Mร้านสุกี้ขายดีQ4ไฮซีซั่น ปี66งบฟื้นตัวท่องเที่ยวดัน
ร้านสุกี้ขายดีไตรมาส 4/65 ไฮซีซั่น ยอดขายเติบโตแรง พร้อมมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวหนุน เดินหน้าขยายสาขาตามแผน ปี 66 ตั้งเป้ายอดขายกลับมากกว่าปี 2562 ที่ 1.78 หมื่นล้าบาท โบรกมอง ไตรมาส 3/65 กำไรพลิกฟื้นแข็งแกร่ง คาดทำได้ 442 ล้านบาท มองกำไรเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 4/65 เปิดสาขาใหม่หนุน ประเมินราคาเป้าหมาย 67.50 บาท
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M เปิดเผยว่า สำหรับยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในช่วงไตรมาส 4/2565 น่าจะเห็นการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นธุรกิจที่มียอดขายเติบโตอย่างมาก ประกอบกับโครงการคนละครึ่ง หรือ "คนละครึ่งเฟส 6" โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ของภาครัฐก็จะช่วยซึ่งจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการร้านเอ็มเคสุกี้ด้วย
อีกทั้งบริษัทยังคงเป้ายอดขายทั้งปี 2565 จะเติบโต 35-40% ควบคู่กับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนราคาต้นทุนที่มีการปรับขึ้นบ้างในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีการปรับราคาขายให้สะท้อนกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพื่อรักษาระดับกำไรขั้นต้น (Margin) ให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ
ไตรมาส4/65ไฮซีซั่น
“ขณะนี้ยอดขายก็ยังเติบโตได้ดี ไตรมาส 4/65 ยอดขายสาขาเดิมฟื้นตัวขึ้นชัดเจน เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจเป็นช่วงของการท่องเที่ยว และการที่ภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวออกมาก็จะช่วยให้ ยอดขายร้านเอ็มเคสุกี้ ดีขึ้นด้วย ดังนั้นปีนี้ผลงานก็ยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ “ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ กล่าว
ส่วนปี 2566 คาดว่าผลประกอบการจะกลับมาดีกว่าปี 2562 ที่มียอดขาย ที่ 17,870 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทยังเดินหน้าในการขยายสาขาใหม่ต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 4/2565 เพื่อรองรับการเติบโตในปี 2566
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง M ว่าจะพลิกเป็นกำไรสุทธิ 442 ล้านบาทใน ไตรมาส 3/2565 จากที่ขาดทุนสุทธิ 257 ล้านบาทใน ไตรมาส 3/2564 และทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า โดยผลประกอบการที่พลิกฟื้น จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นเพราะยอดขายเพิ่มขึ้นเนื่องจากไม่มีข้อจำกัดในการเปิดบริการในปีนี้ และฐานที่ต่ำใน ไตรมาส 3/2564
ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ดีขึ้น ถึงแม้ว่าตามปกติแล้ว ไตรมาสที่สามจะเป็นช่วง low season แต่คาดว่ากำไรจะทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยน่าจะช่วยชดเชย GPM ที่ลดลงเล็กน้อยได้ คาดว่ากำไรในงวด 9 เดือนปี 2565 จะดีขึ้นอย่างมากจากที่ขาดทุนสุทธิ 268 ล้านบาทใน 9 เดือนปี 2564 มาเป็นกำไร 1.2 พันล้านบาท คิดเป็น 68% ของประมาณการกำไรเต็มปี
ทั้งนี้คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.1 พันล้านบาท ในไตรมาส 3/2565 (เติบโต 107% จากช่วงเดียวกันปีก่อน, +2% จากไตรมาสก่อนหน้า) เนื่องจากการบริโภคฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง, มีวันหยุดยาวหลายช่วงในปีนี้, และผลจากฐานที่ต่ำ เราใช้สมมติฐาน SSSG ของร้านสุกี้ MK ที่ +105% (จาก -48%/+58% ใน ไตรมาส 3/2564 และไตรมาส 2/2565) ของร้านยาโยอิที่ เติบโต 100% (จาก -40%/+58% ใน ไตรมาส 3/2564 และไตรมาส 2/2565)
กำไรฟื้นตัวแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ดีกำไรจะสูงสุดในรอบปีนี้ในไตรมาส 4/2565 ซึ่งเป็นช่วง high season ยังคงมองว่ากำไรของ M จะเร่งตัวขึ้นทั้งจากปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้าในไตรมาส 4/2565 จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และการเข้าสู่ช่วง high season ซึ่งทำให้ GPM ดีขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะเปิดสาขาร้านใหม่เพิ่มอีก7ร้านใน ไตรมาส 4/2565 คาดว่าผลการดำเนินงานของ M น่าจะกลับไปอยู่ระดับเท่ากับก่อน COVID ระบาด โดยคงระดับอัตราการเติบโตของกำไรเอาไว้ได้ที่ 34% จากปีก่อน ในปี 2566 ายังคงราคาเป้าหมายปี 2566 เอาไว้เท่าเดิมที่ 67.50 บาท (PE ที่ 27x) และยังคงคำแนะนำซื้อ M