของซอมบี้ บรรยากาศเงียบสงัด และความมืดมิด ล้วนสร้างความตึงเครียดให้กับผู้เล่น เรื่องราวที่กินใจ: Deacon เป็นตัวละครที่มีมิติ เต็มไปด้วยความสูญเสียและความโกรธ เกมพาเราไปสัมผัสเรื่องราวความรัก ความผูกพัน และการต่อสู้เพื่อสิ่งที่เขารัก ความรู้สึกที่ได้สัมผัส: ตอนแรกผมรู้สึกตื่นเต้นกับระบบการต่อสู้ที่ดุเดือด การขี่มอเตอร์ไซค์ผจญภัยในโลกเปิด แต่ยิ่งเล่นไป ความประทับใจ: Days Gone เป็นเกมที่เต็มไปด้วยความท้าทาย เต็มไปด้วยเรื่องราวเข้มข้น ตัวละครที่น่าจดจำ และบรรยากาศที่ตึงเครียด เกมนี้อาจไม่ใช่เกมที่สมบูรณ์แบบ แต่สำหรับผม Days Gone เป็นเกมที่น่าประทับใจและควรค่าแก่การเล่น 6. Silent Hill 4: The Room - บทเพลงสยองขวัญในห้องกักตัวเสียงเคาะประตู... เสียงกระซิบ... บรรยากาศอึดอัด...นี่คือสิ่งแรกที่ผมสัมผัสได้เมื่อเริ่มเล่น Silent Hill 4: The Room เกมสยองขวัญที่ไม่เหมือนใครจากค่าย Konami ตัวเกมพาเรารับบทเป็น Henry Townshend ชายหนุ่มผู้ถูกกักตัวอยู่ในอพาร์ทเมนต์ 302 ของเขา โลกภายนอกเต็มไปด้วยหมอกหนาทึบ เสียงไซเรนโหยหวน และความเงียบที่ชวนขนลุก ระบบการเล่นที่แหวกแนวสิ่งที่ทำให้ Silent Hill 4 แตกต่างจากเกมสยองขวัญอื่นๆ คือระบบการเล่นที่เน้นการหลบหนีและแก้ปริศนา แทนที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูโดยตรง ผู้เล่นต้องใช้ "รู" ลึกลับในห้องของ Henry เพื่อเดินทางไปยังโลกอื่นที่เต็มไปด้วยอันตราย บรรยากาศที่ชวนขนลุกเกมนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศที่ชวนขนลุก เสียงเพลงประกอบที่หม่นหมอง การออกแบบฉากที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ และตัวละครที่บิดเบี้ยว ล้วนสร้างความรู้สึกหวาดกลัวและอึดอัดให้กับผู้เล่น ความรู้สึกของผมตอนแรกผมรู้สึกสับสนกับระบบการเล่นที่แปลกใหม่ แต่เมื่อเล่นไปเรื่อยๆ ผมเริ่มเข้าใจกลไกและเริ่มสนุกกับการไขปริศนา บรรยากาศของเกมช่างน่าขนลุกจนผมต้องหยุดเล่นหลายครั้งเพื่อพักใจ บทสรุปSilent Hill 4: The Room เป็นเกมสยองขวัญที่ไม่เหมือนใคร เต็มไปด้วยระบบการเล่นที่แปลกใหม่ บรรยากาศที่ชวนขนลุก และเนื้อเรื่องที่ลึกซึ้ง เกมนี้เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการประสบการณ์การเล่นเกมที่ไม่เหมือนใครและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว 7. ObsCure: บทเรียนสยองขวัญในโรงเรียนร้างObscure เกมสยองขวัญเอาชีวิตรอดที่พาเราย้อนกลับไปสู่โรงเรียนมัธยมปลาย Leafmore High School สถานที่ที่เต็มไปด้วยความลับอันน่าสยดสยอง ผู้เล่นจะต้องสวมบทบาทเป็นเหล่านักเรียน 5 คน ร่วมมือกันไขปริศนา ต่อสู้กับสัตว์ประหลาด และค้นหาทางออกจากฝันร้ายนี้ ระบบการเล่นที่เน้นการร่วมมือ เป็นจุดเด่นของ ObsCure ผู้เล่น 2 คนสามารถควบคุมตัวละคร 2 ตัวแยกจากกันได้ การสื่อสารและการทำงานเป็นทีมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ตัวละครแต่ละตัวมีทักษะเฉพาะตัว ผู้เล่นต้องใช้ความสามารถของพวกเขาผสมผสานกันเพื่อผ่านอุปสรรคต่างๆ บรรยากาศภายในเกม มืดมน อึดอัด เต็มไปด้วยความตึงเครียด เสียงเพลงประกอบสร้างความรู้สึกหวาดผวา เสียงกรีดร้อง เสียงฝีเท้า เสียงสัตว์ประหลาด ล้วนสร้างความระแวงให้กับผู้เล่น ฉากต่างๆ ภายในโรงเรียนถูกออกแบบมาได้อย่างน่าขนลุก ห้องเรียนที่รก โต๊ะเก้าอี้ที่หักพัง เศษซากศพ สร้างความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในเขตหวงห้าม ความรู้สึกตื่นเต้น ลุ้นระทึก เกิดขึ้นตลอดการเล่น ผู้เล่นต้องเผชิญกับสัตว์ประหลาดหลากหลายรูปแบบ การต่อสู้อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป ผู้เล่นต้องใช้สติวิเคราะห์ หาทางหนี หรือหาวิธีจัดการกับสัตว์ประหลาดอย่างชาญฉลาด ปริศนาต่างๆ ภายในเกมมีความท้าทาย กระตุ้นให้ผู้เล่นคิดวิเคราะห์ บางปริศนาอาจต้องใช้ไอเท็มประกอบ บางปริศนาเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่อง ความรู้สึกส่วนตัว Obscure เป็นเกมที่เล่นแล้ววางไม่ลง บรรยากาศภายในเกมชวนให้รู้สึกหวาดกลัว ลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลา การไขปริศนาและต่อสู้กับสัตว์ประหลาดสร้างความตื่นเต้น ท้าทาย Obscure เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบเกมสยองขวัญ ต้องการสัมผัสความตื่นเต้น ลุ้นระทึก และความท้าทาย เกมนี้จะพาคุณไปสู่โลกแห่งฝันร้ายที่เต็มไปด้วยความลับอันน่าสะพรึงกลัว 8. Alone in the Dark: ฝันร้ายในคฤหาสน์ร้างAlone in the Dark เวอร์ชั่นปี 2008 พาเรากลับไปยังคฤหาสน์ Derceto สถานที่อันน่าขนลุกเต็มไปด้วยปริศนาและสัตว์ประหลาด ที่นี่ Edward Carnby และ Aline Cedrac สองตัวละครหลัก จะต้องร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งภัยคุกคามจากนรก ระบบการเล่นที่ท้าทาย: เกมนี้เน้นการผจญภัยแก้ปริศนา ผสมผสานกับการต่อสู้กับสัตว์ประหลาด การควบคุมตัวละครอาจดูยุ่งยากในตอนแรก แต่เมื่อคุ้นเคยแล้ว เราจะสามารถควบคุม Edward และ Aline ได้อย่างคล่องแคล่ว ระบบการต่อสู้เน้นการใช้ปืนและอาวุธระยะประชิด สิ่งสำคัญคือต้องใชกระสุนอย่างชาญฉลาด เพราะกระสุนมีจำกัด บรรยากาศที่ชวนขนลุก: เกมนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศที่ชวนขนลุก เสียงดนตรีประกอบและเสียงประกอบฉากสร้างความตึงเครียดได้อย่างยอดเยี่ยม ฉากในเกมมืดมิด เต็มไปด้วยฝุ่นและใยแมงมุม แสงไฟสลัวสร้างความรู้สึกอึดอัด บวกกับการออกแบบสัตว์ประหลาดที่น่าสยดสยอง ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนอยู่ในฝันร้าย ความรู้สึกระหว่างเล่น: ตอนแรกผมรู้สึกกังวลกับระบบการควบคุมที่ดูยุ่งยาก แต่หลังจากฝึกฝนจนคุ้นเคย ผมเริ่มสนุกกับการผจญภัยในคฤหาสน์ Derceto การแก้ปริศนาและการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดสร้างความตื่นเต้นเร้าใจ บรรยากาศในเกมชวนให้ผมรู้สึกขนลุกและหวาดกลัวอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะฉากเจอสัตว์ประหลาดแบบตัวต่อตัว Alone in the Dark ไม่ได้เป็นเกมที่สมบูรณ์แบบ ยังมีจุดด้อยในเรื่องกราฟิกที่ดูล้าสมัย และระบบการต่อสู้ที่อาจไม่ลื่นไหลเท่าเกมสมัยใหม่ แต่โดยรวมแล้ว เกมนี้ยังถือว่าสนุกและน่าตื่นเต้น เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบเกมแนวสยองขวัญผจญภัย 9. Alien: Isolation - บททดสอบความกล้าที่แท้จริงAlien: Isolation ไม่ได้เป็นแค่อีกหนึ่งเกมสยองขวัญ แต่มันคือประสบการณ์ที่หลอมรวมทั้งความตื่นเต้น ระทึกขวัญ และสิ้นหวังเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ระบบการเล่นที่ท้าทาย: หัวใจสำคัญของเกมนี้คือระบบ AI ของเอเลี่ยนที่ฉลาดหลักแหลม คาดเดายาก และเรียนรู้จากพฤติกรรมของผู้เล่นอยู่เสมอ คุณจะต้องใช้ไหวพริบ ไหวสมอง และความอดทนอย่างมากเพื่อเอาชีวิตรอดจากการถูกไล่ล่า บรรยากาศที่สมจริง: เกมนี้สร้างบรรยากาศของสถานีอวกาศ Sevastopol ได้อย่างสมจริง ราวกับว่าผู้เล่นได้หลุดเข้าไปอยู่ในภาพยนตร์ Alien จริงๆ เสียงเพลงประกอบ เสียงเอฟเฟค และแสงเงา ล้วนถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความตึงเครียดและความน่ากลัวให้กับผู้เล่น ความรู้สึกที่หลากหลาย: ระหว่างเล่นเกมนี้ ผู้เล่นจะรู้สึกถึงอารมณ์ที่หลากหลาย ทั้งความกลัว ความกดดัน ความตื่นเต้น และความโล่งใจ ความกลัว: เกมนี้เต็มไปด้วยฉากที่น่ากลัว ชวนให้ขนลุก ผู้เล่นจะต้องเผชิญหน้ากับเอเลี่ยนที่โหดร้าย อันตราย และพร้อมจะโจมตีผู้เล่นได้ทุกเมื่อ ความกดดัน: เกมนี้สร้างความกดดันให้กับผู้เล่นอยู่ตลอดเวลา ผู้เล่นจะต้องคอยระวังเสียง สัญญาณ และเงาต่างๆ เพื่อไม่ให้ถูกเอเลี่ยนจับได้ ความตื่นเต้น: เกมนี้มีฉากแอคชั่นที่ตื่นเต้นเร้าใจ ผู้เล่นจะต้องใช้ทักษะและไหวพริบเพื่อเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์อันตรายต่างๆ ความโล่งใจ: ทุกครั้งที่ผู้เล่นสามารถเอาชนะเอเลี่ยนหรือหนีจากสถานการณ์อันตรายได้ ผู้เล่นจะรู้สึกโล่งใจและภูมิใจ สรุป: Alien: Isolation เป็นเกมที่เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมที่ตื่นเต้น ระทึกขวัญ และน่ากลัว เกมนี้จะทดสอบความกล้าของคุณและทำให้คุณจดจำมันไปอีกนาน 10. Dead Island 2: บทสรุปการรอคอยที่คุ้มค่า?ในที่สุด Dead Island 2 ก็วางจำหน่ายแล้ว! เหล่าเกมเมอร์ที่รอคอยมานานกว่า 8 ปี ต่างตื่นเต้นที่จะได้สัมผัสประสบการณ์การต่อสู้กับเหล่าซอมบี้บนเกาะสวรรค์อีกครั้ง เกมนี้จะตอบสนองความคาดหวังหรือไม่? ไปดูกันเลย! ระบบการเล่นที่สนุกสนานและโหดเหี้ยมDead Island 2 ยังคงเอกลักษณ์การต่อสู้แบบดั้งเดิม เน้นการโจมตีระยะประชิดที่ดุดัน ผู้เล่นจะได้สัมผัสความสะใจในการทุบตี ฟัน แทง เหล่าซอมบี้ให้แหลกละเอียด ระบบการต่อสู้มีความลื่นไหล ผสมผสานกับระบบ crafting อาวุธและทักษะตัวละครที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้เล่นสามารถสร้างสไตล์การเล่นที่เหมาะกับตัวเอง บรรยากาศที่ชวนขนลุกเกมนี้พาผู้เล่นไปยังเมือง Los Angeles ที่เต็มไปด้วยซอมบี้ บรรยากาศของเมืองที่เคยสวยงาม กลายเป็นดินแดนรกร้างเต็มไปด้วยความตาย ผู้เล่นจะได้สัมผัสความตึงเครียด ลุ้นระทึก ผสมผสานกับความสยองขวัญจากเหล่าซอมบี้ที่มีรูปลักษณ์น่ากลัว ความรู้สึกหลังจากได้เล่นDead Island 2 มอบประสบการณ์การต่อสู้กับซอมบี้ที่สนุกสนานและโหดเหี้ยม ระบบการเล่นที่ลื่นไหล บรรยากาศที่ชวนขนลุก และความหลากหลายของตัวละคร อาวุธ และทักษะ ช่วยให้ผู้เล่นรู้สึกเพลิดเพลินและอินไปกับเกม อย่างไรก็ตาม เกมยังมีจุดด้อยอยู่บ้าง เช่น เนื้อเรื่องที่ค่อนข้างธรรมดา AI ของศัตรูที่ยังไม่ฉลาด และปัญหาทางเทคนิคบางประการ โดยสรุป Dead Island 2 เป็นเกมที่สนุกสนาน เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบเกมแนวซอมบี้ คะแนน: 8/10 บทส่งท้าย10 เกมที่ได้แนะนำไปนี้ ล้วนมีเอกลักษณ์และความน่าสนใจในแบบของตัวเอง เกมเหล่านี้จะมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่คล้ายคลึงกับ Resident Evil แต่ก็มีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณค้นหาเกมสยองขวัญที่ถูกใจ และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับความกลัวที่คุณจะได้รับในระหว่างเล่นเกมเหล่านี้! ขอให้สนุกกับการเล่นเกมที่เหมือนเกมสยองขวัญอย่างเกมผีชีวะกันนะครับ! เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !